|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คราวนี้ถึงคิวชำแหละโฆษณารังนกจากค่ายสก๊อตที่เป็นเรื่องล่าสุดกันบ้าง จากเรื่องก่อนที่ใช้มุข ‘แมลงวันติดรอยย่นที่มุมปากของชายหนุ่มที่ไม่ดื่มสก๊อต’จนเรียกความสนใจจากคนดูได้ล้นพ้นแล้ว คราวนี้หันมาสร้างจุดเร้าใจในตัวโฆษณาอีกครั้งด้วยการใช้ ‘Sex Appeal’ของพรีเซนเตอร์หนุ่มที่ไปเย้ายวนใจตำรวจหญิง เพื่อดึงความสนใจของคนดู
สำหรับธีม (Theme)หลักของโฆษณาสก๊อตชิ้นนี้ยังอยู่ภายใต้แนวความคิดเดิมคือ “ดื่มสก๊อตแล้วหน้าเด็กและเด้ง” แต่เปลี่ยนการเล่าเรื่องใหม่ โดยเปิดฉากด้วยภาพของชายหนุ่มขับรถผ่านชนบทแห่งหนึ่งซึ่งร้อนและแห้งแล้งสไตล์คันทรี่ ซึ่งต้องมาติดสัญญาณมือห้ามรถของจราจรสาวที่โบกรถอยู่กลางสี่แยกพยายามถ่วงเวลาห้ามรถของชายหนุ่มให้นานที่สุดไม่ให้ออกขับออกไปแม้ว่าอีกทางหนึ่งเป็นมีเกวียนและรถเก่าๆวิ่งมาในระยะไกลมากก็ตาม ทั้งนี้เพราะต้องการจะดูใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มให้นานที่สุดพร้อมกับการส่งสายตาหยาดเยิ้ม ซึ่งระหว่างนั้นชายคนดังกล่าวก็ควักสก๊อตขึ้นมาดื่มโชว์โดยภาพแสดงให้เห็นขวดที่ดื่มแล้วจำนวนมากกองอยู่ที่พื้นรถด้วย แต่ในท้ายที่สุดหลังจากรอแล้วรอเล่าก็สามารถผ่านแยกนี้ไปได้พร้อมรอยจูบที่แก้ม แต่เนื้อเรื่องได้หักมุมสร้างรอยยิ้มด้วยการให้แยกต่อไปมีตำรวจหญิงรูปร่างจ้ำมั่มห้ามรถในลักษณะนี้อีก ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยรถหนีกลับมา สารที่ส่งผ่านหนังโฆษณาชิ้นนี้โดยรวมต้องการให้ผู้บริโภคสรุปความเอาเองว่า “ดื่มรังนกสก๊อตแล้วหน้าเด็ก” จนเป็นที่สนใจของเพศตรงข้าม แต่สก๊อตไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ ปล่อยให้คนดูสรุปความกันเอง
“ลักษณะโดยรวมของหนังโฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้แตกต่างจากหนังเรื่องก่อนๆ มากนัก เพราะยังคงเน้นเรื่องราวความเหมือนจริงในชีวิต ที่บวกกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีคาวมีมาดความเป็นบอยแฝงไว้ด้วย ถึงแม้ว่าฉากที่เราใช้จะสร้างมาจากจินตนาการ แต่ทั้งหมดก็ยังอยู่บนพื้นฐานของความจริง เพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่เคยเจอเลยในชีวิตประจำวัน จุดนี้เราคิดว่า จะสร้างความแตกต่างเพื่อช่วยในการจดจำของผู้บริโภคได้ดี” นี่คือความคิดเริ่มต้นในการทำหนังโฆษณาชิ้นนี้ของ ศิริ อำนวยพุทธเมธ ที่ควบทั้งตำแหน่งผู้กำกับและครีเอทีฟของโฆษณาชิ้นนี้เพียงคนเดียว
