Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 สิงหาคม 2548
แลนด์ทำยอดขายนิวไฮพลิกแผนดึงทุนสิงคโปร์ซื้อรอยัลลุยอพาร์ตเมนต์             
 


   
www resources

โฮมเพจ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ - แลนด์แอนด์เฮ้าส์

   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
Real Estate




"แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" โชว์ยอดขายสูงสุด เป็นประวัติการณ์ 6,040 ล้านบาท ในขณะที่กำไรลดลงทำได้เพียง 1,441 ล้านบาท ระบุสาเหตุการแข่งขันสูง-ต้นทุน เพิ่ม เล็งขยายลงทุนเพิ่มหลังมาตรการภาษีกองทุนอสังหาฯ สิ้นสุดกลางปีหน้า ล่าสุดดึงกลุ่มทุนสิงคโปร์ซื้อบริษัทรอยัลเอ็คเซ็ลเล็นซิ เจ้าของอาคารสร้างค้างด้านหลังศูนย์การค้า เพนนินซูลา เตรียมเปิดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ ปีหน้าลุยปิดคอนโดฯ 2-3 ล้านบาท ย่านอ่อนนุช

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LH เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2548 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายบ้านทั้งสิ้น 6,040 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา 37.58% ซึ่งยอดขายจำนวนดังกล่าวถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับจากก่อตั้ง บริษัทมา ทั้งนี้ บริษัทเคยมีสถิติยอดขายสูงสุดเมื่อไตรมาส 4/2548 มียอดขายรวม 5,500 ล้านบาท

แม้ว่าบริษัทจะมียอดขายสูงสุด แต่มีอัตรากำไรขั้นต้น 1,441 ล้านบาท หรือ 34.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2548 มีอัตรากำไรขั้นต้น 33.4% แต่ยังต่ำกว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2547 ที่มีจำนวน 1,745 ล้านบาท หรือ 38.9% ทั้งนี้อัตรากำไรดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันของธุรกิจที่มีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งต้นทุนการพัฒนาเพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราการทำกำไรลดลง

นายอดิศรกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2548 บริษัทได้ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนชาวสิงคโปร์ ในเครือ GIC สัดส่วนการลงทุน 60 : 40 เข้าซื้อบริษัทรอยัล เอ็คเซ็ลเล็นซิ จำกัด เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 260 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินทุนของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 156 ล้านบาท และกลุ่มทุนสิงคโปร์ 104 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของตึก สร้างค้างด้านหลังศูนย์การค้าเพนนิซูล่า โดยบริษัท มีแผนที่จะพัฒนาอาคารดังกล่าวเป็นเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 2,500 ล้านบาท แล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะใช้บริษัทรอยัล เอ็คเซ็ลเล็นซิฯ ดำเนินการในส่วนของธุรกิจ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในอนาคต แทนการลงทุนใน กองทุนอสังหาฯ เนื่องจากในกลางปี 2549 สิทธิพิเศษด้านภาษีของกองทุนอสังหาฯจะหมดลง อีก ทั้งกองทุนอสังหาฯ ยังมีข้อเสียที่ไม่สามารถขอสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการได้ ทำให้บริษัทหันมาลงทุนดังกล่าวแทน ส่วนการลงทุนในกองทุนอสังหาฯนั้นก็จะยังคงดำเนินการต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่ถืออยู่ 5 อาคาร และขณะนี้ อยู่ระหว่างหาอาคารมาเพิ่มอีก 2 อาคาร หากได้สินทรัพย์ที่ดีและราคาที่เหมาะสมก็จะซื้อเข้ามา

นายอดิศรกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังส่งลูกค้า ของบริษัทให้ธนาคารไทยพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อตามปกติ แม้ว่าบริษัทจะจัดตั้งธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อยแล้วก็ตาม เนื่องจากใน ช่วงแรกธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ฐานทุนที่ต่ำ หากบริษัทจะดึงลูกค้ากลับมาให้บริการสินเชื่อเองก็จะดึงกลับมาบางส่วนเท่านั้น โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่ใช้บริการเงินสด 20% ที่เหลือเป็น ลูกค้าเงินกู้ประมาณ 80% ซึ่งในส่วนนี้เป็นลูกค้าเงินกู้ของธนาคารไทยพาณิชย์ประมาณ 50% ในส่วนของลูกค้าของธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่เป็นลูกค้าของบริษัทนั้นจะได้รับบริการที่พิเศษ กว่าลูกค้ารายอื่น โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ค่าธรรมเนียมราคาถูก และได้รับการอำนวยความ สะดวกมากกว่า

ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท แบ่งเงินลงทุนเพื่อซื้อที่ดินสำหรับการก่อสร้างโครงการในปี 2549 ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้ใช้เงินซื้อที่ดินไปแล้ว 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนสำหรับธุรกิจอื่น ๆ อีกประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะนี้ได้ใช้เงินลงทุนในการจัดตั้งธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประมาณ 600 ล้านบาท ลงทุนในบริษัท รอยัล เอ็คเซ็ลเล็นซิ ประมาณ 156 ล้านบาท ซึ่งภายในปีนี้บริษัทจะต้องทยอยจ่ายเงินเพิ่มเข้าไปอีก สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดและเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้เมื่อช่วงต้นปีผ่าน ครึ่งปีหลังอสังหาฯชะลอตัวชัดเจน

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประเมินว่า คาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีที่อยู่อาศัยจดทะเบียนประมาณ 68,000 หน่วย หรือเติบโตจากปี 2547 ประมาณ 10% สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน ครึ่งปีหลังเริ่มมีความชัดเจนขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัวลงทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายในอนาคต ส่งผลให้ลูกค้าที่เข้าชมโครง การของบริษัทลดลงประมาณ 15% แต่ลูกค้าที่เข้ามา เป็นผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจริงทำให้อัตราการขายเร็วขึ้น

สำหรับการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันโดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ได้ส่งผลให้ต้นทุนของวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าจะทำให้ต้นทุนบ้านเพิ่มขึ้น 8-10% และคาดว่าราคา บ้านในตลาดจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7-8% ในส่วนของบริษัทนั้นการตั้งราคาจะแตกต่างจากธุรกิจที่ตั้งราคาตามต้นทุน เนื่องจากเป็นบ้านสร้างเสร็จ ก่อนขาย การตั้งราคาจึงตั้งบนพื้นฐานของความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทจะรุกเข้าสู่ตลาด คอนโดมิเนียมในระดับ 2-3 ล้านบาท สำหรับโครงการแรกบริเวณสุขุมวิท 71 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ขนาด 2-3 อาคาร จำนวน 300 ยูนิต ส่วนแผนการพัฒนาในครึ่งปีหลังเปิด 10 โครงการ จำนวน 8,131 ยูนิต มูลค่าโครงการ รวม 24,412 ล้านบาท โดยทั้งปีบริษัทเปิด 13 โครงการมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท บริษัท ยังเชื่อมั่นว่าทั้งปีจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้า ที่วางไว้ เติบโตประมาณ 15% จากปี 2547 ที่มียอด ขายประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นยอดขาย จากโครงการใหม่ 20-30% โครงการเก่า 70-80%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us