อ.ส.ม.ท.เซ็นเอ็มโอยูกับ "ซีเอ็นเอ็น" แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างองค์กร
พร้อมเจรจากับสถานี "ซีซีทีวี" ยักษ์ใหญ่จากจีน และสำนักข่าวทั่วโลก
สนองวิชั่น อ.ส.ม.ท.ยุคใหม่ผู้นำเข้า-ส่งออกข้อมูลข่าวสารในตลาดโลก เตรียม
ผ่าตัดใหญ่ช่อง 9 ต.ค.นี้ ชูภาพสถานีทีวีทันสมัย เป็นองค์กรสร้างภาพลักษณ์การลงทุน
ส่งออก ท่อง เที่ยวให้ประเทศไทย
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการ องค์การสื่อสารมวลชน แห่งประเทศไทย
(อ.ส.ม.ท.) เปิดเผยว่าวานนี้ (2 ก.ย. 2545) อ.ส.ม.ท.ได้เซ็นบันทึกข้อตกลงเบื้อง
ต้น หรือ MOU ความร่วมมือกับ นายสตีฟ มาร์โคโปโท ประธานเทอร์ เนอร์ อินเตอร์
เนชั่นแนล เอเซีย แปซิฟิก เพื่อนำเข้าและส่งออกข้อมูลข่าวสาร ระหว่าง "ซีเอ็นเอ็น"
และอ.ส.ม.ท. เนื้อหาที่อ.ส.ม.ท.จะนำเข้าจาก ซีเอ็นเอ็น ประกอบไปด้วย ข่าวด่วน
(Breaking News),ข่าวประจำวัน,สารคดี,ข่าวบันเทิง และการ์ตูน เน็ตเวิร์ก
นายสตีฟ มาร์โคโปโท ประธานเทอร์เนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเซีย แปซิฟิก
เปิดเผยว่าการเซ็นเอ็มโอยูแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับอ.ส.ม.ท.เป็นครั้งแรกที่ซีเอ็นเอ็น
เซ็นสัญญาความร่วมมือในลักษณะ ดังกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ในต่างประเทศ ที่ผ่านมาการดำเนินงานของซีเอ็นเอ็นกับสถานีทีวีในต่างประเทศเป็นเพียงการซื้อขายข้อมูล
เท่านั้น หากความร่วมมือในลักษณะดังกล่าวกับประเทศไทยเกิดประโยชน์อย่างชัดเจน
ซีเอ็นเอ็น อาจ จะพิจารณาดำเนินความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ด้วย
ความร่วมมือกับซีเอ็นเอ็นในส่วนของอ.ส.ม.ท. ถือเป็นการนำเข้าข่าวจากทั่วโลกให้คนไทยได้รับชมผ่านซีเอ็นเอ็นนำเข้าเนื้อหา
ด้านสารคดีที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสุขภาพและวิทยาศาสตร์น่ารู้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา
40 ในการบริหาร สถานีทีวี
"การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับซีเอ็นเอ็น ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากเครือข่ายของ
ซีเอ็นเอ็นที่มีอยู่ทั่วโลก ที่เห็นได้ชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา คือการนำเสนอข่าวจัดงานเย็นทั่วหล้า
มหาสงกรานต์ในเดือนเม.ย. ซีเอ็นเอ็นได้นำเสนอข่าวดังกล่าวไปทั่วโลก หากคิดเป็นมูลค่าเวลาที่ออกอากาศจะสูงถึง
80 ล้านบาท แต่ไทยกลับไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และยังได้ผลประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย"
การนำเข้าข้อมูลข่าวสาร สารคดีจากซีเอ็นเอ็น อ.ส.ม.ท.จะต้องปรับตัวเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าวด้วยการจัดตั้งบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ
และทีมงาน 4-5 ทีม ขึ้นมารับผิดชอบ เพราะอ.ส.ม.ท. วางแผนจะเป็นองค์กรนำเข้าข้อมูลจากสำนักข่าวต่าง
ประเทศหลายแห่ง ไม่ใช่เฉพาะซีเอ็นเอ็นเท่านั้น
นอกจากนี้ในส่วนของการส่งออกข้อมูลของ อ.ส.ม.ท.สู่สำนักข่าวต่างประเทศที่ร่วมเป็นพันธมิตรก็จะต้องแต่งตั้งบรรณาธิการข่าวขึ้นมารับผิดชอบด้วย
เพื่อคัดเลือกข้อมูลที่เหมาะสมต่อการนำเสนอในประเทศนั้นๆ ซึ่งเนื้อหาการของรายการจะแตกต่างจากประเทศไทย
เพราะในบางเหตุการณ์ข่าวหรือสารคดีจะต้องผลิตภูมิหลังเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ชมในต่าง
ประเทศเข้าใจเหตุการณ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งซีเอ็นเอ็นจะเป็น สำนักข่าวแรกที่นำรายการจากช่อง
9 อ.ส.ม.ท.ไปออก อากาศในต่างประเทศ
ทั้งนี้ความร่วมมือในเบื้องต้นระหว่างซีเอ็นเอ็น และอ.ส.ม.ท.จะเริ่มด้วยการส่งพนักงานอ.ส.ม.ท.
