|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ในภาวะน้ำมันแพง วัสดุก่อสร้างตบเท้าขึ้นราคา ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรจะทำอย่างไร? เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปให้ได้
ลดต้นทุน -ระดมทุนดอกเบี้ยต่ำ เป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้มากที่สุด
ผู้ประกอบการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสจากต้นทุนพุ่ง ด้วยการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้าง ผลลัพธ์กำไรทะยาน
อุณหภูมิการแข่งขันของธุรกิจบ้านจัดสรรเดือดพล่านขึ้นอีกครั้ง เมื่อผู้ประกอบการทุกรายล้วนประสบปัญหาต้นทุนพุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากตัวแปรสำคัญคือราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่มีท่าทีที่จะหยุดนิ่ง ขณะนี้ราคาน้ำมันแตะระดับ 60เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ท่ามกลางกำลังซื้อที่หดหาย จากการชะลอการตัดสินใจซื้อ เพื่อดูท่าทีของรัฐบาล ที่มีผู้นำเป็นอดีตนักธุรกิจรายใหญ่ของประเทศว่าจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จีดีพีเติบโตแค่ราว 4-4.5% อย่างไร
ประกอบกับความไม่แน่ใจในรายได้ว่าจะเพียงพอกับรายจ่ายหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ต้องยอมรับว่ารายจ่ายเพิ่มขึ้นทั้งจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงค่าโดยสาร ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่รายได้กลับไม่มีวี่แววว่าจะปรับขึ้นแต่อย่างไร
รวมถึงปีก่อนหน้านี้ ผู้บริโภคได้เร่งซื้อบ้านไปเป็นจำนวนมาก เพราะได้รับสิทธิพิเศษจากมาตราการการลดหย่อนค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ ส่วนในปีก่อนและปีนี้ ไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะต้องทำให้ผู้บริโภคเร่งซื้อบ้าน ดังนั้น ตลาดบ้านจัดสรรไม่น่าจะมีอัตราเติบโตที่หวือหวาเหมือนในอดีตได้อีก
วิธีที่จะทำให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ในสถานการณ์เช่นนี้ คือต้องปรับตัวอย่างหนัก เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้
แต่เครื่องมือที่จะถูกนำมาช่วยพลิกสถานการณ์ที่เลวร้ายให้กลับมาดีขึ้น คืออะไร?
ลดค่าใช้จ่ายทุกด้านสู้คู่แข่ง
คำตอบคือ ต้องลดต้นทุนทุกด้าน เพื่อให้สามารถสู้กับคู่แข่งได้
ต้นทุนทางการเงิน เป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูง หากใครมีต้นทุนที่สูงกว่าคู่แข่ง ย่อมเสียเปรียบแน่นอน เพราะไม่สามารถขายบ้านได้ในราคาต่ำ ต้องขายในราคาสูงกว่า ตรงนี้จะทำให้ลูกค้าหันไปซื้อบ้านของบริษัทที่ขายในราคาต่ำกว่า
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ การระดมทุนด้วยวิธีใดจะเหมาะสมที่สุด ?
เล็งระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์
โดยบริษัทจัดสรรหลายแห่งเลือกใช้วิธีการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะนอกจากจะมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าการกู้ยืมจากสถานบันการเงินแล้ว ในแง่ของการตลาดยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าอีกด้วย
ขณะนี้มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างหลายรายที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท วังทอง กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ,บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งก่อนที่บริษัทดังกล่าวจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากบริษัท ปริญสิริ ที่ได้เสริมความแข็งแกร่ง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุน ด้วยการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ คือบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว ที่สำคัญยูนิเวนเจอร์ยังเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างดี เพราะที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับบริษัท แสนสิริ และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแล้ว (อ่านข่าวปริญสิริ ประกอบ )
ดึงมือการเงินเสริมทัพ
ส่วนวังทองกรุ๊ป ได้ดึงมืออาชีพด้านการเงินเข้ามาช่วยเสริมทัพ โดยได้ดึงพิชัย พิชัย ชุณหวชิร อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการเงินและบัญชีองค์กร จาก ปตท. เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท
นอกจากนี้ยังแต่งตั้งกรรมการบริษัทเพิ่มขึ้นอีก 3 คน คือ ทองสา อ้วนแก้ว อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง , สมหมาย โค้วคชาภรณ์ อดีตประธานกรรมการ บมจ. ไทยลู้บเบส และ พล.ต.อ.สมชาย วาณิชเสนีย์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าดำรงตำแหน่ง เพื่อลบจุดอ่อนของบริษัทที่ติดภาพการบริหารงานแบบครอบครัวสู่การบริหารงานแบบมืออาชีพมากขึ้น
เช่นเดียวกับ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ดึง พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เข้าดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ กรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ภายหลังจากได้นักการตลาดมืออาชีพจาก บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ อย่าง ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต เข้ามาเป็นกองหนุนทางด้านการตลาด
พฤกษาลดต้นทุน/กำไรพุ่ง
ขณะเดียวกัน พฤกษาฯ ยังเดินหน้าลุยแผนงานก๊อก 2 ด้วยการชูนโยบายลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยการลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป Precast รองรับการก่อสร้างบ้านในโครงการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยระบบดังกล่าวจะทำให้ พฤกษาฯ สามารถตั้งราคาขายบ้านระดับล่างได้ในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง เพราะต้นทุนก่อสร้างลดลง 10-15% และคาดว่าขีดความสามารถในการทำกำไรจะเพิ่มขึ้นจาก 18-19% เป็น 21%
ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มวัสดุก่อสร้างอย่าง บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์ ที่ได้บุลคลที่มีตำแหน่งใหญ่โตและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในสังคมอย่าง เตชะทิพย์ แสงสิงแก้ว อดีตรองผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าดำรงตำแหน่งประธานกรรมการตรวจสอบ, ทรงวุฒิ ชินวัตร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท ปตท.จำหน่ายก๊าชธรรมชาติ ในเครือปตท. และผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ(กคช.) ชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ นั่งเก้าอี้แท่นกรรมการตรวจสอบ เพื่อรองรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
"ทั้ง 3 คน ไม่ได้ถือหุ้นในสตาร์ฯ เป็นเพียงคณะกรรมการฯเท่านั้น แต่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักลงทุน เพราะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก"
คงจะต้องจับตาดูต่อไปว่า การหันมาปรับลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทที่กำลังจะผันตัวเองเข้าสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคที่เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้หรือไม่ ที่สำคัญจะสร้างยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายหรือไม่
|
|
|
|
|