สก็อตเผยภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบยอดขาย ยืนกรานตรึงราคาสินค้ามานาน 3-4 ปี เตรียมปรับขึ้นราคาปีหน้า ชี้ตลาดรังนกสก๊อต ชูการ์ฟรีปีนี้ไปได้สวย ดูจากยอดขายวันแม่เป็นตัวชี้วัด เตรียมขยายช่องทางใหม่เจาะตลาดนอน-เทรดตามโรงพยาบาล และร้านอาหาร ล่าสุดอัดงบ 5 ล้านบาทจัดกิจกรรมร่วมกับกองมิสไทยแลนด์เวิลด์ หวังโปรโมตแบรนด์ผ่านสาวงาม คาดสิ้นปียอดขายรังนกสก๊อตโต 18%

นางสาววรวิมล กรรมารางกูร ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการตลาด บริษัท สก็อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯมากนัก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มระดับบน โดยในช่วงเทศกาลวันแม่ที่ผ่านมาพบว่ายอดขายรังนกสก๊อตมีความคึกคักพอสมควร ซึ่งสามารถเป็นตัวชี้วัดได้ดีว่าตลาดรังนกยังเติบโตได้ดี ขณะที่ช่วงไฮชีซันของรังนกยังคงเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่

ประกอบกับบริษัทฯยังมีแนวโน้มขึ้นราคาสินค้าในปีหน้าตามสภาพต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น10% หลังจากที่บริษัทฯได้ยืนราคาเดิมมานาน 3-4 ปีแล้ว พร้อมกันนี้บริษัทฯเตรียมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกหลายรายการในปีหน้า โดยเป็นกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพเช่นเดิม ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมรองรับธุรกิจด้วยการสั่งเครื่องจักรเพิ่มมายังโรงงานใหม่ที่กำลังจะเปิด เพื่อผลิตสินค้าในไลน์สินค้าใหม่ในปีหน้า

ปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้ารังนกอยู่แล้ว 4 ตัว ได้แก่ รังนกทอง, รังนกผสมโสม, รังนกผสมโสมเกาหลี และสก็อตชูการ์ฟรี ซึ่งรังนกทองยังคงมียอดขายสูงสุด จากการที่บริษัทฯทำกิจกรรมทางการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง

นางสาววรวิมล กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯได้จัดกิจกรรมตลาดเพื่อส่งเสริมการขายรังนกสก็อต ภายใต้งบประมาณ 270 ล้านบาท แบ่งเป็นงบสำหรับสก็อต ชูการ์ฟรี 170 ล้านบาท และสครัปอีก 100 ล้านบาท เพื่อต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรังนก และเพื่อกระตุ้นยอดขายให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 840 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 18% จากยอดขายปีก่อนที่มีมูลค่า 700 ล้านบาท

ล่าสุดปีนี้บริษัทฯใช้งบการตลาดกว่า 5 ล้านบาทจัดกิจกรรมกับทางกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ ซึ่งบริษัทฯจะมีการถ่ายทอดเบื้องหลังเวทีประกวดในช่วงเก็บตัวผ่านทางออน์ แอร์ เรียลลิตี้ โชว์ ทางช่อง 3 ในคืนวันนี้ (18 สิงหาคม 48) ซึ่งระยะเวลาจัดกิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2548

ทั้งนี้ การเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักในเวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ในปีนี้และปีที่แล้ว มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างแบรนด์อิมเมจของสินค้ารังนก สก็อต ชูการ์ฟรี ให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่และวัยทำงาน อายุระหว่าง 20-30 ปี โดยอาศัยภาพลักษณ์ของกลุ่มหญิงสาวที่เข้าประกวดบนเวทีดังกล่าวมาช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับตัวสินค้า โดยผู้ที่ครองตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ปีนี้จะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์สก็อต ชูการ์ฟรีอีกด้วย

สำหรับรังนกสก็อต ชูการ์ฟรี มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงวัยทำงานยุคใหม่ อายุ 20-30 ปี ที่ห่วงใยต่อสุขภาพและความงาม โดยคาดว่ากลุ่มเป้าหมายส่วนหนึ่งจะมาจากการเปลี่ยนการดื่มซุปไก่สกัด มาเป็นรังนกซึ่งไม่มีน้ำตาล ทั้งนี้ยังไม่มีบริษัทฯใดผลิตสินค้าประเภทนี้ออกมาแข่ง

ส่วนช่องทางการขายในปีนี้บริษัทฯได้เพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ ด้วยการเริ่มเจาะตลาดนอน-เทรดหรือจุดที่ไม่มีหน้าร้าน อาทิ โรงพยาบาล, โรงแรม และร้านอาหาร จากเดิมที่มีเพียงการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด 60% และผ่านร้านค้าอีก 40%

ปัจจุบันตลาดรังนกในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 1,100 ล้านบาท บริษัทฯเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 60% รองลงมาเป็นรังนกแบรนด์มีแชร์ในตลาด 40%