|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
โออิชิ ลุยขยายฐานภูธร ส่งหน่วยรถเจาะฐานร้านค้าย่อยในต่างจังหวัดนำร่อง ก่อนให้ดีทแฮล์มสานต่อผ่านยี่ปั๊วซาปั๊ว ยันไม่ซ้ำซ้อนกันแน่ ส่วนแบรนด์ดีไทย เตรียมออกลำไยอบแห้งเคลือบช็อกโกแลต
นายตัน ภาสกรนที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการทำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิ จากนี้จะเริ่มขยายฐานตลาดในต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาโออิชิยังมีตลาดใน ส่วนนี้น้อยมากแค่ 30% เมื่อเทียบกับตลาดในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีสัดส่วน 60% จากยอดขายของโออิชิเองทั้งหมดที่มีถึง 3,500 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งจากตลาดรวมล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนจากเอซีนีลเส็นระบุว่า โออิชิมีส่วนแบ่ง 67.7% จากเดิมตัวเลขเมื่อรอบเดือนเมษายนมีส่วนแบ่ง 62% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 10,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันจากการสำรวจพบว่า ปริมาณตู้แช่ ต่างจังหวัดกว่า 99% เป็นน้ำอัดลมซึ่งมีมากที่สุด ส่วน เครื่องดื่มชาเขียวโออิชิมีสินค้าอยู่ในตู้แช่ประมาณ 33% เท่านั้น ซึ่งหมายถึงว่ายังมีอีกกว่า 60% ที่โออิชิยังมีโอกาสในการวางสินค้าได้อีก
ทั้งนี้ แผนการตลาดต่างจังหวัด ขณะนี้ได้มอบ หมายให้บริษัทโอจีที ซึ่งเป็นบริษัทดิสทริบิวเตอร์ ให้ ช่วยปูฐานตลาดในระดับร้านค้ารายย่อยต่างจังหวัดมากขึ้น จากเดิมที่รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพฯและปริ-มณฑล โดยมีหน่วยรถจำนวนกว่า 70 คัน ซึ่งขณะนี้ ได้แบ่งหน่วยรถเจาะประมาณ 15 คัน กระจายไปใน แต่ละจังหวัดสลับกันไป เพื่อส่งสินค้าเข้าถึงร้านค้ารายย่อยมากขึ้น เป็นการปูฐานทางการตลาด อย่างไร ก็ตาม ในส่วนของยี่ปั๊วซาปั๊วต่างจังหวัดนั้นยังคงเป็น หน้าที่ของบริษัท ดีทแฮล์มอยู่เหมือนเดิมไมมีการซ้ำซ้อนกัน ซึ่งเมื่อร้านค้าขายดีขึ้นก็จะทำการสั่งซื้อสินค้าต่อซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของทางดีทแฮล์ม เช่นเดียวกันในการสานต่อร้านค้าเป้าหมายเหล่านี้
นอกจากนั้น ปีหน้าเตรียมลงทุนเพิ่มอีก 250 ล้านบาท เพื่อติดตั้งเครื่องจักรอีก 2 ไลน์การผลิต โดยจะเพิ่มกำลังผลิตอีก 15 ล้านขวดต่อเดือน และจะเพิ่มรสชาติใหม่ๆออกมาอีก จากเดิมที่มี 4 ไลน์การ ผลิต กำลังผลิตรวม 30 ล้านขวดต่อเดือนและ 20 ล้านกล่องต่อเดือน มี 5 รสชาติคือ รสต้นตำรับ รสน้ำผึ้งผสมมะนาว รสข้าวญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 3 รสชาตินี้มีสัดส่วนยอดขายเฉลี่ย 30% เหลืออีก 2 รสชาติที่ยังมียอดขายน้อยอยู่คือ รสปราศจากน้ำตาลกับซีจีสลิม 300 ซึ่งในช่วงเดือนนี้จะมีโปรโมชันเฉพาะ 2 รสชาติหลังนี้กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เมื่อซื้อ 2 ขวดจะได้ในราคาพิเศษ
ส่วนแผนการผลิตชาเขียวบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่นั้น ในเร็วๆนี้เตรียมที่จะผลิตอย่างเต็มรูปแบบคือ กล่องใหญ่ขนาด 1 ลิตร รสต้นตำรับและน้ำผึ้งผสมมะนาว และผลิตขวดใหญ่ขนาด 1.5 ลิตร รสชาติ ต้นตำรับและน้ำผึ้งผสมมะนาว
ล่าสุดบริษัทฯได้ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการติดตั้งเครื่องจักรเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแบบปลอดภัยเช่น การติดตั้งเครื่องสแกนนิ้วมือ โทรทัศน์วงจรปิดกว่า 100 จุด รวมไปถึงเครื่อง เอฟบีไอ หรือ Full Bottle Inspector เพื่อสแกนทุกขวดชาเขียวตรวจสอบความถูกต้องเรื่องสี สิ่งปลอมปน ปริมาณการบรรจุ ฝาปิด ทุกอย่างที่ได้ตั้งข้อมูลเอาไว้ หากขวดใดไม่ได้มาตรฐานเครื่องจะทำ การตัดออกจากระบบทันที เพื่อติดตามตรวจสอบการ ผลิตและการปฏิบัติงานที่ได้มาตรฐานทุกขั้นตอนที่โรงงานนวนคร
"ตลาดชาเขียวปีหน้าจะยิ่งแข่งขันกันรุนแรงมาก ยิ่งขึ้น แต่เจ้าตลาดยังคงตกเป็นของรายใหญ่แค่ 3-7 รายมีแชร์รวมกันมากกว่า 90% แล้ว ส่วนโออิชิจะพยายามเพิ่มฐานตลาดให้มากขึ้นและเพิ่มมูลค่าของแบรนด์มากกว่าที่จะไปเน้นเรื่องส่วนแบ่งตลาด แต่ก็ต้องพยายามรักษาระดับแชร์ให้มากกว่า 50% เอาไว้ เพื่อความเป็นผู้นำตลาด" นายตันกล่าว
สำหรับเครื่องดื่มน้ำลำไย "ดีไทย" ขณะนี้เริ่มได้รับการตอบรับจากตลาดมากขึ้น แต่ยังมีเพียง 2 รสชาติเท่านั้นคือ รสต้นตำรับกับรสน้ำผึ้งผสมใบแปะก๊วย ส่วนลำไยอบแห้งบรรจุซองมีเพียงรสชาติเดียวแต่หลายสี และเร็วๆนี้เตรียมที่จะเปิดตัวลำไยอบแห้งรสชาติใหม่ เคลือบช็อกโกแลต
|
|
 |
|
|