Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์7 กรกฎาคม 2548
เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกสลึงตามคาด             
 


   
search resources

International
Interest Rate




ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 ในรอบ 1 ปี อีกทั้งยังไม่แสดงสัญญาณว่ากำลังจะยุติเรื่องนี้ โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นเฟดฟันด์เรต ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปอีก 0.25% เป็น 3.25% แถมคำแถลงภายหลังการประชุมระบุว่า นโยบายการเงินยังคง "เอื้ออำนวย" ซึ่งหมายความว่ากระทั่งเพิ่มขึ้นคราวนี้แล้ว อัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในลักษณะกระตุ้นส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเฟดจึงพูดสำทับเหมือนกับการประชุม 10 ครั้งหลังสุดว่า คาดหมายว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปด้วยฝีก้าว "สุขุมรอบคอบ" ส่วนที่คำแถลงครั้งล่าสุดแตกต่างไปจากคำแถลงของการประชุมคราวก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ได้แก่การประเมินภาวะเศรษฐกิจในแง่สดใสมากขึ้น กล่าวคือครั้งนี้ชี้ว่า "ถึงแม้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้นต่อไป แต่การขยายตัว(ของเศรษฐกิจ)ก็ยังคงมั่นคง และเงื่อนไขในตลาดแรงงานก็ยังคงกระเตื้องขึ้นอย่างช้าๆ"

ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจญี่ปุ่นกระเตื้องขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแดนอาทิตย์อุทัย หรือที่เรียกว่าดัชนีตังกัง ซึ่งสำรวจและจัดทำโดยธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น(บีโอเจ)เป็นรายไตรมาส ส่อแสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจกำลังมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น อีกทั้งกำลังวางแผนจะลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยดัชนีตังกังล่าสุดที่บีโอเจนำออกเผยแพร่ในวันที่ 1 กรกฎาคมระบุว่า ในส่วนของบริษัทผู้ผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อันถือเป็นกลุ่มแกนซึ่งขับดันเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ +18 ดีขึ้นจากการสำรวจเมื่อไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ +14 ทั้งนี้การสำรวจจะสอบถามบริษัทต่างๆ ว่าภาวะทางธุรกิจดี หรือเลว หรือทรงๆ แล้วนำเอาผู้ที่ตอบว่าดีมาลบออกจากผู้ที่ตอบว่าเลว ส่วนผู้ตอบว่าทรงๆ จะถูกตัดทิ้งไป นอกจากนั้น ในการสำรวจครั้งล่าสุดนี้ บริษัทผู้ผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตอบว่ามีแผนเพิ่มการใช้จ่ายด้านการลงทุน มีจำนวน 9.4% สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนที่มีเพียง 1%

ศาลสูงฟิลิปปินส์ระงับมาตรการภาษีอาร์โรโย

ศาลสูงฟิลิปปินส์ออกคำสั่งชั่วคราว ระงับการใช้มาตรการขยายการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของรัฐบาลประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย หลังจากที่เริ่มมีผลบังคับใช้ยังไม่ทันเต็มวัน เนื่องจากมาตรการดังกล่าวถือเป็นหมัดสำคัญของรัฐบาลในการแก้ปัญหาขาดดุลงบประมาณเรื้อรัง ตลอดจนในการเรียกคืนความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นการถูกระงับไปเช่นนี้จึงส่งผลให้ตลาดการเงินปั่นป่วน ดัชนีสำคัญของตลาดหลักทรัพย์และค่าเงินเปโซต่างตกฮวบ ถึงแม้ฝ่ายค้านและกลุ่มผู้ค้าน้ำมันคือผู้ยื่นคำร้องต่อศาลสูง แต่เนื่องจากคณะผู้พิพากษาศาลสูงลงมติเรื่องนี้ด้วยเสียงเอกฉันท์ ทั้งที่ต่างได้รับการแต่งตั้งจากอาร์โรโย จึงทำให้นักวิเคราะห์บางคนสงสัยว่าอาจเป็นหมากกลของรัฐบาลที่จะผ่อนเพลาสถานการณ์ ภายหลังเห็นว่ามาตรการเหล่านี้ถูกประชาชนคัดค้านกันมากมาย เพราะมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเอากับไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์น้ำมันเป็นครั้งแรก ทำให้ประชาชนที่ไม่พอใจอาร์โรโยในเรื่องอื้อฉาวโกงเลือกตั้งและทุจริตรับเงินหวยเถื่อนอยู่แล้ว ยิ่งเกิดความโกรธเกรี้ยวมากขึ้นไปอีก

สภาสหรัฐฯลงมติค้านจีนเทคโอเวอร์ยูโนแคล

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงคะแนนด้วยเสียง 398 ต่อ 15 ผ่านมติที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เรียกร้องให้รัฐบาลอเมริกันสกัดกั้นการที่บริษัท ไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (ซีนูก) เสนอซื้อยูโนแคล บริษัทน้ำมันและก๊าซสัญชาติอเมริกัน ด้วยเหตุผลว่า ซีนูกเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน หากปล่อยให้เข้าครอบครองยูโนแคลได้สำเร็จ ก็จะเป็นการคุกคามว่าจะสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ตอบโต้อย่างโกรธเกรี้ยวว่า การเสนอเทคโอเวอร์ของซีนูก เป็นกิจกรรมทางการค้าปกติระหว่างบริษัทต่างๆ เท่านั้น จึงไม่ควรตกเป็นเหยื่อของการแทรกแซงทางการเมือง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us