Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 สิงหาคม 2548
ไทยต้องคว่ำอินโดฯสู่ฮับสปา             
 


   
www resources

โฮมเพจ สมาคมผู้ประกอบการสปาไทย

   
search resources

Spa and Beauty
สมาคมผู้ประกอบการสปาไทย




สมาคมผู้ประกอบการสปาไทยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ หวังผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางสปาเอเชีย ล่าสุดเตรียมเข้าร่วมงานที่สิงคโปร์ “แอมเบียซ์ เอเชีย 2005” หวังใช้เป็นเวทีประตูการค้าธุรกิจสปาไทยไปยังนานาชาติ พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์โอทอป “สปา เดคคอร์” คาดช่วยกระตุ้นรายได้เพิ่ม 20-30% ชี้สปาไทยเป็นรองเพียงอินโดฯในแง่ผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรม ส่วนจุดแข็งของไทยอยู่ที่บริการและโนว์ฮาว ด้านธุรกิจสปาในไทยปีนี้คาดว่ายังโต 10% ขณะที่ปีแล้วโตสูงถึง 30%

นางสาวกรณ์สรวง ภิรมย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการสปาไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯได้ดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่ต้องการผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางสปาของเอเชีย (The Capital Spa of Asia) ดังนั้นทางสมาคมฯจึงต้องมีการวางแผนทางธุรกิจ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสปาไทยให้ดีขึ้นและเป็นผู้นำในตลาดเอเชียได้ อาทิ ได้มีการรวมองค์ประกอบของธุรกิจสปาเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสปา เซอร์วิส, สปาโปรดักส์ ,สปา เดคคอร์เรชั่น และสปา แอสเซสซอรี่ เป็นต้น จากนั้นเตรียมประสานงานไปยังภาครัฐและเอกชนในการร่วมผลักดันธุรกิจสปา

“ปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นเราจึงต้องทำให้คนต่างชาติสนใจและอยากมาใช้บริการสปาในไทย ซึ่งตรงนี้จะทำให้เงินไหลเข้ามาในประเทศมากขึ้น รวมทั้งในส่วนของรายได้ที่มาจากการส่งออกผลิตภัณฑ์สปา เช่น ของตกแต่ง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันการส่งออกของไทยยังไม่เป็นแบบแพคเกจ ที่ผ่านมาเราจะขายโนว์ฮาวและเทรด ดังนั้นทางสมาคมฯจึงต้องวางแผนในการเจาะตลาดด้วยการรวมธุรกิจสปาเข้าด้วยกันและนำเสนอออกเป็นในรูปแบบแพคเกจ”

ล่าสุดทางสมาคมฯ ได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ด้วยการเข้าร่วมงาน “แอมเบียนซ์ เอเชีย 2005” ที่สิงคโปร์ ซึ่งเวทีดังกล่าวนี้จะเป็นการเปิดตลาดธุรกิจสปาไทยไปยังตลาดต่างประเทศ โดยในงานดังกล่าวจะมีโซนไทยพาวิลเลียน มีเนื้อที่ประมาณ 216 ตารางเมตร ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการไทยสนใจเข้าร่วมงาน 17 ราย จากเป้าที่วางไว้ 20 ราย พร้อมกันนี้ในงานทางสมาคมฯเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “สปา เดคคอร์” ซี่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากภูมิปัญญาไทยหรือโอทอป อาทิ หม้อดิน,พาน ,กระบุง และตุ๊กตาเด็กไทย เป็นต้น เพื่อเป็นการขยายฐานตลาดและยังช่วยสร้างรายได้ในระดับรากหญ้าของไทย

“การทำตลาดสปา เดคคอร์เราจะเน้นการประชาสัมพันธ์ก่อนในช่วงเริ่มต้น ซึ่งเรายังมีผลิตภัณฑ์อีกมากที่จะเข้าร่วมสปา เดคคอร์ มองว่าตรงนี้ผู้ประกอบการและภาครัฐควรจะช่วยกันยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมไทยให้ดียิ่งขึ้น โดยคาดว่าสปา เดคคอร์จะช่วยสร้างมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 20-30%”

