"แม้ว-พจมาน"ปั้น "ทักษิณ2/2" ดึงมืออาชีพสร้าง เสถียรภาพรัฐบาล-กู้เศรษฐกิจรอบใหม่ "สมคิด-ทนง" กุมทัพเศรษฐกิจ "คงศักดิ์ วันทนา"เพื่อนเขยใกล้ตัว ผงาดดับไฟใต้ ตามแรงหนุน นักวิชาการชี้ 5 กลุ่มข้างกายนายกฯ เปลี่ยนหน้ายึดเก้าอี้ ติงปรับครม.หวังหาคนรับเผือกร้อนแทนนักการเมือง

การตัดสินใจทิ้งเก้าอี้ ผู้บัญชาการทหารอากาศของ "พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา" ครั้งนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะทุกคนรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้ต้องเกิดขึ้น เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง...

วิธีการดึงคนนอกเข้ามานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีของนายกฯทักษิณ มักได้รับความสนใจทั้งจากคนในและนอกพรรคทุกครั้ง โดยเฉพาะในครั้งนี้ในภาวะที่แรงศรัทธาจากประชาชนเสื่อมถอยอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ชัดเจนว่า "แรงดึงดูด"ของนายกฯทักษิณ ที่มีต่อคนนอก "ไร้พลัง"อย่างสิ้นเชิง จะมีก็เพียงแต่ "คนใกล้ตัว"ที่สามารถชักชวนมาทำหน้าที่ได้อย่างเต็มใจได้เท่านั้น

ใบสั่ง "นายหญิง" เปิดทาง"คงศักดิ์" ผงาด
ในการปรับครม. "ทักษิณ2/2"รอบนี้ก็เช่นกัน อย่าได้แปลกใจหากจะมีชื่อบรรดาเครือญาติ หรือคนที่เกี่ยวข้องพัวพันกับนายกฯทักษิณ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร รวมไปถึงอาจมีการหยิบยืม คนจากเครือชินคอร์ป เข้ามาร่วมวงไพบูลย์อีกรอบเหมือนที่เคยเกิดขึ้น...

ชื่อของพล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา ได้ถูกพูดถึงมาพักใหญ่ ก่อนหน้าที่จะประกาศปรับครม.ทักษิณ 2/2 อย่างเป็นทางการ ว่าผบ.ทอ. คนนี้พร้อมที่จะทิ้งเก้าอี้ใหญ่ของกองทัพอากาศเพื่อมาช่วยชาติตามบัญชาของนายกฯทักษิณ ทุกเมื่อ...!

เป้าหมายที่หวังจะให้พล.อ.อ.คงศักดิ์ ช่วยกู้วิกฤตไฟใต้นั้น ถือเป็นเหตุผลหลักที่สามารถใช้อธิบายต่อสาธารณชนได้ ส่วนเหตุผลรองที่นายทหารใหญ่ผู้นี้ไม่อาจปฏิเสธได้ คือ "ความสัมพันธ์พิเศษ" ในฐานะ "เพื่อนเขย"ของคุณหญิงพจมาน เนื่องจากภรรยาคู่ชีวิตของพล.อ.อ.คงศักดิ์ คือ "คุณลูกน้ำ" สลิลลาวัลย์ ศิริวงศ์ เป็นทั้งเพื่อนและเลขานุการส่วนตัว ของคุณหญิงพจมาน จุดนี้เองที่ทำให้พล.อ.อ.คงศักดิ์ เปรียบเสมือนคนใกล้ชิดเจ้าของบ้านจันทร์ส่องล้า ไปโดยปริยาย แม้ไม่ใช่ญาติ ก็เหมือนญาติ....ซึ่งจุดนี้จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอธิบายถึง "สิทธิพิเศษ"ที่พล.อ.อ.คงศักดิ์ ยินดีอำลาเก้าอี้ผบ.ทอ. ก่อนเกษียณอายุในเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้

สำรวจ "คนพิเศษ"ในใจ "ทักษิณ"
การดึงพล.อ.อ.วันศักดิ์ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการดับไฟใต้รอบนี้ คงไม่ต่างไปจากไปเมื่อครั้งที่ คุณหญิงพจมาน ส่งสัญญาณให้นายกฯทักษิณ เลือก "น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล" นายแพทย์ที่มีความคุ้นเคยกับคนในตระกูลชินวัตร เข้ามาเสริมทัพรับมือกับหมอแทน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพื่อเป็นการลดแรงเสียดทานระหว่าง หมอหน่อย กับม็อบเสื้อกราวด์ ซึ่งการตัดสินใจเปลี่ยนตัวรมว.สาธารณสุข ขณะนั้นสามารถทำให้กระทรวงสาธารณสุข สงบลงได้

นอกจากนี้ยังพบว่ารัฐมนตรี ที่ถูกส่งตรงมาจากนายกฯหรือนายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องล้า นั้นมักมีชื่อของ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ติดท้ายขบวนมาหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ขณะที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่แม้หลายครั้งเจ้าตัวพยายามที่จะวางมือ แต่ในที่สุดดร.สมคิด ก็มักต้องมารับหน้าเสื่อดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจ ให้กับรัฐบาล

