"อีริคสัน" วางยุทธศาสตร์นำเสนอโซลูชั่นครบวงจรเหนือคู่แข่งขัน รองรับผู้นำธุรกิจเครือข่ายทั่วโลกลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี
ชี้แนวโน้มโทรคมนาคมเติบ โตรับกระแสเทคโนโลยีที่ผสมผสานเสียง โมบาย อินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย
จุดประกายผู้ผลิตผู้ประกอบการเร่งพัฒนาเครือข่ายรองรับความต้องการผู้ใช้บริการ
พร้อมวางเป้าหมายยุค 3จี กวาดแชร์ตลาดกว่า 40% ประเดิมทุ่มตลาดเต็มที่ต้นปีหน้า
นาย Kurt Hellstrom ประธานและประธานกรรมการบริหาร บริษัทอีริคสัน เปิดเผยว่าธุรกิจโทรคมนาคม
ในปัจจุบันในระยะสั้นยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากภาวะการชะลอทางธุรกิจ และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของโลก
อย่างไรก็ตามในระยะยาว ภาวะต่างๆ จะกลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะ ธุรกิจโทรคมนาคมจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันจากการสำรวจทั่วโลกพบว่าใน 100 คน จะมี 17 คนที่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่
โดย ณ สิ้นไตรมาสที่สองของปีนี้จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีทั้งสิ้น
1,024 ล้านคน และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จะยิ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คาดว่าภายในปี 2550 จะมีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น 1,800 ล้านคน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียจะเป็นภูมิภาค
ที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างมาก
ทั้งนี้แนวโน้มของเทคโนโลยีในอนาคตจะเป็นการผสมผสานระหว่างเสียง โมบาย
อินเทอร์เน็ต และมัลติมีเดีย ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการสื่อสารในทุกรูปแบบได้ทุกสถานที่
และทุกเวลา โดยเทคโนโลยีในอนาคต จะมีประสิทธิภาพสูงมาก ถือเป็นจุดดึงดูดให้ผู้ประกอบการต้องเพิ่มการลงทุนพัฒนาเครือข่ายเพื่อรองรับกับความต้องการบริการที่แปลกใหม่ของผู้บริโภค
นอกจากนี้ธุรกิจเครือข่ายในยุคที่ 3 หรือ 3 จี รวมทั้งเทคโนโลยีความเร็วสูงที่จะทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถส่งและรับข้อความมัลติมีเดียได้
จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทางอีริคสันเองได้วางเป้าหมายที่จะวาง จำหน่ายอุปกรณ์สำหรับธุรกิจเครือข่ายในยุค
3จีอย่างเต็มที่ในช่วงปี 2546 ซึ่งคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรให้กับอีริคสันได้อย่างแน่นอน
สำหรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของอีริคสันจะไม่เปลี่ยนแปลงจากยุทธศาสตร์เดิมที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นผู้นำโอเปอเรเตอร์ทั่วโลก
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่อีริคสันนำเสนอได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรที่สามารถรองรับความต้องการของกลุ่ม
ลูกค้าในทุกเทคโนโลยี จุดเด่นของเทคโนโลยีที่อีริคสันนำเสนอนั้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนต่ำกว่าการใช้เทคโนโลยีจากผู้ผลิตรายอื่น
นอกจากนี้ยังสามารถนำไปพัฒนาสร้าง รายได้ใหม่ได้ด้วย
หากพิจารณาถึงศักยภาพของ อีริคสันในปัจจุบัน ทางบริษัทมีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน
โดยเป็นผู้นำตลาดเครือข่ายจีเอสเอ็มหรือเรียกว่ายุค 2จี มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ
40% ส่วนยุค 2.5จี อีริคสันมีสัญญากับผู้ให้บริการทางด้านจีพีอาร์เอสถึง
78 รายจากทั้งหมด 164 ราย สำหรับในยุค 3จี ทางอีริคสันได้มีการทำข้อตกลงกับผู้ประกอบการหลายรายทั่วโลก
ซึ่งหากการเซ็นสัญญาลุล่วงจะส่งผลให้อีริคสันมีส่วน แบ่งทางการตลาดในยุค
3จี ประมาณ 40%
นาย Torjorn Nilsson รองประธานอาวุโส บริษัทอีริคสัน กล่าวถึงแนวโน้มของตลาดไร้สายในปี
2545 ว่าการเติบโตของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
โดยจะเป็นการเติบโตที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในภูมิภาคเอเชียหรือยุโรป
ด้านการลงทุนทางด้านเทคโน-โลยียังมีการลงทุนต่อเนื่องของเทคโนโลยี 2จี ส่วนในเจนเนอเรชั่นของ
2.5จี จะมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นและมีเทคโนโลยีที่ถูกแนะนำออกมาไม่ว่าจะเป็นจีพีอาร์เอส
หรือ CDMA 2000 1X และสำหรับยุค 3จี มีการทยอยเปิดตัวเทคโนโลยีเพื่อเป็นการปูทาง
สู่ยุค 3 จี ทั้ง WCDMA EDGE WCDMA/GPRS และ CDMA 2000 1XEV
นอกจากนี้ การสื่อสารผ่านข้อ มูลจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะในส่วนของการใช้งานเอสเอ็มเอส ส่วนพิกเจอร์แอปพลิเคชั่นและคอร์ปอเรตแอปพลิเคชั่นกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นที่จะเติบโตต่อไป
"อีริคสันเชื่อว่าผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทจะอยู่บนพื้นฐานของยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้สำหรับเน็ตเวิร์ก
เจนเนอเรชั่นถัดไปในแบบครบวงจรและโซลูชั่นไอพีทั้งหมด เพื่อโมบายในยุค 3จี
และการสื่อสารแบบบรอดแบนด์"