คณะกรรมการร่วมหรือSteering Committee ฟันธงให้ทศท.เดินหน้าไทยโมบาย โทรศัพท์มือถือในระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์แต่เพียงผู้เดียว หลังกสท.ตีรวนยื่นหนังสือทักท้วงหลายครั้ง ถือว่าแสดงเจตนารมณ์ไม่ต้องการทำงานร่วมกัน ส่วนปัญหาความถี่อยากมาใช้ก็ไม่มีปัญหา คนวงในชี้เหลือเรื่องเครือข่ายต้องสะสางด่วนหลังคู่แข่งอย่างทีเอออเร้นจ์ซื้ออัลคาเทลเพิ่มอีก 6 พันสถานีฐาน

แหล่งข่าวจากบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการร่วมหรือ Steering Committee ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน และมีกรรม การประกอบด้วยนายศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานบอร์ดทศท นาย สุธรรม มลิลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทศท นายไกรสร พรสุธี ประธานบอร์ดการสื่อสารแห่งประเทศไทย(กสท.) และนายธีระพงศ์ สุทธินนท์ ผู้ว่าการกสท.เกี่ยวกับอนาคตของไทยโมบาย ผู้ให้บริการ โทรศัพท์มือถือในระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ผ่านกิจการร่วมค้าทศทและกสท.(ทศทถือหุ้น 57.89% กสท.ถือหุ้น 42.11%) เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

ที่ประชุมสรุปว่าให้ทศท.เดินหน้าดำเนินโครงการให้บริการไทยโมบายแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากกสท.ได้ทำหนังสือทักท้วงการ ดำเนินการโครงการนี้มาตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุด ที่กสท. ได้ทักท้วงกรณีที่นายสุธรรมเซ็นสัญญากับบริษัท สามารถ อี-เทรดดิ้งกับไออีซี เพื่อเป็นตัวแทนขายและให้บริการ กสท.ก็ยังไม่พอใจเพราะไม่ได้มีการลงนามในสัญญาด้วย

"ประธานเห็นว่าการที่กสท.มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์ อักษรทักท้วงโครงการ 1900 มาหลายครั้ง แสดงถึงเจตนารมณ์ว่าไม่ต้องการทำงานร่วมกับทศทในการให้บริการไทยโมบาย ดังนั้นเพื่อตัดปัญหา ก็ให้ทศท เดินหน้าโครงการแต่เพียงผู้เดียวเพื่อให้โครงการนี้ลุล่วงไปด้วยดี"

สำหรับหุ้นที่กสท.ถืออยู่ประมาณ 40 กว่า%ในกิจการร่วมค้านั้น ก็อาจใช้วิธีให้ทศทเพิ่มทุนเข้าไปเรื่อยๆ เท่ากับเป็นการลดสัดส่วนการถือหุ้นกสท.ลงไปจนเหลือน้อยที่สุด แล้วขั้นตอนสุดท้ายก็อาจใช้วิธีการซื้อหุ้นคืนมาทั้งหมด ส่วนกรณีที่กสท.อ้างว่า ครม.อนุมัติให้ทั้ง 2 หน่วยงานมีสิทธิในการใช้คลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ร่วมกันนั้น หากกสท.อยาก จะมาใช้คลื่นดังกล่าวบ้างก็มาใช้ได้ทันที ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

การที่ประธานคณะกรรมการร่วมฟันธงให้ทศท เดินหน้าไทยโมบายแต่เพียงผู้เดียว เป็นเพราะนายศุภชัยประธานบอร์ดทศทรู้สึกเหลืออดกับพฤติกรรมของกสท. ที่ทำตัวเหมือนหวังดีแต่กลับประสงค์ร้ายทำให้ไทยโมบายไม่คืบหน้า จึงเสนอทางแก้ปัญหา ให้ทศททำเองและพร้อมซื้อหุ้นคืนทั้งหมด รวมทั้งหลังจากที่ทศทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจเทกโอเวอร์ กสท.เลยก็เป็นได้

"อย่าว่าแต่ซื้อหุ้น1900 คืนเลย หุ้นกสท.เราก็อาจเข้าไปซื้อในสัดส่วนที่ไม่ใช่แค่เป็นการลง ทุนแต่เป็น Strategic Partner ด้วยซ้ำ" นายมิตร เจริญวัลย์ ประธานสหภาพแรงงานบมจ.ทศท คอร์ปอเรชั่นกล่าว

