การขอเป็นสปอร์เซอร์ให้กับทีมสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของแอร์เอเชีย เป็นหนึ่งยุทธวิธีการตลาดที่ถูกนำมาใช้สร้างแบรนด์ทางลัดให้เป็นที่รู้จักในแถบยุโรปก่อนที่ฤดูกาลไฮซีซันจะมาถึง

ตัวเลขประมาณการปี 48ของนักท่องเที่ยวจากยุโรปกว่า 8 ล้านคนต่อปีคือกลุ่มเป้าหมายที่สายการบิน แอร์เอเชีย ต้องการให้เข้าไปใช้บริการมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นการทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเกือบพันล้านบาทเพื่อสนับสนุนทีมสโมสรฟุตบอลดังอย่างแมนยูฯจึงเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของคนยุโรปมากขึ้น และเป็นทางเลือกหนึ่งของการเข้าใช้บริการอันดับต้นๆในธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำแถบเอเชีย

ในสัญญาจึงระบุถึงกิจกรรมต่างๆที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันตลอดฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีค 2005-2006 ที่ประกอบด้วยกิจกรรมที่เกี่ยวกับการสนับสนุนและการโฆษณากิจกรรมต่างๆของทีมฟุตบอลฯ โดยมีผลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 48 และสัญญาฉบับนี้จะรวมไปถึงบริษัทในเครือแอร์เอเชีย ที่มี สายการบินไทยแอร์เอเชีย ของประเทศไทย และสายการบิน Awair ของอินโดนีเซีย ร่วมอยู่ด้วย

“กีฬาจะสามารถเป็นตัวเชื่อมที่ยอดเยี่ยมของสายการบิน กับกลุ่มแฟนๆของทีมฟุตบอลฯการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ จะทำให้แอร์เอเชียใกล้ชิดกับชาวยุโรปมากขึ้น และดึงดูดให้กคนกลุ่มนี้มาใช้บริการสายการบินฯ นอกจากนี้การทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันถือเป็นการขอบคุณลูกค้าคนไทยที่เป็นแฟนคลับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย”ทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าว

ขณะเดียวกันแผนการตลาดในรูปแบบ เอนเตอร์เทรนเม้มท์แอร์ไลน์ เป็นกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจโลว์คอนแอร์ไลน์ได้ในเวลานี้ นอกจาก ตั๋วราคาถูกแล้วเครื่องยนต์ต้องใหม่ ขณะเดียวกันต้องขยายเส้นทางเพิ่มและหากิจกรรมเข้ามาเสริมอยู่ตลอด

การจับมือพันธมิตรเพื่อรุกตลาดในแถบยุโรปของแอร์เอเชียครั้งนี้นับว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา ทัศพล บอกว่า คุ้มเกินคุ้ม เพราะถ้าใช้เม็ดเงินจำนวนเท่ากันรุกตลาดในแถบยุโรปด้วยการออกโรดโชว์หรือทำตลาดด้วยการโฆษณาจะไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนได้แบบนี้

“ขณะเดียวกันแอร์เอเชียก็ได้รับผลประโยชน์ในเรื่องของลิขสิทธิ์การผลิตสินค้าที่มีโลโก้หรือรูปภาพดารานักฟุตบอลทีมแมนยูฯเพื่อจำหน่ายตลอดอายุสัญญาก็คุ้มแล้ว อย่าลืมว่าแฟนคลับแมนยูฯทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในแถบเอเชียมีอยู่จำนวนมาก”ทัศพล กล่าว

ในอนาคตอันใกล้สายการบินแอร์เอเชียทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศแถบเอเชียก็จะมีสินค้าของที่ระลึกภายใต้แบรนด์แมนยูฯออกวางจำหน่ายทั้งบนเครื่องและบูธของสายการบิน ขณะเดียวกันชื่อแบรนด์ของแอร์เอเชียก็จะไปปรากฏบริเวณสโมสรแมนยูฯเช่นกัน

