สหภาพฯทศท. อัดแหลกทีเอ กรณีฟ้องอนุญาโตฯ เรียกร้องเงินกว่า 6,000 ล้านบาทเป็นค่าใช้โครงข่าย
ชี้ 4 ประเด็นหลัก ปลุกพนักงานให้ปกป้องประ โยชน์องค์กร ย้ำยุทธการแยกมิตร
แยกศัตรูตอนต่อไปจะเข้มข้นมากกว่านี้
นายมิตร เจริญวัลย์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ. ทศท คอร์ปอเรชั่น(สรท.)
กล่าวว่า สรท.ได้ออกแถลงการณ์ ยุทธการแยกมิตร แยกศัตรู ฉบับที่ 1 เพื่อตอบโต้กรณีทีเอเรียกร้องให้ชำระค่าเชื่อมโยงเป็นเงินกว่า
6,000 ล้านบาท โดยขอความร่วมมือสมาชิกพนักงานทศท.กว่า 22,000 คน ให้แสดงออกถึงการปกป้องและรักษา
ประโยชน์ของทศท.ใน 4 ประเด็นคือ
1.บริษัท ทีเอเป็นบริษัทร่วมการงานกับทศท.ในสัญญาที่ทีเอ ทำกับทศท.ระบุชัดเจน
ให้ทีเอ ร่วมการงานขยายเลขหมายโทรศัพท์ภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยมีเงื่อนไขว่าเมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วต้องยกทรัพย์
สินให้กับทศท. ซึ่งวันนี้ทรัพย์สินของทีเอทั้งหมดตกเป็นของทศท. แล้ว
2.การยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสำนักงานอนุญาโตตุลาการดังกล่าวเป็นแผนการลดมูลค่าองค์กร
ทศท.ที่เตรียมจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯและในทางกลับกันเป็น การแอบแฝงสร้างมูลค่าองค์กรของทีเอให้หุ้นกู้ของทีเอที่จะออกขายในเร็วๆนี้มีมูลค่าสูงขึ้น
3.การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ของทศท.กับการสื่อสารแห่งประ
เทศไทย(กสท.) ประมาณเดือนต.ค. ที่จะถึงนี้จะมีผลกระทบต่อวิทยุและเครื่องมือสื่อสารทีใช้คลื่นความ
ถี่ใกล้เคียง 1900 เมกะ- เฮิรตซ์ซึ่งมีแรงส่งและรับเพียง 0.2 วัตต์ (PHS/PCT)เพราะความถี่ดังกล่าวใกล้เคียงกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ความถี่
1900 ที่มีแรงส่งถึง 2 วัตต์
4.ในขณะนี้ยังไม่มีการเก็บ เงินค่าเชื่อมโยงโครงข่าย องค์กรที่จะกำหนดอัตราค่าเชื่อมโยงคือคณะกรรม
การกำกับกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ หรือกทช.สำหรับ เงินค่าส่วนแบ่งรายได้ที่
ทศท.ได้รับจากเอไอเอส เป็นค่าสิทธิในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนเงินที่
ดีแทคจ่ายให้ ทศท. เลขหมายละ 200 บาท/เดือนนั้น เกิดขึ้นจากการย้ายระบบเดิมที่ใช้รหัส
02 มาเป็นระบบ NUMBERING 01
"มาตรการต่อไป เราจะเข้มงวดกับทีเอให้มากขึ้น อย่างการเข้า มาใช้พื้นที่ชุมสายโทรศัพท์ที่ต่างๆ
หากเกินเวลาราชการ ก็จะไม่ให้เข้ามาซ่อมบำรุง รวมทั้งค่าเช่าสถานที่ต่างๆ
ที่ผ่านมาทศท.มองทีเอเป็นบริษัทร่วมการงานในชายคาเดียว กัน มีแต่ทีเอที่มองทศท.ด้วยสาย
ตาเป็นศัตรูมากกว่าเป็นมิตร ถึงเวลาแล้วที่เราต้องแยกให้ออกว่าใครเป็นมิตรที่แท้จริงหรือเป็นศัตรูแอบแฝงมา"
เหตุผลที เอฟ้องอนุญาโตฯ
ทีเอได้ทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อ วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่าน มาโดยแจ้งว่าเมื่อวันที่
21 ส.ค. บริษัทได้ยื่น ข้อเสนอพิพาทต่อสำนักงานอนุญาโต ตุลาการ กระทรวงยุติธรรม
เป็นข้อพิพาทหมายเลขคดีดำที่ 25/2545 เพื่อเรียกร้องให้บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) ชำระค่าเชื่อมโยงหรือเชื่อมต่อโครงข่ายที่ทศท.ได้รับจากและที่พึงเรียกจากผู้ประกอบการโทร-ศัพท์เคลื่อนที่แต่ละราย
ตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนฯ คิดคำนวณผลประโยชน์ตอบแทนจนถึงวันที่ 31
พ.ค. 2545 เป็นจำ-นวนไม่น้อยกว่า 6,034,652,795.65 ล้านบาท
พร้อมกับให้ชำระดอกเบี้ยในอัตรา MKR+1% ของเงินต้นจำนวนดังกล่าวจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
และให้ชำระผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าวทุกเดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2545
เป็นต้นไป (เป็นเงินประมาณเดือนละ 700 ล้านบาท) จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาสัญญาสัมปทาน
รวมทั้งสรุปว่า การเสนอข้อพิพาทนี้ไม่มีผลกระ ทบต่อรายได้ของบริษัทแต่อย่าง
ใด แต่หากคณะอนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้บริษัทได้รับค่าตอบแทนจากกรณีดังกล่าวก็จะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น
ก่อนหน้านี้ทีเอ ได้มีหนังสือเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2545 ขอให้ทศท.ชำระค่าตอบแทนในการนำบริการพิเศษหรืออนุญาตให้บุคคลนำบริการพิเศษมาใช้ในโครงข่ายทีเอ
แต่ทศท.เพิกเฉยจนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ทีเอได้ทำหนังสือฉบับที่ 2 ขอให้ทศท.ชำระเงินค่าตอบแทนพิเศษในการนำบริการพิเศษมาใช้ผ่านโครงข่ายของทีเอ
โดยคำนวณผลประโยชน์ตอบ แทนตั้งแต่ทศท.ได้รับค่าเชื่อมโยงหรือเชื่อมต่อโครงข่ายจากผู้ประ
กอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละราย จนถึงวันที่ 31 พ.ค.2545
คิดเป็นเงินไม่น้อยกว่า 6,034,652,795.65 ล้านบาท แต่ทศท.ก็ยังคงเพิกเฉย
ดังนั้นในวันที่ 21 ส.ค.จึงยื่นข้อพิพาทไปยังสำนักงานอนุญาโตตุลาการ กระ
ทรวงยุติธรรม
ประเด็นการขอให้ทศท.ชำระค่าตอบแทนดังกล่าวเป็นเพราะ ทศท.เก็บค่าตอบแทนจากผู้ประ-
กอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดีแทค ดีพีซี ทีเอ ออเร้นจ์ ในอัตราเดือนละ 200
บาทต่อเลขหมายต่อ เดือน และในอัตรา 50% ของส่วนแบ่งรายได้ที่ทศท.ได้รับจากผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่
และยังได้รับผลประโยชน์ตอบแทนรายปีจากเอไอเอส ในการอนุญาตให้เอไอเอส นำบริการพิเศษมาใช้ผ่านโครงข่ายของทีเอ
ด้วย ทั้งๆที่ทีเอต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับ ปรุง จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆในโครงข่ายที่ได้จัดสร้างและโอนสิทธิให้กับทศท.