บุคลิกของพรีเซนเตอร์หนุ่มสก๊อตในชิ้นก่อน ๆ จนถึงชิ้นล่าสุดนี้ จะสะท้อนความเป็นผู้ชายที่ลุยๆ เท่ห์ๆ แต่ไม่เน้นภาพนักผจญภัยมากนัก คือ เมื่อดูแล้วให้ความรู้สึกที่ไม่หยุดนิ่ง ดูแล้วยังอยากโลดแล่นไปในโลกใบนี้ เรียกว่า จี้จุดความรู้สึกอิสระทางใจของผู้ชายที่อยากทำสิ่งต่าง ๆ แต่ยังทำไม่ได้ ในขณะที่นางแบบโฆษณาชิ้นนี้ก็ต้องถ่ายทอดความรู้สึกที่ไม่อาจทนต่อความเย้ายวนในความหล่อและเซ็กส์ซี่ของผู้ชายได้เช่นกัน
ก่อนจะมาเป็นหนังโฆษณาชิ้นนี้ได้เสนอความคิดกับลูกค้าไป 3 แบบ คือเรื่องของผู้ชายที่หน้าตาดี สาว ๆ หลงใหล กำลังถือไอศกรีมไปให้เด็กน้อย และเมื่อเด็กน้อยรับไป ก็พูดว่า “ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” ซึ่งถือเป็นการหักมุมของเรื่อง เพราะเราต้องการให้เห็นว่าแม้จะมีลูกแล้ว แต่หน้าก็ยังเด็กอยู่ ส่วนอีกเรื่องก็จะพูดถึงเหตุการณ์ในห้องพักของชายหนุ่ม 2 คน โดยฝ่ายหนึ่งคุยให้ฟังว่ามีหญิงสาวมองที่ตัวเขาตลอดวันที่ออกไปข้างนอกมาในขณะที่เขากำลังทาครีมบำรุงผิวหน้าอยู่ในลักษณะหลงตัวเอง ขณะที่ชายหน้าหล่อตัวจริงอีกคนกลับไม่พูดอะไรและนั่งกินสก๊อตอยู่เงียบๆอีกฝากหนึ่งของห้อง ส่วนเรื่องสุดท้ายซึ่งเลือกมาถ่ายทำโฆษณาเนื่องจากได้ให้คอมเมนต์ลูกค้าว่าน่าจะออกมาดีที่สุดก็เป็น ศิริ บรรจงเล่าถึงความคิดที่นำเสนอแก่ฝ่ายการตลาดของสก๊อต
การถ่ายทำโฆษณาชิ้นนี้ใช้เวลา 2 วันและตัดต่ออีก 2 วัน “ปัญหาเรื่องพระเอกที่เราอุตส่าห์สั่งตรงมาจากออสเตรเลียดันเกิดขี้แตกขึ้นมา เพราะกินของผิดสำแดงเข้าไปทำให้ระบบการจัดตารางในการถ่ายรวนไปหมด เราเลยต้องแก้ปัญหาด้วยการถ่ายลีลาการโบกรถของตำรวจหญิงให้เสร็จในวันแรกไปก่อน ส่วนอีกวันนึงก็ไม่ใช่ง่ายเพราะหลังออกพระเอกออกจากโรงพยาบาลแล้วได้มันก็ต้องมาเข้ากล้องนั่งเก็กหน้าหล่อให้ผมถ่ายทั้งๆที่ยังไม่หายหน้าซีดเมื่อวาน” ศิริ กล่าวกับผู้จัดการรายสัปดาห์อย่างติดตลก
ส่วนฉากที่เป็นถนนทั้งหมดนั้น ได้ยกกองไปถ่ายทำกันที่อำเภอรอยต่อของจังหวัดสระบุรีและลพบุรี เพราะโลเกชั่นแถวนั้นจะเป็นลานดินลูกรังโล่งกว้าง ซึ่งมีภูมิประเทศเหมือนเม็กซิโก แต่ด้วยความที่ถนนเส้นนั้นเพิ่งราดยางใหม่เอี่ยมสีดำ ทีมงานจึงต้องแก้ปัญหาโดยนำดินแดงไปโรยทับอีกทีเพื่อทำให้บรรยากาศเหมือนจริงมากที่สุด
ประสิทธิภาพของโฆษณารังนกสก๊อตในชุดที่ผ่าน ๆ มา ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า สามารถสร้างการจดจำให้เกิดขึ้นในใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ดังนั้นโฆษณาจึงมีผลต่อการสร้างรายได้ให้กับสก๊อตถึง 500 ล้านบาทและมีการเติบโตถึง 10 % ในปี 2547 ที่ผ่านมา หากไม่เช่นนั้นคงหยุดใช้โฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ตั้งแต่ชุด “ถ้าหล่อ ก็อย่างมาง้อแล้วกัน”
|
|
|
|
|