ทั้งนี้งานแอมเบียนซ์ เอเชีย 2005 ซึ่งเป็นงานนิทรรศการนานาชาติที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการด้านท่องเที่ยว โรงแรม สปา และสถานบันเทิงต่างๆ จัดขึ้นปีนี้เป็นปีแรก โดยงานนี้จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 30 ก.ย. -2 ต.ค. 48 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและนิทรรศการซันเทค ประเทศสิงคโปร์ บนพื้นที่ขนาด 4,000 ตารางเมตร โดยมีจำนวนบริษัทที่เข้าร่วม 200 แห่ง จาก 15 ประเทศ

ภายในงานยังประกอบไปด้วย 4 งานใหญ่ อาทิ 1. งานบริวเวอรี่ เอเชีย 2005 งานแสดงสินค้าและบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , 2.งานเอ็กเซกไลฟ์ เอเชีย 2005 งานแสดงสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ และอุปกรณ์กีฬาและสันทนาการ , 3.Indulge Asia 2005 งานแสดงผลิตภัณฑ์เพื่อการสวมใส่และตกแต่งร่างกาย และ4. งานสปา เอเชีย 2005 งานที่รวมธุรกิจสปาทุกอย่าง คาดว่างานนี้จะมีผู้เข้าชมงานทั้งผู้ผลิตและซับพลายเออร์กว่า 10,000 ราย ในระยะเวลา 3 วัน

ชี้ผลิตภัณฑ์สปาไทยเป็นรองอินโดฯ
นายกสมาคมผู้ประกอบการสปาไทย กล่าวด้วยว่า ภาพรวมตลาดสปาในเอเชียขณะนี้อินโดนีเซียถือเป็นผู้นำตลาดในแง่ความพร้อมทางด้านต่างๆ อาทิ วัฒนธรรมและบรรยากาศที่มีความเป็นธรรมชาติ รวมถึงผลิตภัณฑ์สปาของอินโดนีเซียถือว่าได้เปรียบไทยอยู่ แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องภายในประเทศของอินโดนีเซียทำให้ธุรกิจสปาไม่บูมเท่าที่ควร

ขณะที่ตลาดไทยในปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดสปาในแง่การบริการและโนว์ฮาวแล้ว ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปายังสู้อินโดนีเซียไม่ได้ เนื่องจากผู้ผลิตและสปา โอเปอเรเตอร์หรือผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีความเข้าใจไม่ตรงกันและมีกรรมวิธีในการใช้ที่ผิด เป็นต้น อย่างไรก็ตามธุรกิจสปายังเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอยู่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าขณะนี้มีหลายประเทศสนใจธุรกิจนี้ อาทิ สิงคโปร์, เวียดนาม, ฮ่องกง ,ไต้หวัน และญี่ปุ่น

“กลยุทธ์ที่จะทำให้ไทยแซงหน้าอินโดนีเซียได้ เราต้องมีการระดมในส่วนของการเรียนรู้ถึงโครงสร้างอุตสาหกรรมสปา การศึกษาธุรกิจ และการเข้าถึงจุดเด่นของคนไทยที่ชอบความเป็นโฮสพิทอลลิตี้ เป็นต้น รวมถึงการได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางสปาของเอเชียอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับธุรกิจสปาในไทยปีที่แล้วมีมูลค่ากว่า 7,000 -8,000 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 30% โดยปีนี้คาดการณ์ว่าธุรกิจสปาโตน้อยลงกว่าเดิมหรือประมาณ 10% เนื่องจากโดนผลกระทบจากหลายปัจจัย อาทิ โรคซาร์ส และคลื่นสึนามิถล่มภาคใต้ ทำให้ธุรกิจสปาบางแห่งต้องซ่อมแซมและปรับปรุงส่วนที่เสียหาย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us