Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน18 สิงหาคม 2548
"เบสท์ฟู้สด์" ลั่นกลุ่มอาหารต้องโต20% โฟกัส"น้ำสลัด-สเปรด"ยิงยาวสิ้นปี49             
 


   
search resources

Food and Beverage
ยูนิลีเวอร์ เบสท์ฟู้ดส์ (ประเทศไทย), บจก.
การ์ดิเนีย ฟู้ดส์ (ประเทศไทย), บจก.




เบสท์ฟู้ดส์ ขยายอาณาจักรอาหาร ประกาศแผนต้องโตเพิ่มอย่างน้อย 20% ชูนโยบายโฟกัส2กลุ่มผลิตภัณฑ์ "สเปรด - น้ำสลัด" ล่าสุดทุ่ม 60 ล้านบาท จับมือการ์ดีเนีย เปิดตัวแคมเปญ "เริ่มทุกเช้าด้วยคุณค่าความอร่อย"ยิงยาวนาน 2 ปี หวังเป็นหมากกระตุ้นการบริโภคอาหารมื้อเช้ากลุ่มเด็ก-วัยทำงาน สิ้นปีตั้งเป้าโต 15% กวาดรายได้ 2,000 ล้านบาท

นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ยูนิลีเวอร์ เบสท์ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราเบสท์ฟู้ดส์ เปิดเผยว่า นโยบายของเบสท์ฟู้ดส์ในปีนี้และปี 2549 จะมุ่งขยายตลาดรวมเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 20% โดยเน้นทำตลาด 2กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ น้ำสลัด ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัว 3 สูตรใหม่ ได้แก่ ซีซาร์,เธาเซินด์ ไอส์แลนด์,ไลท์ เลมอน และกลุ่มผลิตภัณฑ์สเปรด ล่าสุดได้เปิดตัวรสเชดด้า ชีส และรสทูน่า อีกทั้งยังประเดิมด้วยการจับมือร่วมกับขนมปังการ์ดีเนีย เปิดตัวแคมเปญ"เริ่มทุกเช้าด้วยคุณค่าความอร่อย"ภายใต้แนวคิดอร่อยมื้อเช้าอย่างมีสไตล์ สะดวก ครบคุณค่าโภชนาการ

โดยการร่วมมือดังกล่าว จะนำผลิตภัณฑ์จากทั้งสองบริษัท ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากเบสท์ฟู้ดส์ แยม สเปรด มาร์การีน และเนยถั่วตราสกิปปี ส่วนผลิตภัณฑ์จากการ์ดีเนีย คือ ขนมปัง มาทำการตลาดและโปรโมชันร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีการวิจัยร่วมกัน โดยโครงการดังกล่าววางไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี ใช้งบ 60 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทปูพรมด้วยการแจกสินค้าตัวอย่าง แซนด์วิชสเปรด คู่กับขนมปังการ์ดีเนียตามโรงเรียนทั่วกรุงเทพ 20 แห่ง เพื่อประชาสัมพันธ์และกระตุ้นให้คนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของโครงการนี้ เห็นถึงความสำคัญการรับประทานอาหารมื้อเช้า ทั้งนี้คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นส่วนแบ่งการตลาดทั้งสองบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่า 10%

นายญนน์ กล่าวต่อว่า พฤติกรรมของผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยรับประทานอาหารมื้อเช้ามากนัก ส่งผลให้เด็กไทยมีพฤติกรรมไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าตามมาด้วย โดยจากการวิจัยพบสาเหตุที่ทำให้คนไทยเริ่มไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า มีปัจจัยมาจากไม่มีเวลาทำอาหารเช้า อีกทั้งยังรับประทานอาหารที่ไม่ถูกโภชนาการ โดยการเลือกทำตลาดเฉพาะมื้อเช้าก่อน เพราะจากการวิจัยพบว่า โอกาสที่คนจะบริโภคขนมปังในมื้อเช้าถึง 70% ส่วนอีก 30% เป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ อย่างไรก็ตามในเร็วๆนี้บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมการตลาด 2-3 โครงการ เพื่อกระตุ้นการรับประทานอาหารมื้อเช้าในกลุ่มวัยทำงานต่อไป

"เรามีเป้าหมายขยายส่วนแบ่งตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์แซนด์วิช สเปรดจากปัจจุบันมี 42% เพิ่มเป็น 50-52% จากมูลค่าตลาด 2,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าตลาดจะโต 50% ส่วนตลาดน้ำสลัดมูลค่า 300 ล้านบาท ปีตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 60% เป็น 70% ขณะที่ตลาดแยมมูลค่า 1,000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าตลาดจะโต 30-40% โดยบริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 75% ผลประกอบการทั้งปีตั้งเป้าโต 15% หรือ 2,000 ล้านบาท"

นายโจเซฟ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การ์ดิเนีย ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มตลาดขนมปังมูลค่า 6,000 ล้านบาทว่า ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 20% เนื่องจากเป็นตลาดที่สอดคล้องกับช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ คนไทยมีกำลังการซื้อที่ลดลง อีกทั้งการดำเนินชีวิตมีความเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับการบริโภคของคนไทยยังมีน้อยมาก คือแค่ 3.8 ก.ก.ต่อปี เมื่อเทียบกับในประเทศเอเชียด้วยกัน อย่างประเทศสิงคโปร์มากกว่า 6-7 เท่า ส่งผลให้ตลาดขนมปังยังขยายตัวได้อีกมาก

โดยเฉพาะเซกเมนต์พรีเมียมหรือขนมปังเพื่อสุขภาพมูลค่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 30-40% มีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก เพราะคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ขณะที่ขนมปังขาวยังคงเป็นตลาดใหญ่อยู่ราว 60-70% และเมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศ อัตราการบริโภคขนมปังขาวมีเพียง 30-40% ส่วนขนมปังเพื่อสุขภาพ 60-40%

สำหรับแผนการตลาดของการ์ดีเนีย บริษัทจะเน้นกลุ่มขนมปังเพื่อสุขภาพในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 600 ล้านบาท เติบโตเป็น 2 เท่าตัว จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากขนมปังเพื่อสุขภาพ 50% และอื่นๆ 50%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us