|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จับตา "กรุงเทพบ้านและที่ดิน" ในเครือเพอร์เฟค หลังทุนข้ามชาติ ยักษ์ใหญ่จากสิงค์โปร์ กลุ่ม"เฟร์เซอร์ แอนด์ นีฟ "เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และเชี่ยวชาญตลาดอาคารสูงระดับโลก ลุยโปรเจ็กท์แรก อาคารชุดหรูหรา ระดับ 6 ดาว ริมเจ้าพระยา มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
หลังจากที่บรรดาดีเวลลอปเปอร์เจ็บปวดจากบทเรียนในอดีตในช่วงก่อนวิกฤตที่การลงทุน จะลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ และยอดขายให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยไม่ได้คำนึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง พวกพ้อง และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
ในที่สุดความเสียหายต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เกิดขึ้น โดยการเร่งลงทุนโดยไม่เหยียบเบรคของบรรดา ดีเวลลอปเปอร์เอง จนทำให้ทุกวันนี้ ก่อนที่คิดจะลงทุนโครงการ จะคิดอย่างรอบคอบ และไม่ลงทุนโครงการขนาดยักษ์อีก
แต่วันนี้ สถานการณ์การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ กำลังจะมีให้เห็นอีกครั้ง โดยกลุ่ม บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน ในเครือ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่จับมือกับพนธมิตรข้ามชาติ จากสิงค์โปร์ ทำโครงการขนาดมหึมา มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ในยุคที่ตลาดบ้านหรูหราราคาแพง โดยเฉพาะอาคารชุด ได้ก้าวเข้าสู่จุดอิ่มตัวตั้งแต่ปลายปีก่อน
โดยในช่วงปลายปีก่อน บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดินได้จับมือกับกลุ่มทุนใหญ่จากสิงคโปร์ คือบริษัท เซ็นเตอร์พอยท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดในเครือเฟร์เซอร์ แอนด์ นีฟ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของสิงคโปร์ เพื่อจัดตั้งบริษัท รีเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท ในสัดส่วนเท่ากันคือ 49% ส่วนที่เหลืออีก 2% เป็นของบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท บริเวณริมแม้น้ำเจ้าพระยา
"การเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนสิงคโปร์ เนื่องจากมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะราคาอสังหาริมทรัพย์ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ผลตอบแทนจากการลงทุนค่อนข้างสูง อีกทั้งประเทศที่กลุ่มเฟร์เซอร์ฯเข้าไปลงทุนมากกว่า 20 ประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกา แลเอเชียแปซิฟิก ส่วนใหญ่ อยู่ตัวแล้ว มีรายได้สม่ำเสมอ ดังนั้น จึงต้องการขยายการลงทุนไปในประเทศอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน"ลิม เอ เส็ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นเตอร์พอยท์ พร็อพเพอร์ตี้ กล่าว
สำหรับนโยบายการลงทุนในไทยนั้น จะลงทุนโครงการขนาดใหญ่ หรูหรา ภายในโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกผู้พักอาศัยครบวงจร ตามคอนเซ็ปต์ที่ลงทุนในสิงคโปร์ และประเทศอื่นทั่วโลก โดยโครงการที่ลงทุนร่วมกับบริษัท กรุงเทพบ้านฯ จะพัฒนาโครงการเป็นคอนโดมิเนียม ระดับ 6 ดาว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการนี้จะใช้เวลาพัฒนานาน 5-6 ปี เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่มีพื้นที่รวมกว่า 24 ไร่
ด้านธงชัย คุณากรปรมัตถ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส ๆ แรก เป็นคอนโดมิเนียมหรูหรา ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวนประมาณ 400 ยูนิต ขนาด 100 ตารางเมตรขึ้นไป มูลค่า 5,000 ล้านบาท จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปีครึ่ง
ส่วนโครงการเฟสที่ 2 จะเป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาว และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ริมน้ำ ส่วนเฟสที่ 3 จะเป็นช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ และอาคารสำนักงาน อยู่ด้านหน้าติดถนนพระราม 3
ทั้งนี้ การลงทุนจะค่อย ๆ พัฒนาโครงการทีละเฟส เพื่อลดความเสี่ยง หากภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยโครงการทั้งหมด จะแล้วเสร็จภายในเวลา 6-7 ปี
|
|
|
|
|