|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ลลิล พร็อพเพอร์ตี้" ยอมรับยุทธศาสตร์สร้างบ้านก่อนขายพ่นพิษใส่อย่างจัง หลังดอกเบี้ยทะยาน ประกาศกลับลำหันสร้างบ้านสั่งสร้าง หวังลดภาระดอกเบี้ยจ่าย เน้นบริหารด้านการเงินให้แข็งแกร่ง เผยแบกสต็อกบ้านพร้อมขายถึง 200 ยูนิต
ไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้(LALIN)กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง LALIN จะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดบ้านสั่งสร้างมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากปัจจัยลบ ตลอดจนลดปัญหาสูญเสียยอดขายจากมาตรการคุมเข้มในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งทำให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าบางรายในโครงการ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขาย
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาบริษัทหยุดทำตลาดบ้านสั่งสร้างไประยะหนึ่ง และหันมาทำตลาดบ้านสร้างก่อนขาย ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก แต่การทำตลาดในลักษณะดังกล่าวต้องมีสภาพคล่องที่มากพอ เพราะต้องใช้เงินลงทุนล่วงหน้าก่อนขายสินค้า ดังนั้น ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นบริษัทจึงต้องเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการบริหารการเงิน โดยลดสต็อคบ้านสร้างก่อนขายลง เพื่อไม่ให้เงินจมอยู่กับค่าก่อสร้างมากเกินไป ซึ่งจะทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทลดลงตามไปด้วย
"ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นบริษัทต้องทบทวนเรื่องต้นทุนมากขึ้น ซึ่งการมีสต็อคบ้านมากเกินไปก็จะทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยปัจจุบันบริษัทมีสต็อคบ้านคงค้างประมาณ 600 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมขาย 200 ยูนิต ที่เหลืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง คิดเป็นมูลค่าขายประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถขายได้ประมาณ 120 ยูนิตต่อเดือน"
สำหรับเงื่อนไขของบ้านสั่งสร้างเบื้องต้นลูกค้าต้องวางเงินดาวน์ 15% ของมูลค่าบ้าน โดยกำหนดระยะเวลาในการผ่อนชำระกับบริษัท 6-7 เดือน หลังจากนั้นจึงโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งวงเงินจองและทำสัญญาจะขึ้นอยู่กับราคาบ้านที่ลูกค้าซื้อ โดยคาดว่าจากการกลับมาทำตลาดบ้านสั่งสร้างอีกครั้งจะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
|
|
|
|
|