|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ดูนี่" บริษัทต่างชาติด้านสินค้าและบริการแบบครบวงจร (Total Solution)รุกตลาดเอเชียแปซิฟิใช้ไทยเป็นฐานทัพ ลุยเพิ่มกำลังการผลิตเต็มสูบเพื่อส่งออกทั่วภูมิภาค รองรับความต้องการสินค้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยว-ตอบกระแสสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมหนุนไทย เป็นฮับการบินและการท่องเที่ยวของภูมิภาค
ตลาดสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์อาหาร การจัดแต่งและเสิร์ฟอาหารในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการจัดเลี้ยงสังสรรค์ในที่พักอาศัย ภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม บนเครื่องบิน เรือสำราญ ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ ตลอดการเดินทาง ทั้งหมดนี้คือกลุ่มเป้าหมายที่ "ดูนี่"รุกตลาดคืบเข้ามาสู่ประเทศไทย
การประกาศลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตในด้านผลิตภัณฑ์พลาสติก ที่โรงงานใน จ.ปราจีนบุรี ด้วยเม็ดเงินกว่า 40 ล้านบาท เป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มียอดรวมกว่า 5,000 ตันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าในระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค พร้อมทั้งสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติในระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคตอันใกล้
โรแลนด์ โกรแมนน์ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค บริษัท ดูนี่ จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาสินค้าและบริการของเราได้รับการสนับสนุนและตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการจัดหาและพัฒนาสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราทั้งในส่วนสายการบิน โรงแรม ผู้ให้บริการด้านการจัดเลี้ยง ภัตตาคาร ร้านอาหาร ตลอดจนตลาดการค้าปลีก
"เราจึงตัดสินใจลงทุนเพิ่ม เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและการเติบโตของตลาดทั้งภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคโดยรวม"โกรแมนน์ กล่าว
โกรแมนน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันดำเนินธุรกิจใน 26 ประเทศทั่วโลก มีฐานการผลิตกระจายอยู่ 6 แห่ง ใน 3 ภูมิภาคหลัก ได้แก่ ยุโรป อเมริกา และ เอเชียแปซิฟิค มีพนักงานทั้งหมด 3,600 คน ซึ่งในปี 2546 บริษัท ดูนี่ มียอดขายสุทธิโดยรวมถึง 615 ล้านยูโร หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการลงทุนเพิ่มในครั้งนี้จะทำให้จุดยืนของดูนี่ในตลาดภูมิภาคนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น
"ด้านโรงงานในไทยจะเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ เพื่ออำนวยสะดวก และเพื่อตกแต่งบรรยากาศในการรับประทานอาหารและพักผ่อนอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อส่งออกไปยังประเทศ ต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้"โกรแมนน์ กล่าว
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งศักยภาพในภาคการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร ประกอบกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการบินในระดับภูมิภาค
ขณะเดียวกันคาดว่าภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จะเติบโตสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความต้องการสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากสินค้าหลักกลุ่มหนึ่งของดูนี่ คือสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหาร และอำนวยความสะดวกระหว่างการเดินทาง ตั้งแต่ภายในเครื่องบิน เรือสำราญ โรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหาร หรือแม้แต่การจัดเลี้ยงสังสรรค์ในที่พักอาศัย อาทิ ภาชนะพลาสติก กระดาษเช็ดมือ (Napkin) เครื่องปูรองต่าง ๆ เซรามิค เครื่องแก้ว แสตนเลส รวมถึงเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในการเดินทางไปจนถึงที่คลุมพนักพิงศีรษะและผ้าห่ม
"เราผลิตสินค้าทั้งแบบใช้ครั้งเดียว (disposable) และ แบบสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (rotable) ถึง 650 ล้านชิ้น ในปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับตลาดทั้งในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศทั่วภูมิภาค โดยเป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงขึ้นอีกในปีนี้จากการเติบโตของตลาดโดยรวม"โกรแมนน์กล่าวพร้อมกับเสริมว่า ธุรกิจของดูนี่ในเอเชียและแปซิฟิก เติบโตขึ้นกว่า 40% และมียอดขายสูงถึง 700 ล้านบาท ในปี 2547 ที่ผ่านมา
"การลงทุนในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท เพื่อขยายการลงทุนในเอเชีย และเพื่อการขยายธุรกิจและส่วนแบ่งทางการตลาดในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค ซึ่งธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะกลุ่มสายการบินและการบริการระหว่างการเดินทาง เป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จก่อให้เกิดผลกำไรและมีประสิทธิภาพอย่างมาก" ผู้บริหารบริษัท ดูนี่ กล่าวทิ้งท้าย
|
|
|
|
|