ซูเปอร์มาร์เกตท้องถิ่น-ห้างไทย ฮึดปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เรียกเก็บค่าเทรดหารายได้เข้ากระเป๋าเพิ่ม แถมพ่วงสร้างภูมิต้านทานกระแสกลุ่มโมเดิร์นเทรดข้ามชาติจ้องฮุบ ผุดสาขาขนาดย่อมเจาะตามอำเภอ หลังพบ 1 ปีห้างพันธุ์ไทยหายเรียบเกือบ 10 ราย

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายการ ตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ถึงแนวโน้มเทรดิชันแนลเทรด หรือซูเปอร์มาร์เกต ท้องถิ่น, ห้างไทย, ยี่ปั๊วและซาปั๊วว่า หลังจากเจ้าของ กิจการเทรดิชันแนลเทรดผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2540 รวมทั้งปรับตัวอยู่ได้หลังจากที่กลุ่มโมเดิร์นเทรด เข้ามาขยายสาขาตามจังหวัดต่างๆ พบว่าเจ้าของกิจการ ซูเปอร์มาร์เกตท้องถิ่นหรือห้างไทยจำนวนกว่า 300-400 รายทั่วประเทศ หรือเฉลี่ยในแต่ละจังหวัด 1-5 ราย เริ่มปรับกระบวนการวิธีคิด และมีการจัดการและบริหาร คล้ายกับโมเดิร์นเทรดมากขึ้น

ล่าสุดพบว่าซูเปอร์มาร์เกตท้องถิ่นทั่วประเทศเกือบ 70-80% เริ่มเรียกเก็บเทรดเพิ่มขึ้น ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าจัดเรียงสินค้าบนชั้นวางที่โดดเด่น การจัดดิสเพลย์ เพราะเจ้าของกิจการเริ่มมองว่าเป็นรายได้ประจำปีที่ควร จะได้ และจากการจัดเก็บค่าต่างๆที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บางรายมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งภาวะดังกล่าวทำให้เซลส์ของแต่ละบริษัท ต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับสงคราม เทรดที่มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเซลส์ยุคใหม่จะต้องเป็นมากกว่าการเทคออร์เดอร์ สามารถโต้ตอบเกี่ยวกับรายละเอียดของสินค้าได้ ขณะเดียวกันซัปพลายเออร์ บางรายเริ่มนำพนักงานขาย หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไปช่วยขายอีกทางหนึ่ง

นายวิเชียรกล่าวว่า จากภาวะซูเปอร์มาร์เกต ท้องถิ่นเริ่มปรับตัวเข้าสู่ระบบการบริหารจัดการสมัยใหม่ ขณะเดียวกันกลุ่มโมเดิร์นเทรดข้ามชาติ ก็เริ่มขยายสาขา สู่ต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเปิดแนวรบลักษณะใหม่ คือ การกว้านซื้อซูเปอร์มาร์เกตท้องถิ่น หรือห้างไทย เพื่อเปลี่ยนเป็นสาขาขนาดย่อมตามอำเภอต่างๆมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มโมเดิร์นเทรด เน้นเปิดสาขา ขนาดใหญ่ในอำเภอเมืองเป็นหลัก

ทั้งนี้ สาเหตุที่กลุ่มโมเดิร์นเทรดข้ามชาติ มุ่งเน้นขยายสาขาขนาดย่อมตามอำเภอต่างๆในเชิงรุก เป็นเพราะพฤติกรรมคนที่อาศัยอยู่ในอำเภอไกลๆยังไม่ค่อย เดินทางมาซื้อสินค้าในอำเภอเมืองเท่าไรนัก จึงมีช่องว่างให้ขยายตัวได้อีกมาก โดยในแต่ละปีจะพบว่า ซูเปอร์ มาร์เกตท้องถิ่นหรือห้างไทยถูกกลุ่มโมเดิร์นเทรดกว้านซื้อไปอย่างน้อย 10 ราย

"แผนการขยายสาขารูปแบบ "โลตัส เอ็กซ์เพรส" หรือสาขาขนาดย่อมพื้นที่ 320 -350 ตร.ม. เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ล่าสุดในปีนี้ทางเทสโก้โลตัสเข้าซื้อร้านค้าปลีกฟ้าไทยย่านตลาดพะยอมซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย เชียงใหม่, ร้านซูเปอร์มาร์เกตในบริเวณเดียวกับปั๊มน้ำมันเอสโซ่ย่านถนนเชียงใหม่-แม่ริม ร้านซูเปอร์มาร์เกตในปั๊มน้ำมันย่านถนนเชียงใหม่-สันกำแพง ปั๊มน้ำมันย่านสะพานนครพิงค์ เป็นต้น เพื่อเปิดเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส

นายวิเชียร กล่าวว่า ซูเปอร์มาร์เกตท้องถิ่น และโชวห่วยที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่ห่างกับซูเปอร์มาร์เกตขนาด ย่อมของข้ามชาติ หากไม่มีการปรับตัวด้านการบริหารจัดการที่ดี ในที่สุดก็ต้องเลิกกิจการไป หรือจะต้องเปลี่ยนกิจการมาสู่การเป็นสเปเชียลลิตี้สโตร์ หรือเปิดกิจการจำหน่ายสินค้าเฉพาะด้านไป ส่วนยี่ปั๊วเองก็จะต้องปรับตัวเช่นกัน โดยจะต้องมีแวร์เฮาส์หรือพื้นที่ราว 1 ใน 5 ของโมเดิร์นเทรด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้ รวมทั้งนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยบริหารจัดการ นอกจากนี้ ยังต้องจัดรายการส่งเสริมการขายขึ้นมาเองเพิ่มเติม