ไทยโมบายยังไม่พ้นวิบากกรรมถึงแม้ปลด แอกจากกสท.ได้ เพราะปัญหาหนักอกตอนนี้คือเรื่องเครือ ข่ายที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยสักทีเนื่อง จากเป็นความดีของดร.สมควร บรูมินเหนทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตอนที่เป็นผู้บริหารเอซีที ที่ได้เซ็นสัญญากับซัปพลายเออร์ซีเมนส์ อีริคสัน โดยผูกมัดให้ทศท เป็นผู้หาสถานที่ติดตั้งสถานีฐาน ทำให้ทุกวันนี้เครือข่ายไทยโมบายใช้ได้เป็นย่อมๆ ในพื้นที่กรงุเทพฯส่วน ในต่างจังหวัดต้องอาศัยการโรมมิ่งกับเอไอเอส

เครือข่ายในกรุงเทพฯที่ซีเมนส์ติดตั้ง ก็ทำในลักษณะกระจัดกระจายซึ่งผิดหลักการวางเครือ ข่ายที่ต้องแบ่งเป็นโซนๆ เพื่อไม่ให้ผูกขาดเฉพาะซัปพลายเออร์รายเดียว เหมือนอย่างเอไอเอสที่ทำอยู่ตอนนี้ แต่ที่ต้องทำเป็นเพราะมีเหตุผลซ่อนเร้น ต้องการรีพีทซื้อซ้ำจากซีเมนส์อีก 3 พันกว่าล้านบาทโดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้การต่อเชื่อมมีปัญหา ซึ่งมีผู้บริหารระดับ สูงของทศทเดินเข้าไปขอกับประธานบอร์ดทศทต่อ หน้ากรรมการบอร์ดคนหนึ่งซึ่งบังเอิญอยู่ในที่นั้นด้วย แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะแนวทางที่น่าจะเหมาะสม ในการขยายเครือข่ายไทยโมบายคือวางเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศไม่ต้องอาศัยการโรมมิ่ง

"เคยมีการศึกษาว่าต้องใช้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในการวางเครือข่ายไทยโมบายทั่วประเทศ โดยใช้รูปแบบการเช่าประมาณ 10 ปี หลังจากนั้นก็ยกให้เป็นทรัพย์สินของทศท"

แหล่งข่าวกล่าวว่าหากไทยโมบายเร่งขยายเครือข่ายด้วยการใช้วิธีการเช่าจากเอกชนที่ให้เงื่อน ไขการเงินที่เป็นประโยชน์กับทศทก็อาจพลิกสถาน การณ์ไทยโมบายให้ดีขึ้นบ้างในสภาพการแข่งขันในตลาดมือถือ ซึ่งปัจจัยความสำเร็จทุกวันนี้วัดกันที่คุณภาพ เครือข่ายเป็นหลัก

ในขณะที่ไทยโมบายเพิ่งปลดแอกจากกสท. ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ต้องเป็นคู่แข่งตลอดกาลกับทศทอย่างทีเอ ออเร้นจ์ ก็บรรลุข้อตกลงกับอัลคาเทลในการขยายเครือข่ายเพิ่มอีกจำนวน 6,000 สถานีฐาน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 4,000 สถานีฐาน (ในอาคาร 3,000 แห่งนอกอาคาร 1,000 แห่ง) และในภูมิภาคอีก 2,000 สถานีฐาน ด้วยเงินเฉพาะค่าอุปกรณ์ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นราคาที่ต่ำกว่าตอนซื้อครั้งแรก 30% หรือเมื่อเทียบกับการที่เอไอเอสซื้อจากหัวเหว่ย 4,000 สถานีฐานในราคา 100 ล้านเหรียญเท่ากัน

"ตอนนี้ตลาดเป็นของผู้ซื้อ เมื่อเทียบราคาระหว่างซีเมนส์ที่ขายระบบ 1900 ให้เอซีทีกับ อัลคาเทล ขายให้ทีเอออเร้นจ์เรียกว่าต่างกันลิบ ลับ แล้วผู้บริหารทศทยังพยายามให้ซื้อซ้ำจาก ซีเมนส์อีก ดีว่าประธานบอร์ดไม่เล่นด้วย"