เตรียมรองรับตลาด

ด้วยช่องทางการให้บริการเพื่อสะดวกต่อกลุ่มลูกค้าที่ง่ายขึ้น โดยเป็นบริการแบบไร้บัตรโดยสาร ผู้โดยสารสามารถจองการเดินทางและชำระเงินได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ที่ศูนย์คอลเซ็นเตอร์,จองผ่านสำนักงานขาย, ช่องทางการจำหน่ายแบบง่ายๆทางบัตรเครดิต หรือการจองผ่านอินเตอร์เน็ต

ทัศพล บอกว่าทุกช่องทางการให้บริการทั้งหมดนี้ถูกวางระบบออกมาเพื่อรองรับตลาดทั้งคนไทยและต่างประเทศ การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับสโมสรแมนยูฯครั้งนี้ แอร์เอเชียต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและให้เป็นที่รู้จักออกไปสู่สายตาชาวยุโรปและทั่วโลกที่ยังไม่รู้จักสายการบินต้นทุนต่ำแถบเอเชีย

“การทุ่มทุนครั้งนี้ถึงแม้จะเป็นเงินก้อนโตแต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ได้รับก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซันจะทำให้ชาวยุโรปได้รู้จักสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง แอร์เอเชีย และถ้าเขาได้เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยและประเทศรอบข้าวแถบเอเชียชื่อแบรนด์นี้จะทำให้เขาตัดสินใจซื้อตั๋วได้เร็วขึ้นเพราะอย่างน้อยแฟนพันธุ์แท้แมนยูฯที่มีอยู่ทั้งยุโรปและแถบเอเชียก็จะรู้จักแอร์เอเชียกันมากขึ้นเช่นกัน”

ขณะเดียวกันแอร์เอเชียมีแผนที่จะปรับขยายเส้นทางบินเพิ่มเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยประเทศไทยจะมีเครื่องบินที่ให้บริการทั้งหมดตามแผนการที่วางไว้จำนวน 20 ลำ ส่วนอีก 40 ลำจะกระจายไปยังประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีเครื่องบินประจำการอยู่ 6 ลำอยู่แล้ว และเริ่มทยอยรับเครื่องบินใหม่เข้ามาอีกจำนวน 3 ลำในเดือนกันยายน ส่งผลให้ปีนี้สายการบินมีเครื่องบินให้บริการทั้งหมด 9 ลำ

การเปิดตลาดเพื่อขยายเส้นทางเพิ่มของแอร์เอเชียยังคงดำเนินการต่อเนื่องเพื่อสร้างความหลากหลาย โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างประเทศที่มีความหมายต่อธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำอย่างมาก เพราะยิ่งเส้นทางยาวเท่าไรผลกำไรต่อธุรกิจย่อมมีมากเท่านั้นและคาดว่าเมื่อทุกอย่างพร้อมแผนการขยายเส้นทางบินใหม่ในภูมิภาคอินโดจีนใน 2 เส้นทางไปกลับ ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-ฮานอย และกรุงเทพฯ-พนมเปญ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาขอลดค่าจอดสนามบิน เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการบินที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาน้ำมันที่ผันผวนไปทางที่แพงขึ้นกำลังจะเปิดให้บริการภายในอนาคตอันใกล้นี้

จากแผนการตลาดและการลงทุนดังกล่าว คาดว่าจะทำให้สายการบินสามารถบรรลุเป้าหมายการขนผู้โดยสารจำนวน 2.5 ล้านคนในปีนี้ได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยปัจจุบันตั้งแต่เดือนมกราคม- กรกฎาคมนี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณกว่า 7-8 แสนคนทีเดียว

ความพยายามของ แอร์เอเชีย ที่หยิบเอากลยุทธ์ เอนเตอร์เทรนเม้นท์แอร์ไลน์ มาใช้ในรูปแบบ สปอร์ตมาร์เกตติ้ง นับเป็นครั้งแรกของการรุกตลาดต่างประเทศโดยอาศัยพันธมิตรร่วมที่มีแบรนด์เนมอันโด่งดังอย่างแมนยูฯเข้ามาช่วยสร้างชื่อของ แอร์เอเชีย ให้เป็นที่รู้จัก....และด้วยระยะเวลาแค่ 1 ปีต่อจากนี้ไปถามว่าแอร์เอเชียจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้คุ้มอย่างที่ตั้งใจหรือไม่ต้องติดตาม...