Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์5 สิงหาคม 2548
สำรวจคดีพิพาท "อลงกรณ์-เยาวเรศ" "คาร์ ปาร์ก" ทำเหตุฟ้องกราวรูด 6 คดี             
 


   
search resources

ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่
เยาวเรศ ชินวัตร
Political and Government
Airport




การตอบโต้กันไปมาระหว่าง "อลงกรณ์ พลบุตร"กับ "เยาวเรศ ชินวัตร" อันเนื่องมาจากข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างรุนแรงจากฝ่ายแรกว่า น้องสาวนายกฯทักษิณ ชินวัตร เรียกรับสินบนในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ "คาร์ ปาร์ก"เป็นเงินถึง 300 ล้านบาท งานนี้กลายเป็นมวยถูกคู่ขึ้นมาทันทีเมื่อ เยาวเรศ ส่งทนายความมือดี ฟ้องกลับอลงกรณ์ แถมยังแสดงทีท่าว่าสู้ไม่ถอยแม้จะไม่มีดีกรีเป็นส.ส.ก็ตาม

"ลัทธพล"ตัวจุดชนวน
สำหรับชนวนที่ทำให้เกิดกรณีพิพาทผ่านสื่อ จนถึงขั้นต้องใช้ข้อกฎหมายมาหักล้างกัน นั้นเกิดจากมีกระแสข่าวว่า ลัทธพล เกษโกทิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ลัทธ เฟอร์ ไทยได้ออกมายื่นหนังสือฉบับแรกขอความเป็นธรรมโดยผ่านตู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ มีญาตินายกฯเรียกรับสินบน 300 ล้านบาท และได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ว่าโดนข่มขู่

ต่อมา "ลัทธพล" ได้ออกมาแถลงแก้ข่าวว่าทุกสิ่งที่ปรากฎเป็นข่าวไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะการเรียกรับสินบน 300 ล้านที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น "ลัทธพล"ยืนยันไม่เคยมีการติดต่อหรือประสานกับเยาวเรศ เลย

จึงเป็นชนวนที่ทำให้อลงกรณ์และเยาวเรศฟ้องกลับกันหลายครั้ง และเป็นเหตุให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล จนในที่สุดสังคมกำลังสับสนว่าใครกันแน่ที่โกหก..?

จากการรวบรวมการฟ้องร้องกันระหว่าง เยาวเรศ และอลงกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. ถึงวันนี้นั้นมีหลายคดีด้วยกันที่ทำให้ทั้ง 2 คนมีคดีพิพาทกัน

คดีแรกของเยาวเรศ ชินวัตร ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ได้ยื่นฟ้อง 3 สำนวนคดี โดยให้ลงโทษ อลงกรณ์ ,ลัทธพล และหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฐานหมิ่นประมาท- แจ้งความเท็จ กล่าวหารับสินบน 300 ล้าน

คดีที่สอง การยื่นคำร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว โดยให้ อลงกรณ์ งดให้สัมภาษณ์ หรือกระทำการใดๆอื่นๆที่เป็นการกล่าวหา และให้งดจำหน่ายจ่ายแจก วีซีดี มีภาพ เสียง เนื้อความตามวัตถุพยาน ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ปชป.หวังผลกระทบชิ่ง "ทักษิณ"
ส่วน อลงกรณ์ได้ยื่นฟ้องเยาวเรศเรียกรับสินบนคาร์ปาร์ก 300 ล้าน และฟ้องกลับเยาวเรศ ข้อหาหมิ่นประมาทและแจ้งความเท็จ ภายหลังที่ เยาวเรศได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาให้พิพากษา อลงกรณ์ในความผิดหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหารับสินบนคาร์ปาร์ก จากนั้นยังได้ฟ้องกลับ เพื่อให้ดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือฟ้องเท็จฐานหมิ่นประมาท และใช้หลักฐานปลอม เอกสารสำเนาปลอมแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานพร้อมกับเรียกค่าเสียหายทางแพ่งสำนวนคดีละ 5 ล้านบาท รวมทั้ง 2 ข้อหารวมเป็น 10 ล้านบาท

ต่อมา อลงกรณ์ยังได้ยื่นร้องต่อศาลให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามให้สัมภาษณ์รายวัน และ ขอให้ศาลพิจารณาปัญหาในข้อกฎหมายว่าคำฟ้องตลอดจนคำร้องของเยาวเรศ ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากเป็นการฟ้องโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการฟ้องส่วนตัว จึงขอให้ศาล วินิจฉัยข้อกฎหมายเบื้องต้นว่าคำฟ้องตลอดจนคำร้องของเยาวเรศ เป็นการไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งศาลได้ถอนคำร้องของ อลงกรณ์ที่ให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามให้สัมภาษณ์รายวัน

อย่างไรก็ตาม อลงกรณ์ ออกมายืนยันว่า พร้อมที่จะเปิดเผย ซีดี แผ่นที่ 2 ที่มีภาพ

" ลัทธพล" ทวงเงินผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่อสาธารณชน และจะมอบให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป

อย่างไรก็ดีจะต้องติดตามตอนต่อไปว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินเกมอย่างไร เพื่อให้สะเทือนไปถึง "นายใหญ่" ให้ได้!   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us