เมื่อมีการให้ตำแหน่งแก่คนนอกแล้ว ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายกฯทักษิณ จำเป็นที่จะต้องทำการจัดสรรประโยชน์ให้ลงตัวภายในพรรคมากที่สุดเพื่อลดแรงกดดันจากกลุ่มอำนาจต่างๆ ดังนั้นการตอบแทนในทางการเมืองจึงเกิดขึ้นเพื่อปูนบำเหน็จแก่บรรดาแกนนำทุกก๊วน

ดังนั้นจึงเท่ากับว่าไม่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนครม.ครั้งใดก็ตามเพื่อความเหมาะสม หรือเพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างลงตัว นายกฯทักษิณ ยังจำเป็นที่จะต้องจัด "สมดุล"ให้เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มการเมือง และกลุ่มคนใกล้ตัวให้มากที่สุด ส่วนใครจะสามารถสร้างราคาปั่นหุ้นให้ตัวเองได้รับความไว้วางใจจากนายกฯมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ศักยภาพกันเอง...

5 กลุ่มอำนาจ เล่นเก้าอี้ดนตรี
"เท่าที่เฝ้าสังเกตการปรับครม.ของนายกฯทักษิณ ตั้งแต่ทักษิณ1 จนมาถึง ทักษิณ2 สามารถจำแนกกลุ่มคนที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ 4-5 กลุ่ม และไม่ว่าจะมีการปรับอีกกี่ครั้ง บรรดาคนเหล่านี้ก็จะพากันหมุนเวียนสลับกันเข้ามาอีก ตามสัดส่วนที่อยู่ในใจของนายกฯทักษิณ"
รศ.ดร.สมชัย ศรีสุทธิยากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะมีด้วยกันทั้งสิ้น

5 กลุ่มที่จะถูกดึงมาทำงานในครม.แต่ละครั้ง ได้แก่
1. กลุ่มใกล้ชิดนายกฯทักษิณ ที่ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย อาทิ ภูมิธรรม เวชยชัย สุรนันท์ เวชชาชีวะ น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช จะมีสัดส่วนในครม.5 คน

2.กลุ่มนายทุนพรรค ที่จ่ายเงินเพื่อสนับสนุนการเมืองให้กับพรรค มีสัดส่วนประมาณ 5-10 คน

3.กลุ่มอำนาจการเมืองภายในพรรค เช่นกลุ่มวังต่างๆ ซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่ ได้รับตำแหน่งตามสัดส่วนประมาณ15 คน

4.กลุ่มมืออาชีพต่างๆ ทั้งจากภาคเอกชน และข้าราชการประจำ อาทิ วิเศษ จูภิบาล ที่ถูกดึงเข้ามารับตำแหน่งในยามที่รัฐบาลประสบปัญหาวิกฤตด้านพลังงาน มีสัดส่วนที่จะได้รับตำแหน่งประมาณ 2-3 คน

5.กลุ่มที่มีความใกล้ชิดเป็นพิเศษ ได้รับความไว้วางใจเป็นการส่วนตัว อาทิ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา เกิดจากความไว้ใจและเคยเห็นฝีมือในการทำงานกันมาก่อน โดยได้รับโควต้าประมาณ2-3 คน

ชี้หาแพะ มารับเผือกร้อน
รศ.ดร.สมชัย เห็นว่าจากโครงสร้างการปรับครม.ของนายกฯทักษิณ ในลักษณะดังกล่าว ไม่สามารถตอบสนองประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง การปรับครม.แต่ละครั้งเพื่อประสานความไม่พอใจของประชาชนกับผลประโยชน์ภายในรัฐบาลเท่านั้น

"สิ่งที่ชัดเจนแทบทุกครั้งคือการปรับเพื่อดึงคนนอก มืออาชีพเพื่อเข้ามาทำหน้าที่เป็นหนังหน้าไฟ รับผิดชอบกับวิกฤตที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง เมื่อมีวิกฤตด้านพลังงานก็เลือกคุณวิเศษ เข้ามา เมื่อมีปัญหาไฟใต้ก็ดึงคนนอกเข้ามาดูแลกระทรวงด้านความมั่นคง หรือเมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิจก็พยายามเฟ้นหามืออาชีพ ภาพที่เห็นคือฝ่ายการเมืองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ไปทำงานในจุดที่ไม่มีปัญหาแทน

แต่เวลานี้พวกมืออาชีพรู้ทันและไม่อยากเปลืองตัว เขายินดีที่จะเป็นมันสมองให้ แต่ไม่อยากเข้ามา เพราะโจทย์มันยากและการบริหารของนายกฯทำให้เขาขาดอิสระ ถ้าจะมีก็คงเหลือคุณทนง พิทยะ ที่เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้าน คือทำให้ได้ทุกอย่าง"

การปรับครม. "ทักษิณ2/2"ที่มีขึ้นรอบนี้อาจไม่สามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการของสาธารณชน หรือแม้กระทั่งใครบางคนที่ต้องอกหัก หล่นจากเก้าอี้ก็ตามที แต่สำหรับนายกฯทักษิณ น่าจะรู้สึกโล่งใจมากกว่าใคร เพราะสามารถหาคนมารับ "เผือกร้อน"ไปได้อีกพักใหญ่ๆ...