Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 สิงหาคม 2548
SCIB เสนอบอร์ดอนุมัติปันผลวันนี้ พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจบัตรเครดิต             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย

   
search resources

ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.
Credit Card




ธนาคารนครหลวงไทย เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกลางวันนี้ พร้อมเดินหน้าเดินหน้าลุยธุรกิจบัตรเครดิต เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีเงินเดือนผ่านแบงก์ Payroll ลดความเสี่ยงและต้นทุน ชูจุดเด่นดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเสริมผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล SCIB CREDITและ SCIB SALARY PLUS วางเป้ายอดบัตรปีนี้ผลิตภัณฑ์ละ 1 แสนบัตร เน้นออกแคมเปญกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 5 พันบาทต่อบัตร

นายอรุณ จิรชวาลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB กล่าวถึง นโยบายการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2548 ว่า ธนาคารยังคงยึดนโยบายเดิมในการจ่ายเงินปันผล คือกำหนดจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิ และคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารมีผลการดำเนินงานขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โดยผลการดำเนินงานปกติของธนาคารเฉลี่ยจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 10% ส่วนรายได้พิเศษจากการลงทุนในปีนี้มีแนวโน้มที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นไปตามที่ธนาคารได้คาดการณ์ไว้

"ผลจากการดำเนินงานที่ยังมีการเติบโต ทำให้นโยบายจ่ายเงินปันผล ณ ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งธนาคารก็ยังน่าจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลได้ โดยผลการดำเนินงานตามปกติของธนาคารยังมีการขยายตัวได้ดี แม้ว่ารายได้พิเศษจะลดลง" นายอรุณ กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากธนาคารรายหนึ่ง กล่าวว่า ในวันนี้ (24 ส.ค.) ธนาคารจะนำเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานประจำงวด 6 เดือน เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารพิจารณาด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรก ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 3,272 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 1.55 บาทต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) เท่ากับ 19.33% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) เท่ากับ 1.39% กำไรลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 3,702 ล้านบาท หรือลดลงจำนวน 430 ล้านบาท หรือประมาณ 11% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จำนวน 11,243 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.75% ของสินเชื่อรวม

ด้านแผนการดำเนินงานนั้น นายสุจิน สุวรรณเกต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารจะเน้นขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ มีศักยภาพในการผ่อนสูง เช่น กลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการจ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร (Payroll) ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าวประมาณ 700,000 ราย ดังนั้นมองว่าธนาคารยังมีโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตในกลุ่มดังกล่าวได้อีกมาก

โดยยอดบัตรเครดิตของธนาคารตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกรกฏาคมเพิ่มขึ้นกว่า 70,000 บัตร ซึ่งเชื่อว่าทั้งปีจำนวนบัตรเครดิตของธนาคารน่าจะเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายคือ 100,000 บัตร จากฐานบัตรเครดิตปัจจุบันอยู่ที่ 250,000 บัตร และในปี 2550 ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตใหม่ 500,000 บัตร

"ธนาคารมองถึงสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้จากบัตรเครดิตมากที่สุด โดยมั่นใจว่าธนาคารได้ให้ข้อเสนอในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสถาบันการเงินอื่นๆ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 17.25% เนื่องจากต้นทุนของธนาคารจะต่ำ ทั้งจากความเสี่ยงที่ต่ำในกลุ่มลูกค้า Payroll ด้านการใช้ช่องทางสาขาเป็นช่วยขายผลิตภัณฑ์
ทำให้มีต้นทุนที่ต่ำสามารถคิดดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำกว่าสถาบันกหารเงินอื่นๆได้"

นอกจากนี้ธนาคารจะออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเฉลี่ยประมาณ 5,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนใหญ่การใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารอันดับหนึ่งจะเป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค อันดับสองจะเป็นการเติมน้ำมัน

ส่วนบริการสินเชื่อ SCIB CREDIT สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไป และ SCIB SALARY PLUS สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ใช้จ่ายเงินเดือนผ่านธนาคาร (Payroll) โดยธนาคารได้กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะเน้นอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าคู่แข่งสำหรับบริการประเภทเดียวกัน คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยชั้นดี MRR + 13 % และ MRR + 8 % สำหรับบริการ SCIB CREDIT และ SCIB SALARY PLUS โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนบัตรดังกล่าวประมาณ 100,000 บัตรภายในปีนี้ และอีก 100,000 บัตรภายในปี 2550

ส่วนบัตรเดบิตนั้น ได้เสนอทางเลือกให้กับลูกค้าบัตรเอทีเอ็ม ที่จะต้องการจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการใช้บัตร
นอกเหนือจากการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม โดยมีเป้าหมายที่จะปรับจากบัตรเอทีเอ็มเป็นบัตรเดบิต จากปัจจุบันมีฐานบัตรเอทีเอ็มประมาณ 500,000 บัตร ซึ่งลูกค้าจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการเปลี่ยนเป็นบัตรเดบิต อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ใช้จ่ายซื้อสินค้าได้เหมือนกับบัตรเครดิต

"กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แบงก์มุ่งเน้นในการขยายฐานผลิตภัณฑ์บัตรทุกประเภท เช่น กลุ่มเงินฝาก สินเชื่อ พนักงานบริษัท พนักงานรัฐวิสาหกิจและข้าราชการ และกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการจ่ายเงินเดือนผ่านแบงก์ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us