|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ไพร์ม เนเจอร์ฯ” พลิกกลยุทธ์รับอสังหาฯ ขาลง หันกู้ “เกียรตินาคิน” แทนกู้เงินจากแบงก์ ยอมแบกภาระต้นทุนดอกเบี้ยเพิ่ม หวังพึ่งแขนขาพันธมิตรสร้างความคล่องตัวในการบริหารงาน เพิ่มความยืดหยุ่นด้านการตลาด ลดความเสี่ยงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออสังหาฯ พร้อมพลิกแผนเข้าตลาดฯ กะทันหัน หลังดึงมือดีการเงินเสริมทัพรับแผนแต่งตัวเข้าตลาดฯ ในช่วงปลายปีก่อน
ปัญหาราคาน้ำมัน แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มความระมัดระวังในด้านการลงทุนมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านการวางแผนงาน ทั้งด้านการลงทุนและการตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สุนัทที เนื่องจำนงค์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการสนับสนุนเงินกู้ วงเงิน 650 ล้านบาท จากบริษัท เงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด(มหาชน) หรือ kk เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนเฟสแรกของโครงการไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า หัวหิน มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่พักอาศัยริมชายหาดในรูปแบบของบ้านพักตากอากาศและคอนโดมิเนียม แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส ซึ่งในเฟสแรกเป็นที่ดินเปล่าพร้อมบ้านสั่งสร้างและบ้านเดี่ยวติดชายทะเล บนพื้นที่กว่า 51 ไร่ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินเปล่า 10 แปลงติดทะเลในเฟสนี้ไว้ถึง 500 ล้านบาท สำหรับเฟสที่ 2 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 3 ชั้น 6 อาคาร จำนวน 50 ยูนิต ส่วนเฟสที่ 4 เป็นที่ดินเปล่าและบ้านเดี่ยว บนพื้นที่รวมกว่า 35 ไร่
อย่างไรก็ตาม สุนัทที กล่าวว่า การยื่นขอรับสนับสนุนทางการเงินจาก kk ไม่ได้ทำให้บริษัทมีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่ในทางตรงกันข้ามบริษัทกลับต้องแบกรับภาระต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะการขอกู้จากแบงก์ต้องเสียดอกเบี้ยประมาณ 6-7% ซึ่งต่ำกว่าการขอกู้จาก kk ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 10% ต่อปี
“การกู้เงินจาก kk ไม่ได้ทำให้บริษัทมีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำกว่าการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ทั่วๆ ไป เพราะ kk ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี ในขณะที่แบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ย 6-7% ต่อปี แต่สิ่งที่บริษัทจะได้รับจาก kk คือ การให้บริการที่ครบวงจร และความยืดหยุ่นในด้านการบริหารงาน เมื่อบริษัทต้องการปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการตลาดและภาวะเศรษฐกิจ”
เลื่อนแผนเข้าตลาดฯ
สุนัทที กล่าวถึงความคืบหน้าของการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทเลื่อนแผนการดังกล่าวออกไป เนื่องจากต้องการความคล่องตัวในการบริหารงาน หลังจากศึกษาตลาดและพบว่า การเป็นบริษัทขนาดเล็กที่เน้นการลงทุนในโครงการแบบยูนีกมีความคล่องตัวในการดำเนินงานมากกว่าการเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งต้องแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการอิสระ และยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ทำให้การปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงาน หรือปรับรูปแบบการลงทุนทำได้ยาก เพราะต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน
“เราไม่ได้ล้มแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ถ้ามีการลงทุนโครงการใหญ่ๆ เกิดขึ้นในอนาคต อาจจะใช้บริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุน ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทมีแผนนำแลนด์แบงก์ใน จ.ชลบุรีซึ่งเป็นที่ดินของตระกูลมาพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดการลงทุนได้ในต้นปีหน้า”
ตามนโยบายเดิมบริษัทมีแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำเงินมาใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงการ และอยากได้ภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจอสังหาฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า แต่ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุนในตลาดฯ เพราะมีความสามารถในการระดมทุนเองได้ ประกอบกับมีKK ให้การสนับสนุนด้านการเงิน ซึ่งเป็นจุดดีอีกข้อหนึ่งที่ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินมากขึ้น
|
|
|
|
|