ตลาดคอนโดมิเนียมยังหอมหวน สำหรับเสี่ยตึ๋ง "อนันต์ อัศวโภคิน" บิ๊กบอส แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปีหน้าเตรียมลุยทำคอนโดฯโลว์ ไร้ท ระดับล่างเต็มสูบ ภายใต้แบรนด์ใหม่ หลังประสบความสำเร็จจาก แบรนด์ "The Bangkok" ที่เจาะกลุ่มลูกค้าบน
นพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) เปิดเผยว่า แนวทางการลงทุนโครงการใหม่ของ LH ในปีหน้าจะเป็นไปในรูปแบบเดิม คือให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม ในสัดส่วนเท่าๆ กัน แม้ว่า LH จะยังไม่ชำนาญในการทำตลาดคอนโดมิเนียมก็ตาม แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในรูปแบบดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยในปีหน้าจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2-4 แห่ง
นอกจากนี้ LH ยังอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์การลงทุนคอนโดมิเนียมใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ท่ามกลางกำลังซื้อที่ถดถอย โดยมีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมขาย ภายใต้แบรนด์ใหม่ที่เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง-ล่าง ที่มีราคาขายต่ำกว่า 35,000-60,000 บาทต่อตร.ม. แต่จะเปลี่ยนรูปแบบโครงการใหม่ และลงทุนพัฒนาโครงการในทำเลที่ห่างจากเขตใจกลางเมืองไม่ไกลมาก
โดยยังคงยึดติดกับแนวรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดิน เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีรายได้ต่ำกว่าฐานลูกค้าในแบรนด์ "The Bangkok"ที่มีราคาเฉลี่ย 35,000-60,000 บาทต่อตร.ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าของที่ดิน คาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมเปิดการขายได้ในปลายปีหน้า
รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมว่า ในช่วงปี 2546-2548 มีคอนโดมิเนียมที่เปิดการขายในตลาด 18,000 ยูนิต ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 5,000 ยูนิต โดยแบ่งออกเป็น 2 ตลาด คือ คอนโดมิเนียมระดับราคา 35,000-60,000 บาทต่อตร.ม. และระดับราคาตั้งแต่ 60,000 บาทต่อตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งแบ่งเป็นคอนโดมิเนียมย่านรัชดาฯ-พระราม9 ถึง 40% ของตลาดรวมในขณะที่ย่านสุขุมวิทมีสินค้าเพียง 15%
โดยตลอดทั้งปีนี้คาดว่าจะมีการส่งมอบคอนโดมิเนียมสูงกว่า 4,000 ยูนิต เพิ่มขึ้นจาก 2,100 ยูนิตในปี 47 ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ LH มียอดรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 4 โครงการแล้ว 2,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 1,500 ล้านบาทจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง โดย LH มีกำไรจากคอนโดมิเนียมเพียง 30% ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีกำไรมากถึง 45%
|