Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์29 กรกฎาคม 2548
ศุภาลัย/ปริญสิริเดินหาบริหารต้นทุน ลดความเสี่ยงรักษาผลกำไร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ปริญสิริ
โฮมเพจ ศุภาลัย

   
search resources

ศุภาลัย, บมจ.
ปริญสิริ, บมจ.
อธิป พีชานนท์
Real Estate
ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย




"ศุภาลัย"กระจายความเสี่ยงเลี่ยงเปิดขายทีละเฟส เลือกแบบบ้านให้ตรงกลุ่มลูกค้า ชูกลยุทธ์ราคาเป็นหัวหอกในการทำตลาด ปรับเป้ารายได้ปลายปีเพิ่มเป็น 7,000 ล้านบาท ด้าน "ปริญสิริ"บีบคอซัพพลายเออร์ล็อคราคาวัสดุนานกว่า 6 เดือน พร้อมเปิดโครงการใหม่อีก 3 แห่งภายในสิ้นปี

อธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย เปิดเผยว่า ความผันผวนทางเศรษฐกิจและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมัน ทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยบริษัทได้ปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนแทนการปรับขึ้นราคาขายบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดสเปควัสดุก่อสร้างให้เหมาะสมกับราคาขายบ้าน โดยลดการใช้วัสดุที่หรูหราฟุ่มเฟือยและหันมาใช้วัสดุที่ให้ประโยชน์มากกว่าความสวยงามแทน ซึ่งสามารถลดต้นทุนก่อสร้างได้ 3-4% ต่อยูนิต

นอกจากนี้ยังเลือกรูปแบบบ้านที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว เพื่อให้เหมาะกับราคาขายและกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยในโซนรามอินทราจะเลือกนำแบบบ้านดีลักษณ์ ซึ่งเป็นรูปแบบบ้านที่มีราคาขายต่ำสุดมาใช้ในการพัฒนาโครงการแทนการนำแบบบ้านซูเปอร์ดีลักษณ์ และเอ็กซ์พีเรียน ที่มีราคาสูง ซึ่งจะทำให้การตั้งราคาขายบ้านเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยรูปแบบบ้านในแต่ละดีไซน์จะมีราคาขายที่แตกต่างกันกว่า 100,000 บาทต่อยูนิต

"การเลือกแบบบ้านต้องถูกใจลูกค้าและเหมาะสมกับกำลังซื้อ โดยบริษัทจะไม่ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ให้มากเกินไป แต่จะพยายามรักษาพื้นที่บ้านเดี่ยวให้อยู่ที่ขนาด 50 ตร.วาต่อยูนิต ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทะยอยปรับราคาขายเพิ่มขึ้นในบางโครงการที่เป็นบ้านต้นทุนใหม่ โดยขณะนี้ในบางโครงการปรับราคาขายขึ้นแล้ว 2-3% และจะปรับขึ้นอีก 2-3% ในเดือนหน้า คาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะปรับขึ้นราคาขายบ้าน 6-8%"

อธิป กล่าวถึง แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6,100 ล้านบาทในช่วงต้นปี คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 60% เมื่อเทียบกับปี 47 ซึ่งมียอดขาย 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตขึ้นกว่า 7,000 ล้านบาทในปีหน้า เนื่องจากมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดการขายและเตรียมเปิดโครงการใหม่รวมกว่า 20 แห่ง ทั้งนี้ การปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นมีผลมาจากในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 4,000 ล้านบาท โดย 1,600 ล้านบาทเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นจากโครงการศุภาลัย ซิตี้โฮม รัชดาฯ เพียงโครงการเดียวปริญสิริล็อคราคาวัสดุยาว

ด้านชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปริญสิริ กล่าวว่า บริษัทใช้แนวทางการบริหารต้นทุนโดยการล็อคราคาวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า ซึ่งในบางโครงการล็อคราคาได้ 2-3 เดือนและในบางโครงการสามารถล็อคราคาได้นานกว่า 6 เดือน ทำให้บริษัทยังมีผลกำไรอยู่ในระดับสูงกว่า 30% อยู่ในระดับเดิมเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสูงกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ที่มีสัดส่วนกำไรลดลง

ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมียอดรับรู้รายได้กว่า 100 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน มิ.ย.มียอดขายแล้วประมาณ 448 ยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่า 2,000 ล้านบาท และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท โดยมียอดรับรู้รายได้ 2,300 ล้านบาท ซึ่งจะทะยอยรับรู้รายได้เพิ่มในไตรมาส 3 นี้

ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเปิดโครงการใหม่อีก 3 แห่ง ได้แก่ โครงการปริญญดา พระราม 2 ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดการขายในช่วงไตรมาส 3 โดยในช่วงไตรมาส 4 จะเปิดการขายโครงการทาวน์เฮาส์อีก 2 แห่ง คือ โครงการปริญลักษณ์ นวมินทร์ มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาทต่อแห่ง ซึ่งจะทำให้ ณ สิ้นปี 48 บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน 13 โครงการ ส่วนโครงการร่วมทุนกับบมจ.ยูนิเวนเจอร์ ย่านอ่อนนุช ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบผังโครงการ และเลือกแบรนด์ระหว่าง ปริญญดา และ ปริญลักษณ์ คาดว่าจะเปิดการขายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 49

ขณะเดียวกันในช่วงดังกล่าวบริษัทจะเปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียม ย่านลาดพร้าว44 อย่างเป็นทางการ โดยมีราคาขายกว่า 1 ล้านบาทต่อยูนิต บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us