เส้นทางบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนมีปัญหาขาดทุนมาโดยตลอดสำหรับการบินไทย หนทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือพยายามผลักภาระให้กับผู้โดยสาร(นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ)ด้วยการขึ้นค่าตั๋วโดยสารเกือบ 50% เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการบินไทยกำลังเดินทางผิดแก้ปัญหาไม่ตรงจุด

กรณีการบินไทยขอเพิ่มอัตราค่าโดยสารระหว่างเชียวใหม่-แม่ฮ่องสอนจากเดิมราคา 1,070 บาทเป็น 1,500 บาทเฉพาะที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้น ขณะที่ประชาชนคนไทยนั้นกลับต้องมีการพิจารณาอีกครั้งซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้ และนั่นอาจส่งผลต่อเอเย่นต์ขายทัวร์ยากขึ้น

กลยุทธ์ปรับราคาขึ้นมาครั้งนี้หลายฝ่ายกลับมองว่าการบินไทยแก้ปัญหาไม่ตรงจุดเพราะ ต้นทุนการบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ถือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งการบินไทย ควรจะแนวหาทางที่ตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องบินที่เหมาะต่อเส้นทางในระยะเวลาแบบนี้ กอปรลดจำนวนกัปตันและลูกเรือพร้อมพนักงานภาคพื้นดินลงเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลง

เนื่องจากเวลาทำการบินเส้นทางนี้จะใช้เพียง 30 นาทีเท่านั้นและก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแจกน้ำหรือขนมบนเครื่องบินในกรณีนี้เป็นต้น นอกจากนี้แล้วพนักงานภาคพื้นดินของการบินไทยกลับมีจำนวนมากเกินความจำเป็น เปรียบเทียบกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ที่บินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนช่วงที่การบินไทยหยุดบินเพื่อซ่อมเครื่องยนต์มีกัปตันพร้อมลูกเรือเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น

แม้ว่า วสิงห์ กิตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท การบินไทยจะมั่นใจว่าการขึ้นราคาค่าโดยสารร้อยละ 50 ครั้งนี้จะส่งผลให้มีพันธมิตรสายการบินเอกชนเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้น แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมว่าเส้นทางนี้ไม่ว่าจะเป็นการบินไทยหรือสายการบินพันธมิตรร่วมต้องทำการบินอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้บริษัทนำเที่ยวจากต่างประเทศเกิดความสับสนจนนำไปสู่การขายทัวร์แล้วไม่มีเครื่องบินขนส่งนำนักท่องเที่ยวไปยังแม่ฮ่องสอนหรือเชียงใหม่

สำหรับเส้นทางบินระหว่างเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนนั้น นอกจากการบินไทยแล้ว ยังมีสายการบินที่เป็นพันธมิตรกับการบินไทย ให้ความสนใจที่จะเข้ามาทำการบินเพิ่มอีก แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถให้บริการได้เพราะราคาค่าโดยสารไม่สมดุลกับต้นทุน อาทิ สายการบิน บางกอกแอร์เวย์-บีพี แอร์ หรือนกแอร์

“การบินไทยคงต้องบินควบคู่ไปกับสายการบินพันธ์มิตรระหว่างเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ตลอดเวลาเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ภาคเอกชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนสายการบินนกแอร์ก็เป็นสายการบินที่การบินไทยควบคุมดูแลอยู่ ดังนั้น ขอให้ภาคเอกชนมั่นใจว่าการบินไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในพื้นที่”เป็นคำกล่าวการันตีของ วสิงห์

อัตราค่าโดยสารที่การบินไทยจะขอปรับขึ้นในราคา 1,500 บาทนั้น แม้ว่ากลุ่มบริษัทนำเที่ยวจะรับได้ แต่สำหรับประชาชนชาวแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ การบินไทยและสายการบินพันธมิตรจะต้องมีอัตราส่วนลดให้เห็นภาพกันอย่างชัดเจนออกมา เพราะไม่อย่างนั้นแล้วในอนาคตอันใกล้จะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาอย่างแน่นอนโดยเฉพาะคนไทยที่ต้องใช้บริการเครื่องบินในการเดินทาง

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เส้นทางปราบเซียน

เมื่อสามปีก่อนแอร์อันดามันบินตรงควบคู่กับการบินไทยในเส้นทางกรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน ขณะที่การบินไทยสายการบินมีเส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนอยู่ในกำมือ และด้วยเส้นทางบินตรงไม่ประสบความสำเร็จทำให้สายการบินแอร์อันดามันต้องปิดฉากตัวเองในเวลาต่อมา แน่นอนย่อมส่งผลให้การบินไทยต้องปรับผังเส้นทางบินใหม่ทันที ด้วยการตัดจำนวนเที่ยวบินตรงออกไปและถ้าผู้โดยสารจะไปแม่ฮ่องสอนต้องไปต่อเครื่องที่เชียงใหม่อีก

ขณะที่เส้นทางบินเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน เป็นภาระอันหนักอึ้งที่การบินไทยพยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอดเนื่องจากเส้นทางนี้ประสบกับภาวะขาดทุน แนวทางที่ผู้บริหารของการบินไทยนำมาใช้กับเส้นทางนี้ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนวันเดินทางหรือบางครั้งไม่ทำการบินเมื่อมีผู้โดยสารจำนวนน้อยซึ่งไม่คุ้มกับการบินแต่ละครั้งรวมทั้งเพื่อรักษามาตรฐานบริการบนเครื่องบินทำให้เป็นเรื่องที่คิดไม่ตกมาตลอด

วันนี้การบินไทยกำลังจะขึ้นราคาค่าโดยสารอีก 50%เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับสายการบินเอกชนเข้ามาร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน เพราะก่อนหน้านั้นไม่มีใครกล้าเข้ามาร่วมด้วยเนื่องจากกลัวขาดทุนเหมือนการบินไทย

การแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารระหว่างเส้นทางแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ของการบินไทยครั้งนี้ถือเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่พยายามจะหลีกหนีฝันร้ายที่ต้องเจอตลอดเวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากแต่ว่ากลยุทธ์นี้อาจไม่เป็นไปอย่างที่คิดก็เป็นได้ใครจะรู้