|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เม็ดเงินโฆษณาถดถอยทำพิษคนทีวีลากยาวถึงปีหน้า ค่ายเล็กอย่างมาร์คเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตัดสินใจยุบบริษัท แล้วหันมาซบอกยักษ์ใหญ่อาร์.เอส.ฯเพื่อความอยู่รอด ร่วมมือเปิดบริษัทมรดก เอ็นเตอร์เทนเมนต์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อาร์.เอส.ฯถือหุ้นเกือบ 80% เผยแม้พิธีกรสินจัยยังเผ่นหนีไปจับธุรกิจอย่างอื่น
นางสาวอัจฉรา ลิ้มตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มรดก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ในเครือ บริษัท อาร์.เอส. โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯตัดสินใจยุบบริษัท มาร์ค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด เมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่เจรจาความร่วมมือได้สำเร็จ กับบริษัท อาร์.เอส. โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) โดยต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2548 จึงได้ก่อตั้งบริษัทร่วมกันในชื่อ บริษัท มรดก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท โดยบริษัท อาร์.เอส.ฯ ถือหุ้น 76% ขณะที่กลุ่มเดิมถือหุ้น 24% ทั้งนี้บริษัทฯได้ มีข้อตกลงร่วมกันกับทางอาร์.เอส.ฯ ว่าจะให้อิสระในการทำงานแก่บริษัทฯในฐานะผู้ผลิตรายการทีวีและให้สิทธิ์ในการรับจ้างผลิตและจัดอีเวนต์ต่างๆ จากลูกค้านอกเครือด้วย
ปัจจุบันบริษัทเล็กๆ ที่ผลิตราย การทีวี 1-3 รายการมีความเสี่ยงในการ ทำธุรกิจสูงจากเม็ดเงินโฆษณาถดถอย บริษัทฯเองมีลูกค้าหลักเดิม อาทิ เนสท์เล่, เอสแอนด์พี, โซนี่ ซึ่งมีลูก ค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นครอบครัวอยู่แล้ว ก็จัดสรรงบโฆษณาลดลงจากเดิม 3 ล้านบาทเหลือ 1.5 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากสถานีโทรทัศน์ถอนรายการด้วย ซึ่งบริษัทฯต้อง เตรียมหาทางออกในการลดความเสี่ยง ธุรกิจ หันมาร่วมมือกับค่ายธุรกิจบันเทิงขนาดใหญ่อย่างบริษัท อาร์.เอส. โปรโมชั่น ซึ่งช่วยเหลือในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตได้มาก
นอกจากนั้น ด้วยงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ก้อนเล็กลง ทำให้บริษัทฯต้องหันมาใช้การทำประชาสัมพันธ์มากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยทำแค่ 1 เดือนก็เพิ่มมาเป็น 2 เดือน เพื่อช่วยสร้างกระแสและกระตุ้นความสนใจของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ปัจจุบันบริษัทฯได้ลงทุนผลิตรายการใหม่และออนแอร์ไปแล้ว 3 รายการ ได้แก่ 1) @Woman (แอท วูแมน) 2) front@five (ฟรอนท์ แอท ไฟฟ์) 3) Family Circle (แฟมิลี่ เซอร์เคิล) โดยใช้งบลงทุนรายการละไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนรูปแบบนั้นเป็นการป้อนเนื้อหาสาระให้สอดแทรกเข้าไปในความบันเทิงเพื่อกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็ก ผู้หญิง และครอบครัว ทำให้สามารถนำไปประ-ยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งรูป แบบรายการดังกล่าว บริษัทฯมีความถนัดอยู่แล้ว โดยเคยมีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 10 ปีในการผลิตรายการฝันที่เป็นจริง, โลกใบเล็ก, ผู้หญิงวันนี้ และสถานีครอบครัว
สำหรับข้อตกลงที่ทำกับบริษัท อาร์.เอส.ฯนั้น ได้แก่ การให้อิสระกับบริษัทฯในการคัดเลือกพิธีกร ผู้ดำเนิน รายการ ผู้ร่วมรายการ ดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียงในสังคมจากหลากหลายวงการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสังกัดค่ายอาร์.เอส.ฯเท่านั้น โดยล่าสุดมีการเชิญแอม หรือเสาวลักษณ์ ลีลาบุตร ซึ่งเป็นนักร้องสังกัดค่ายแกรมมี่มาร่วมรายการ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เตรียมจะปรับเปลี่ยนรายการครั้งใหญ่ในเดือนกันยายนนี้ ทั้งตัวพิธีกรซึ่งจะไม่ใช่สินจัย เปล่งพานิช อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากได้หันไปทำธุรกิจซัมเมอร์แคมป์ที่พาเด็กไปทัวร์ต่างประเทศแทน โดยอยู่ระหว่างคัดเลือกพิธีกรใหม่ รวมทั้งจะมีการปรับระยะเวลาออนแอร์จาก เดิมรายการละครึ่งชั่วโมงขยายเป็นรายการละ 1 ชั่วโมง นอกจากนั้นอาจผลิต รายการเพิ่มอีก ซึ่งยังคงเน้นรายการสำหรับเด็ก ผู้หญิง และครอบครัวเหมือนเดิมตามความถนัด อีกทั้งตลาดกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นด้วย ส่วนรูปแบบนั้นอาจเป็นไปได้ทั้งเกมส์โชว์, วาไรตี้โชว์ และเรียลิตี้โชว์
สำหรับในครึ่งปีหลังปี 48 นี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้าที่จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ซึ่ง 80% เป็นรายได้จากการขายโฆษณาทางทีวี อีก 20% ที่เหลือ เป็นรายได้จากการจัดอีเวนต์ต่างๆ โดยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 48 ได้มีกระแสตอบรับจากทั้งกลุ่มโฆษณาและกลุ่มผู้ชมทางบ้านที่ติดต่อเข้ามา ทำให้ปัจจุบันรายการแอท วูแมน มีโฆษณาเต็ม 100% แล้ว ส่วนอีก 2 ราย การมีโฆษณาเพียง 50% ส่วนในปี 49 ทั้งปีได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 50 ล้านบาท
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าบริษัท มรดก เอนเตอร์เทนเมนต์ จะสามารถผลิตรายการทีวีสำหรับเด็ก ครอบครัว และผู้หญิงรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านเรตติ้งคนดูและรายได้ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการผลิตไม่ต่ำกว่า 10 ปี อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของบริษัท อาร์.เอส.ฯให้มีความ แข็งแกร่งทางด้านการผลิตรายการสำหรับเด็ก ผู้หญิง และครอบครัวด้วย จากเดิมที่ทางอาร์.เอส.ฯยังไม่มีความชัดเจน ปัจจุบันบริษัท อาร์.เอสฯ.มีบริษัท ในเครือที่ผลิตรายการทีวี อาทิ บริษัท เรด ดราม่า จำกัด ซึ่งผลิตราย การละครที่กำลังมีเรตติ้งสูงสุดอยู่ในขณะนี้ คือ รถด่วนขบวนสุดท้าย และ 2+1 แกร่งเกินพิกัด และบริษัทอาร์เอส เทเลวิชั่น จำกัด ผลิตวาไรตี้โปรแกรม โดยมีรายการเมืองไทยวาไรตี้ ที่ออก อากาศทางช่อง 5 มีเรตติ้งสูงสุดของ บริษัทฯ
|
|
|
|
|