|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หลังประกาศขยายความร่วมมือออกไปอีก 3 ปีถึงปี 2011 ล่าสุดเอเอ็มดีดึงผู้บริหารไอบีเอ็มเข้ารับตำแหน่งประธานฝ่ายซิลิคอนดีไซน์ ดูแลคอมพิวติ้งโซลูชั่นทั้งหมดของเอเอ็มดี รวมถึงแผนการพัฒนาโปรเซสเซอร์ในอนาคต โดยยังคงยึดหลักตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้ใช้ มั่นใจผู้บริโภคไม่ผิดหวัง
บริษัทเอเอ็มดี (Advanced Micro Devices; AMD) ผู้นำด้านการออกแบบชิป เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2005 ว่า เอเอ็มดีประกาศแต่งตั้ง เจฟฟ์ เวอร์ฮีล (Jeff VerHeul) เป็นรองประธานฝ่ายซิลิคอนดีไซน์ รับผิดชอบการพัฒนาคอมพิวติ้งโซลูชั่นทั้งหมดของเอเอ็มดี รวมถึงโร้ดแม็ปสำหรับผลิตภัณฑ์ซิลิคอนและการประสานงานด้านวิศวกรรมทั่วโลก เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเอเอ็มดีจะตอบสนองทุกๆความต้องการได้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ เจฟฟ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) และร่วมงานกับไอบีเอ็มมานานกว่า 25 ปี
"นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเอเอ็มดีและผู้บริโภคเทคโนโลยีทั่วโลก เอเอ็มดีปฏิวัติศักยภาพในการแข่งขันของตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า โดยมุ่งที่การตอบสนองความต้องการของลูกค้า" เจฟฟ์ กล่าวและว่า "ผมตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ และจะร่วมงานกับเดิร์คและทีมงาน มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผู้บริโภค"
ก่อนหน้านี้มีรายงานออกมาว่า เอเอ็มดีและไอบีเอ็มได้ขยายความร่วมมือในการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีออกไปจนถึงปี 2011 จากเดิมที่เป็นปี 2008 นอกจากนี้ยังจะขยายความร่วมมือเข้าในส่วนอื่นๆนอกเหนือจากการพัฒนาชิปด้วย ตัวอย่างเช่น การพัฒนาเทคนิคการผลิตชิปโดยใช้เทคโนโลยี 32 และ 22 นาโนเมตร
ปัจจุบันเอเอ็มดีเป็นผู้ผลิตชิปอันดับ 2 ของโลก แต่การเติบโตของพวกเขากำลังน่าสนใจและควรค่าแก่การจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เอเอ็มดีเป็นผู้บุกเบิกวิธีเพิ่มสมรรถนะชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 ด้วยการเพิ่มความสามารถด้าน 64 บิตเข้าไป ที่รู้จักกันในชื่อ AMD64 ทำให้ชิปจากเดิมที่ประมวลผลได้เพียงแอพพลิเคชั่น 32 บิตอย่างเดียว ก็ทำงานได้กับทั้งแอพพลิเคชั่น 32 และ 64 บิต นอกจากนี้ยังทำให้ระบบรองรับหน่วยความจำได้มากกว่า 4GB ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆในอนาคต
Opteron คือสายพันธุ์แรกของเทคโนโลยี AMD64 เปิดตัวออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นที่ยอมรับของตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะผู้บริโภคระดับองค์กร ที่สำคัญนับตั้งแต่ออกสู่ตลาด มันก็กัดกินส่วนแบ่งทางการตลาดของอินเทล (Intel) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เอเอ็มดีมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาด x86 เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 10% แล้วในปัจจุบัน
หุ้นเอเอ็มดีปิดที่ 21.19 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.89 ดอลลาร์หรือ +4.38%ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ส่วนหุ้นไอบีเอ็มปิดที่ 81.30 ดอลลาร์เท่ากับเมื่อตอนเปิดตลาด ขณะที่หุ้นอินเทลปิดที่ 26.09 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.09 ดอลลาร์หรือ +0.35%ที่ตลาดแนสแดค เมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2005
|
|
|
|
|