|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2005 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมสถาบันวิจัยข้าวแห่งชาติจีน
ดร.เฉิง ซื่อ หัว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยได้ให้การต้อนรับคณะอย่างอบอุ่นและได้แนะนำความเป็นมาและความสำเร็จของหน่วยงานวิจัยข้าวแห่งชาติจีน มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่หลายประเด็น
สถาบันวิจัยข้าวแห่งชาติจีนตั้งอยู่ที่มณฑลเจ้อเจียง ห่างจากตัวเมืองหางโจว 34 กิโลเมตรก่อตั้งเมื่อปี 1981 โดยการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน สถาบันฯมีหน้าที่หลักคือ สร้างหลักประการความมั่นคงของพืชธัญหาร ยกระดับโภชนาการให้ดีขึ้น รักษาสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหายากจีนของจีน
สถาบันฯนี้จะเน้นวิจัยขึ้นพื้นฐานและประยุกต์ใช้ ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากองค์กรนานาชาติเป็นอย่างดี เช่นได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารโลก UBDP, FAO, the Rockefeller Foundation and IRRI เป็นต้น สถาบันวิจัยเป็นองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร มีนโยบายเปิด ยินดีต้อนรับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสถาบันวิจัยฯและพัฒนาข้าวของจีน
ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา สถาบันวิจัยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการพัฒนาพันธุ์ข้าวของจีน ตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันวิจัยขึ้นมาได้พัฒนา 50 พันธุ์ซึ่งมีผลผลิตสูงและต้านทานโรคได้และมีการเผยแพร่ยังทั่วประเทศจีนแล้ว เซี่ยโยว 9308 มีผลผลิตสูง 12.2 ตัน/ เฮกตาร์ หรือ 1952 กิโลกรัม / ไร่ จงเจี้ยน 2 มีข้าวเม็ดยาว มีคุณภาพที่ดีมาก และมีการเผยแพร่แล้ว ยิ่งได้ประสบความสำเร็จพัฒนาข้าวจีนให้มีกลิ่นหอม พันธุ์เชาไท่ (ล้ำหน้าไทย) มีกลิ่นหอม รสชาติดีกว่าข้าวหอมของไทยด้วย ยังพัฒนาปลูกข้าวเลี้ยงเป็ดด้วย เพิ่มรายได้แก่ชาวนาด้วย
นอกจากนี้ข้าวอินทรีก็มีการวิจัยและมีการปลูกที่จีนด้วย และข้าวเพื่อสุขภาพ เช่นข้าวเพื่อลดความดันโลหิต และรักษาโรคเบาหวานราคาแพงมาก กิโลกรัมอยู่ที่ 20 หยวน ถือว่าแพงมาก
สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเรื่องการทำวิจัยตัดต่อพันธุกรรม มีการทำวิจัยอยู่ในห้องทดลอง แต่รัฐบาลจีนมีนโนบายห้ามไม่ให้ปลูกและเผยแพร่อย่างเด็ดขาด
หลังจากฟังบรรยายสรุปเสร็จได้ไปชมที่ทำการ ห้องทดลองและห้องเก็บตัวอย่างพันธุ์ข้าว ซึ่งทางการจีนได้จัดแผนกอย่างครบถ้วยและละเอียดมาก พยายามรวบรวมกำลังคน กำลังทรัพย์
ทรัพยากรไว้ที่เดียวกันเพื่อร่วมกันคิดร่วมกันพัฒนา
ทางสถาบันวิจัยข้าวแห่งชาติจีนเคยส่งคนมาเรียนที่เมืองไทยเป็นเวลา 1 ปี และทางสถาบันยินดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ นักวิจัยกับไทย และยินดีรับนักวิจัยจากประเทศไทยไปร่วมทำวิจัยหรือไปศึกษาดูงานที่สถาบันวิจัยข้าวแห่งชาติจีน
เป็นที่ทราบกันและเป็นที่ภาคภูมิใจว่าข้าวหอมมะลิของไทยมีคุณภาพดีและขายไปยังทั่วโลกแล้ว สำหรับข้าวหอมของไทยขายไปยังตลาดจีนในราวๆปี 1995 โดยผ่านด่านแถวกวางโจว เซินเจิ้นไปยังเมืองอื่น
สำหรับแถวเซี่ยงไฮ้ หางโจวข้าวหอมของไทยยังจำกัดเฉพาะร้านอาหารใหญ่ๆและโรงแรม ชาวบ้านโดยทั่วไปยังไม่ค่อยนิยมบริโภคนัก เพราะราคาแพง ราคาข้าวขาวของจีนชั่งละ 1.4-1.8 หยวน แต่ในขณะเดียวกันข้าวหอมของไทยอยู่ที่ 5 หยวนต่อชั่ง
ราคาข้าวหอมของไทยแพงกว่า 3-4 เท่าของราคาข้าวจีน ตอนนี้คุณภาพข้าวของจีนดีขึ้น เป็นการท้าทายต่อข้าวหอมไทยอย่างมาก ข้าวหอมไทยจะอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยคุณภาพ ราคา และความนิยมของแต่ละท้องถิ่นที่สำคัญต้องมีการทำประชาสัมพันธ์ให้คนจีนได้รู้จักข้าวไทยให้ดีขึ้น
|
|
|
|
|