|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บิ๊กจัดสรรแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และแสนสิริ โหนกระแสดอกเบี้ยแพง หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำพิชิตยอดขาย แลนด์เตรียมเปิดให้บริการธนาคารพาณิชย์ เพื่อรายย่อยปลายปี ส่วน"แสนสิริ"อาศัยสายสัมพันธ์แนบแน่นแบงก์รวงข้าว ปล่อยกู้ดอกเบี้ยคงที่ 3.25% 2 ปีแรก หลังจากนั้น MLR-1.0%
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันภาคการเงินเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ เพราะต้นทุนด้านการเงินเป็นต้นทุนที่สำคัญมากนอกเหนือจากต้นทุนด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง และการบริหารจัดการ ดังนั้น จึงไม่แปลกอะไรที่ปัจจุบันดีเวลลอปเปอร์จะหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านการเงิน ทั้งจัดการให้กับองค์กรตัวเอง และลูกค้า ทั้งนี้เพื่อรีดไขมันส่วนเกินขององค์กรออกให้เหลือน้อยที่สุด ขณะที่ในส่วนของลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการที่บริษัทช่วยจัดการด้านการเงินให้อย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงินพอสมควร เพราะการเลือกซื้อบ้านแต่ละหลังต้องใช้เงินค่อนข้างมาก บางคนใช้เวลาในการทำงานเกือบทั้งชีวิตกว่าจะได้บ้านหลังแรก ขณะที่บางคนอาจจะต้องเสียดอกเบี้ยมากถึง 2 ใน3 ของราคาบ้าน ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยกว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านสักหลัง ยังไม่รวมถึงความไม่แน่นอนในการผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 30 ปี ที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในรายได้ของผู้กู้
ดังนั้น ดีเวลลอปเปอร์จึงอาศัยจุดอ่อนในเรื่องดังกล่าวมาเป็นจุดแข็งในการขายบ้าน โดยหันมาให้ความสำคัญกับการจัดการด้านการเงินให้กับลูกค้า ซึ่งการจัดการจะใช้ลักษณะของการหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนอัตราดอกเบี้ยคงที่นานที่สุดมาเป็นสิ่งกระตุ้นกำลังซื้อ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
เริ่มจากบมจ.แสนสิริ ที่ได้จับมือกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่น ปล่อยกู้สำหรับลูกค้าที่จองซื้อบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมเนียมทุกโครงการของแสนสิริ โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ปีแรก 3.25% หลังจากนั้นคิด MLR-1.0% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และ 2.ดอกเบี้ยปีที่ 1. MLR-3.25% ปีที่ 2 MLR-2.25% หลังจากนั้น คิด MLR-1.0%ต่อปี ตลอดอายุสัญญา โดยลูกค้าวางเงินดาวน์เพียง 50,000 บาท สามารถกู้ได้สูงสุด 100% ของราคาซื้อขาย นอกจากนี้ยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการเงินกู้ 0.25% ของวงเงินกู้ และค่าประเมินโครงการและค่าประเมินรายย่อยอีกด้วย
อภิชาต จูตระกูล ประธานอำนวยการ บมจ.แสนสิริ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวน่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เพราะลูกค้าไม่ต้องวางเงินดาวน์ สามารถกู้ได้ 100% ที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกสิกรไทยจัดให้สำหรับลูกค้าแสนสิริยังพิเศษกว่าลูกค้าทั่วไป ที่คิดดอกเบี้ยต่ำมาก โครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันนี้ สิ้นสุดสิ้นเดือนก.ย.นี้
LHชูแบงก์กลุ่มแลนด์ฯธงนำ
ขณะที่ฟากพี่ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างบมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่แม้ว่า ณ วันนี้จะเป็นผู้นำอันดับ 1.ที่มีมาร์เก็ตแชร์สูง มียอดขายหลักหมื่นล้าน และห่างจากเบอร์ 2.และ3. อยู่หลายขุม ก็ไม่ได้อยู่เฉย รอให้คู่แข่งตามมาทัน เพราะมีการพัฒนาทุกด้าน ทั้งด้านพัฒนาสินค้า บริการ การตลาด การบริหารจัดการ รวมถึงการเงิน โดยที่ผ่านมาพยายามจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมาให้ลูกค้าแลนด์ฯอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้จับมือกับแบงก์ไทยพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก แต่ในอนาคตอันใกล้ ในราวปลายปีนี้ไม่เกินต้นปีหน้าธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยของกลุ่มแลนด์ฯจะเริ่มให้บริการได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบรวมกิจการกับบริษัทเงินทุน บุคคลัภย์ จำกัด (มหาชน)
อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ฯกล่าวว่า หลังจากที่แบงก์ในกลุ่มแลนด์ฯเริ่มแอ็คทีฟ จะทำให้ความสามารถในการขายโครงการของแลนด์ฯเร็วขึ้น เพราะแลนด์ฯมีความถนัดและคุ้นเคยกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์และอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าได้เร็วกว่าการยื่นของสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ในส่วนนี้จะทำให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ได้เร็วขึ้น
ธนาคารในกลุ่มฯจะเน้นการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ราว 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% จะปล่อยกู้ด้านอื่น ๆ เช่น เพอร์ซันนอล โลน โดยเป้าหมายหลักจะปล่อยกู้ลูกค้าในกลุ่มแลนด์ฯทั้งหมด ทั้ง แลนด์ฯ ,เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ และควอลิตี้ เฮ้าส์ ซึ่งเฉลี่ยปีก่อนทั้งกลุ่มจะขอสินเชื่อสำหรับรายย่อยราว 30,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นราวปีละ 10-15%
ในปีแรกธนาคารในกลุ่ม จะปล่อยสินเชื่อได้ราว 6,000-7,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นในปีต่อไปจนครบ 30,000 ล้านบาทใน 2-3 ปีข้างหน้า
"จุดเด่นของแบงก์แลนด์ฯ นอกจากจะให้บริการลูกค้าที่รวดเร็วกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ แล้ว ในแง่ของอัตราดอกเบี้ยจะใกล้เคียง หรือดีกว่าแบงก์พาณิชย์ทั่วไป เพราะเราเป็นองค์กรขนาดไม่ใหญ่ ค่าบริหารจัดการจะต่ำกว่าแบงก์ขนาดใหญ่ ตรงนี้จะทำให้เรามีต้นทุนต่ำกว่า และน่าจะปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่พิเศษกว่าแบงก์ทั่วไป"อนันต์ กล่าว
|
|
|
|
|