บางส่วนไปฝึกงานกับซีเอ็นเอ็นที่แอตแลนต้า ประเทศ สหรัฐอเมริกา ร่วมทั้งจะมีทีมงานซีเอ็นเอ็นมาฝึกอบรมพนักงานอ.ส.ม.ท.ที่ประเทศไทยด้วย
ในช่วงที่ คณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนจีน
และญี่ปุ่น อ.ส.ม.ท.ได้ใช้โอกาสดังกล่าวเข้าพบกับเจ้าของสถานี ทีวีของทั้ง
2 ประเทศ เพื่อเจรจาและเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่าง กัน เช่นเดียวกับซีเอ็นเอ็น
ในประเทศจีนได้เข้าพบ ประธาน CCTV ซึ่งเป็นเจ้าของสถานีทีวีในจีน 12 ช่อง
พบประธาน CRI เจ้าของเครือข่ายวิทยุในประเทศจีน
การเข้าพบผู้บริหารทีวี และวิทยุในประเทศจีน มีวัตถุประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศซึ่งกันและกัน
โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยปีละ 7-8 แสนคน จากจำนวนประชาการ 1,300
ล้านคน ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปจีนปีละ 3-4 แสนคน จากจำนวนประชากร
62 ล้านคน ทั้ง 2 ประเทศมีโอกาสขยายฐานนักท่องเที่ยวระหว่างกันได้จำนวนมหาศาล
โดยเฉพาะประเทศไทยมีโอกาสดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศได้มากกว่าจากจำนวน
ประชากรจีนที่มีมากกว่า
ส่วนประเทศญี่ปุ่นอ.ส.ม.ท.ได้เข้าพบผู้บริหารของ NHK ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมทั้งได้เข้าพบผู้บริหารของสำนักข่าว BBC ของประเทศอังกฤษแล้ว ซึ่งทั้งหมดยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับอ.ส.ม.ท.ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
เพื่อประโยชน์ระหว่างกัน
นายมิ่งขวัญกล่าวต่อว่าหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.อ.ส.ม.ท.เมื่อเดือน
ก.ค.ที่ผ่านมา ได้วาง แผนการทำงานไว้ 3 ขั้นตอน คือ 1. วิสัยทัศน์ 2. ยุทธศาสตร์การดำเนินงาน
และ 3. แผนปฏิบัติการ หลังจากกำหนดวิสัยทัศน์ให้อ.ส.ม.ท. เป็นผู้นำเข้า และส่งออกข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกแล้ว
ขณะนี้ขั้นตอนเริ่มเข้าสู่ยุทธศาสตร์การทำงาน โดยในเร็วๆนี้ หรือราวเดือน
ต.ค. อ.ส.ม.ท.มีแผนจะปรับรายการของช่อง 9 อ.ส.ม.ท.ใหม่หมดทั้งสถานี ภายใต้คอนเซ็ปต์
"Modren Television" ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบรายการ
การปรับปรุงใน ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. เป็นสถานี
ที่ทันสมัยที่สุดในทุกด้าน และเป็นจุดยืนที่ไม่มีสถานีทีวีช่องใดอยู่ในฐานะดังกล่าวมาก่อน
"การปรับช่อง 9 อ.ส.ม.ท.เป็นการปรับใหญ่ทั้งสถานี แบบที่ไม่เคยมี
ผอ. อ.ส.ม.ท.คนใดดำเนิน การมาก่อน เพื่อให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย ไม่ใช่ทำงาน
ระบบราชการ เพราะอ.ส.ม.ท.ภายใต้วิชั่นใหม่จะต้องทำหน้าที่นำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย
เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจประเทศผ่าน บีโอไอ ด้านการลงทุน
กระทรวงพาณิชย์ ด้านการส่งออก และททท.ด้านการท่องเที่ยว"