ตลาดอาหารแช่แข็ง พร้อมรับประทาน นับเป็นสมภูมิที่มีการแข่งขันรุนแรงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่มีการคาดการณ์มูลค่าถึง 1,000 ล้านบาทในปี 2548 และแม้ตลาดกว่า 50% จะตกเป็นของผู้เล่นในตลาดทั้งที่ความพร้อมในการสรรหาวัตถุดิบนำมาแปรรูปอาหารทะเล และเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอาหาร ที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง แต่ก็มีผู้เล่นเข้ามาร่วมชิงแชร์ตลาดอาหารแช่แข็งกันอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดค่ายเวนเจอร์เทค ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็ง ที่เติบโตในธุรกิจนี้ ด้วยการสร้างการรู้จักตัวสินค้าและแบรนด์จากธุรกิจโรงเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่น วี สคูล ก็เริ่มทำตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ใช้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ ส่งโรตี เมดิเตอร์เรเนียน ตราฮิปโป 2 รสชาติใหม่คือ รสเนยกระเทียม และรสซาวครีมและหัวหอม มาทำตลาด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองทำตลาดโรตี สำเร็จรูปมา 1 ปี เพียงรสชาติเดียว คือ ออริจินอล

การลงมาเล่นตลาดอาหารแช่แข็ง กลุ่มแป้งสำเร็จรูป เป็นรูปแบบการทำตลาดของเวนเจอร์ ที่ใช้วิธีการทำตลาด จากจุดแข็ง ที่มีโรงเรียนสอนทำอาหารเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาออกสินค้าเมนูใหม่ ที่มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาด ด้วยนวตกรรมเป็นจุดสร้างความต่างให้เมนูอาหารใหม่มาทำตลาด

อีกทั้งยังเน้นจุดขายเรื่องความสะดวก ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ริโภคตลาดระดับบน กลุ่มคนรุ่นใหม่ทำงานนอกบ้าน และไม่มีเวลาในการเตรียมอาหาร วางจำหน่ายผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ด้วยขนาดบรรจุจำนวน 5 แผ่น ราคา 40-50 บาท

ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดหลักๆ เน้นการแจกชิม การสาธิตการทำอาหาร ณ จุดขาย โดยมีพีซีประมาณ 15-30 ทีม ขณะที่การสื่อสารการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปรุงอาหารแช่แข็งในเมนูต่างๆ ผ่านสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ ภายใต้งบการตลาด 30 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 10 ล้านบาท

สำหรับเหตุผลในการเพิ่มงบการตลาด นั่นก็เพราะเวนเจอร์เทค ต้องการกระจายงบการตลาดให้คลอบคลุมการทำตลาดอาหารญี่ปุ่นแช่แข็ง และอาหารทะเลแช่แข็ง ภายใต้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ ซึ่งมี 4 แบรนด์หลัก คือ ปูอัดโอคา-นิ, ไส้กรอกปลาเวนทูน่า,วานิโอ เนื้อจระเข้ไทยไชโย และโรตี เมดิเตอร์เรเนียน ตราฮิปโป

รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ และสร้างการรับรู้ใหม่ในการบริโภคโรตี ที่สามารถปรุงเป็นอาหารคาว หวาน ทานเล่นหรือมื้อหลักได้ เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยมองว่าโรตีเป็นขนมหวาน

นอกจากนั้น ยังเป็นการแตกไลน์ไปสู่กลุ่มอาหารแช่แข็ง ในรูปแบบแป้งสาลี ที่ยังไม่มีคู่แข่ง โดยใช้แบรนด์ฮิปโป เป็นตัวรุกตลาด ทั้งนี้เพราะอาหารที่ทำจากแป้งเป็นอาหารประเภทที่มีศักยภาพน่าสนใจ สามารถมองหาโอกาสขยายตลาดได้อย่างไม่มีขีดจำกัด วอลเตอร์ ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวนเจอร์เทค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า

“ผลิตภัณฑ์อาหารที่เกิดจากแป้งมีการขยายตลาดไปได้ในหลายมิติการกินหลายสไตล์ เห็นได้ว่าวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของแต่ละเชื้อชาติมีอาหารที่ทำจากแป้งเป็นเมนหลักอาทิการบริโภค หมั่นโถว แป้งเปาะเปี๊ยะของชาวจีน ฮารุมากิ ของประเทศญี่ปุ่น และพาสต้า ของประเทศแมกซิโก และคาดว่าจากการออกสินค้าใหม่จะทำให้ยอดขายปีนี้เติบโต 40% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 20% และปี 2545 มียอดขายรวมประมาณ 100 ล้านบาท ”