ไอซีทีชี้มือถือซีดีเอ็มเอกสทต้องทำการบ้านหนัก หลังพบปัญหาฮัทช์ขาดทุนสะสมมากถึง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหายังเชื่อมโยงกับไลเซนส์ที่กสทได้รับจากกทช. ด้าน "สรอรรถ" ย้ำหากหัวเหว่ยติดตั้งโครงข่ายล่าช้า ถูกปรับวันละ 72 ล้านบาทต้องไม่ใช่ความผิดด้านกสท เนื่องจากเกรงเอกชนอ้างเบี้ยวจ่ายเงินและจะกลายเป็นค่าโง่ซีดีเอ็มเอ

นายอำนวยศักดิ์ ทูลศิริ รองประธานบอร์ดบริษัท กสท โทรคมนาคมกล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการเจรจากับบริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลสมัลติมีเดียหรือฮัทช์ จะยึดแนวทางที่จะทำให้ เกิดมูลค่าเพิ่มกับ กสทมากที่สุดและจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือนเพื่อไม่ให้กระทบกับแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยมีการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

นายคณวัฒน์ วศินสังวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่าฮัทช์ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกสทกับกลุ่มฮัทชิสัน ประสบการขาดทุนสะสมมากถึง 2 หมื่นล้านบาทซึ่งหากไม่มีการแก้ปัญหาจะทำให้เกิดผลกระทบกับแผนเข้าตลาดฯของกสทแน่นอน

หลังจากที่ กสทได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ทำให้มีโจทย์ตามมาอีกหลายข้ออย่างการตั้งบริษัทร่วมกันระหว่าง ฮัทชิสันกับกสทเพื่อทำการตลาดร่วมกันก็ต้องพิจารณาว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535 หรือไม่ ซึ่งหากเข้าข่ายก็ไม่สามารถดำเนินการ ได้และการตกลงเรื่องหุ้นในบริษัท ใหม่จะออกมาในรูปแบบใด

"ปัญหาระหว่างกสทกับฮัทช์ ต้องหาข้อสรุปให้ได้ว่าจะดำเนินการทำการตลาดแยกแบบเดิมหรือทำร่วมกันทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละแนวทางก็มีข้อจำกัดอยู่"

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฮัทช์ขาดทุนสะสมถึง 2 หมื่นล้านบาทเป็นเพราะวิธีการทำการตลาด โดยการขายโทรศัพท์มือถือในราคาถูก ทำให้ต้องรับภาระต้นทุนค่าเครื่อง ซึ่งหากลูกค้าไม่ใช้บริการ ครบตามสัญญา 1 ปีก็ทำให้ขาดทุน ทันที แม้ว่าการขาดทุนสะสม ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของกสทเพราะฮัทชิสันเป็น ผู้รับผิดชอบเองแต่เรื่องดังกล่าว ต้องมีแนวทางออกการล้างขาดทุน สะสมที่ชัดเจนเพราะการเข้าตลาดโดยยังมีเรื่องการขาดทุนสะสมจำนวนมากของฮัทช์ผูกอยู่จะทำให้ นักลงทุนขาดความเชื่อมันโดยเฉพาะแนวทางการทำตลาดโทรศัพท์มือถือระบบซีดีเอ็มเอที่กสทวางแผนธุรกิจว่าจะเป็นรายได้สำคัญในอนาคต

นอกจากนี้ กสทก็ต้องมีแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำตลาดระบบซีดีเอ็มเอภูมิภาคในระบบ EV-DO ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือในระบบ 3G โดยเฉพาะปัญหาเรื่องราคามือถือที่ยังสูงอยู่ในระดับกว่าหมื่นบาท ซึ่งหากกสททำตลาดด้วยวิธีการรับภาระค่าเครื่องก็อาจเกิดปัญหาการขาดทุนจำนวนมากเหมือนฮัทช์เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากขายเครื่องในราคาที่สะท้อนต้นทุนก็อาจเกิดปัญหาการขยายฐานลูกค้า

"กสทมีการบ้านต้องทำอีกมากสำหรับเรื่องซีดีเอ็มเอ"

ส่วนความคืบหน้าการติดตั้ง โครงข่ายซีดีเอ็มเอ 51 จังหวัด ที่เหลือขณะนี้บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยีได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วประมาณ 100 กว่าสถานีฐาน โดยตามแผนงานจะต้องติดตั้งให้เสร็จเฟสแรก 800 สถานีฐานและส่งมอบให้ กสทได้ภายในเดือน ม.ค.ปีหน้า ซึ่งหากล่าช้าจะต้องจ่าย ค่าปรับให้กสทวันละ72 ล้านบาทซึ่งนายสรอรรถ กลิ่นประทุม รมว.ไอซีทีได้ย้ำในวันตรวจเยี่ยมกสทว่าความล่าช้าในการติดตั้งหรือส่งมอบ จะต้องไม่ใช่ความผิดของกสทในเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ติดตั้งสถานีฐาน เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นข้ออ้างให้เอกชนไม่ยอมจ่ายค่าปรับหากเกิดความล่าช้าขึ้น