|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เดอะมอลล์เร่งเครื่องอัดแคมเปญชุดชั้นในสตรีครึ่งปีหลังเกือบ 5 ล้านบาท คาดกระตุ้นยอดขายเพิ่ม 30% เผยซัปพลายเออร์ส่อแววบุกตลาดชุดชั้นในเกรดเอแทน เหตุไม่ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจและราคาน้ำมันแพง ฟันธงปีนี้ตลาดสินค้าเกรดบีและซีไม่โต เดอะมอลล์เผยปีนี้ขอแชร์กลุ่มสินค้าระดับบน 20% มูลค่า 1 พันล้าน
นางสาวมาลินี ทรัพย์บริบูรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่สายบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด รับผิดชอบในส่วนสินค้าสตรีของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาซัปพลายเออร์รายใหญ่อย่างวาโก้ ซึ่งมีแชร์ตลาด 50% เปิดเผยกับทางห้างฯ ว่าสินค้าพรีเมียมของวาโก้ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องยอดขายจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยมีแนวโน้มหันมาทำตลาดสินค้าเกรดเอแทน นอกจากนั้น วาโก้ยังได้ปรับราคาขายเฉพาะสินค้าในกลุ่มพรีเมียมขึ้นอีก 15% ในบางคอลเลกชันในช่วงต้นปี โดยมีระดับราคา 500-600 บาท ซึ่งเป็นการปรับตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนตลาดสินค้าเกรดบีและซีจะไม่ค่อยทำ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน ตลาดสินค้ากลุ่มนี้จึงไม่โต โดยระดับราคาขายวาโก้ในไทยนั้นถูกกว่าฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น 50% เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตชุดชั้นใน ส่งผลให้ยอดขายชุดชั้นในเกรดเอเติบโตในกลุ่มลูกค้า นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในห้างฯ ดิเอ็มโพเรียมที่เป็น Tourist Destination อยู่แล้ว
สำหรับตลาดชุดชั้นในสตรีในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท ซึ่งสินค้ากลุ่มชุดชั้นในของห้างฯ เดอะมอลล์มีมาร์เกตแชร์ 50% โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 9% จากปีที่แล้ว ทั้งนี้เฉพาะสินค้าชุดชั้นในกลุ่มพรีเมียม ซึ่งส่วนใหญ่มีจำหน่ายเฉพาะดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ในกรุงเทพฯ นั้น ทางเดอะมอลล์มีแชร์ตลาดอยู่ 20% โดยปีนี้ทางห้างฯ ได้ตั้งเป้าที่จะมียอดขายโตในสินค้ากลุ่มนี้ 8% มูลค่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่ปีที่แล้วมีมูลค่า 920 ล้านบาท ขณะที่อัตราการเติบโตของตลาดรวมทั้งประเทศมีเพียง 5% ส่วนช่อง ทางจำหน่ายสินค้ากลุ่มกลางและล่าง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดนั้นไม่มีการเติบโตในปีนี้
ขณะที่ไฮซีซันช่วงปลายปี จะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กันยายน 48 ซึ่งซัปพลายเออร์กว่า 50 รายของแผนกชุดชั้นในเดอะมอลล์จะเข้าสู่เทศกาลออกคอลเลกชันใหม่ๆ โดยมีการออกแบบตามเทรนด์ของเครื่องแต่งกายภายนอก เช่น ใส่เสื้อทับซ้อน 2 ตัว เพื่อให้เห็นลายลูกไม้ของชุดชั้นในโผล่อย่างตั้งใจให้เห็นเลย รวมถึงแฟชั่นสายเดี่ยวก็มีอิทธิพลต่อการออกแบบชุดชั้นในมารองรับ เช่น ลายยีราฟ, ลายเสือดาว อีกทั้งเทรนด์ใส่กางเกงเอวต่ำ ส่งผลให้จีสตริงมียอดขายเพิ่มขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์มียอดขายจีสตริงสูงกว่าเมืองไทยมาก เนื่องจากผู้หญิงชาวสิงคโปร์มีความกล้าและมั่นใจมากกว่าผู้หญิงไทย
สำหรับมูลค่าตลาดแผนกชุดชั้นในของเดอะมอลล์ที่สูง ส่งผลให้ทางห้างฯ ได้ให้ความสำคัญกับการทำโปรโมชันสินค้ากลุ่มชุดชั้นในสตรี โดยทุกปีจะจัดรายการส่งเสริมการขายพิเศษ นอกเหนือจากการทำโปรโมชันปกติ ภายใต้ชื่อ Beauty Body Secret ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีปีละ 2 ครั้ง โดยในปีนี้ได้จัดโครงการแรกในชื่อโครงการ Bra Charity เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว โดยในปีนี้มีผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงร่วมบริจาคชุดชั้นในสตรี 74,000 ชิ้น
ส่วนโครงการที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ ได้แก่ โครงการ Pink Ribbon Bear ภายใต้คอนเซปต์แคมเปญ Social Contribution Campaign ซึ่งใช้งบกว่า 4.5 ล้านบาท โดยมุ่งจัดกิจกรรมการตลาดเฉพาะแผนกชุดชั้นในของเดอะมอลล์เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือ ผู้หญิงที่ป่วยโรคมะเร็งเต้านม โดย แบ่งกิจกรรมการตลาดออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) การจำหน่ายตุ๊กตา หมี Pink Ribbon Bear Limited Edition ที่ได้รับพระกรุณาธิคุณ จากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในการออกแบบ ชุดชั้นในให้แก่ตุ๊กตาหมีดังกล่าว จำนวนจำกัด 500 ตัว ราคาตัวละ 999 บาท ผ่านแผนกชุดชั้นใน และ เคาน์เตอร์พรีเมียม ห้างฯเดอะมอลล์ ทุกสาขา และห้างฯ ดิเอ็มโพเรียม ซึ่งจะเริ่มเปิดขายวันที่ 18 สิงหาคม 48 เป็นวันแรก โดยคาดว่าจะมีรายได้ จากการขายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
2) การจัดโปรโมชันลดราคา 60% ในแผนกชุดชั้นใน และลดราคาสินค้าเคาน์เตอร์ปกติ 10-20% ระหว่าง 18-21 สิงหาคมนี้ ตลอดจนมอบโบนัสพิเศษตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยเงินบริจาคจะมาจากการสมทบทุนระหว่างซัปพลายเออร์ ชุดชั้นในที่ร่วมโครงการชิ้นละ 1 บาท และทางห้างฯ เดอะมอลล์อีกชิ้นละ 1 บาท ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 5 แสนชิ้น คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท และ 3) การเปิดประมูลตุ๊กตาหมี 20 ตัว ที่ออกแบบชุดชั้นในโดยกลุ่มผู้มีชื่อเสียง ในวงการสังคมต่างๆ 20 ท่าน อาทิ พิธีกรรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง ทั้ง 4 ท่าน ซึ่งจะเปิดประมูล ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ โดยกำหนด ราคาเริ่มต้นไว้ที่ตัวละ 3,000 บาท โครงการ ดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลต่อการกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 30% จากยอดขายเดิมสำหรับปีนี้
|
|
|
|
|