Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 สิงหาคม 2548
AP ทุ่ม 60ล.ถือหุ้นใหญ่ทริลเลี่ยนฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

   
search resources

เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
Real Estate
ทริลเลี่ยน ดิเวลลอปเม้นท์, บจก.
พรีบิลท์, บมจ.




เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ ซื้อ บริษัท ทริลเลี่ยน ดิเวลลอปเม้นท์ จากบริษัทลูกพรีบิลท์ จำนวน 60.36 ล้านบาท ระบุตามกฎ ก.ล.ต.ที่ต้องการให้พรีบิลท์ เป็นบริษัทในหมวดรับเหมาก่อสร้าง ระบุนโยบายการลงทุนยังคงเดิม เน้นตลาดทาวน์เฮาส์ระดับราคา 8 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท เหตุเป็นฐานลูกค้าใหญ่สุด

วานนี้ (15 ส.ค.) บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตื้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือเอพี ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติให้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในบริษัท ทริลเลี่ยน ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด อีก 60% จากบริษัทพรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูก โดยจะต้องทำรายการภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 15 สิงหาคม 2548

สำหรับหุ้นที่เอพีซื้อมาจำนวน 6,000,000 หุ้น คิดเป็น 60% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด มูลค่าหุ้น (Par Value) ของทริลเลี่ยนฯ 10 บาท/หุ้น ทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 100 ล้านบาท (10,000,000 หุ้น) สัดส่วนการถือหุ้นก่อนเข้าทำรายการ 39.99% สัดส่วนการถือหุ้นหลังเข้าทำรายการ 99.99% มูลค่าที่จ่ายชำระหุ้นละ 10.06 บาท รวมเป็นเงิน 60.36 ล้านบาท จ่ายเป็นเงินสด โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและการลงทุน บริษัทเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ เปิดเผยว่า การเข้าซื้อหุ้นในบริษัททริลเลี่ยนซึ่งเป็นบริษัทลูกของพรีบิลท์นั้น เนื่องจากพรีบิลท์ อยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อจะเข้าเทรดในหมวดรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งทาง ก.ล.ต. ได้ท้วงติงว่าต้องให้พรีบิลท์ดำเนินธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งอย่างชัดเจน ดังนั้น เอพีซึ่งเป็นบริษัทแม่จึงได้ซื้อ บ.ทริลเลี่ยนเข้ามา โดยใช้กระแสเงินสดของบริษัทจำนวน 60.36 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถโอนเข้ามาได้ภายใน 2 อาทิตย์นี้

สำหรับบริษัท ทริลเลี่ยนฯ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อโครงการมนวดี เอ็คคลูซีฟ และแกรนด์ มนวดี เป็นโครงการทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท บนเนื้อที่ 106 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่บางบัวทอง โดยซื้อที่ดินมาจาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) มูลค่า 120 ล้านบาท เปิดเฟสแรก จำนวน 294 ยูนิต เนื่อที่ 20 ไร่ ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 132 ยูนิต ซึ่งถือว่ามียอดขายที่ดีมาก

"ภายหลังจากซื้อทริลเลี่ยนเข้ามาแล้ว แผนการลงทุนยังคงเป็นเช่นเดิม การก่อสร้างยังคงให้พรีบิลท์เป็นผู้ดำเนินการ จะเปลี่ยนเฉพาะการทำบัญชีเท่านั้น ซึ่งการลงทุนของทริลเลี่ยนเองจะยังคงขยายพัฒนาในที่ดินแปลงดังกล่าวก่อน เพราะเหลือที่ดินอีกกว่า 80 ไร่ ซึ่งยอดขายที่ผ่านมาขายดีมาก ส่วนการขยายไปยังทำเลอื่นนั้นขณะนี้ยังไม่มีแผน ต้องรอให้ทริลเลี่ยนมีกระแสเงินสดเป็นบวก เพื่อลด ความเสี่ยงจากการลงทุน หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ว่าจะรุกไปทางไหน" นายภูมิพัฒน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด และเชื่อว่าตลาดนี้จะยังสามารถขยายไปได้อีกจำนวนมาก แต่การพัฒนาบ้านระดับดังกล่าวความสามารถในการทำกำไรจะน้อยกว่าทำบ้านระดับบน ต้องอาศัยขายจำนวนมากๆ ซึ่งปัจจุบันมีกำไรขั้นต้นอยู่ประมาณ 25-30% ในขณะที่เอพี มีกำไรขั้นต้น 35%

นายภูมิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการลงทุนของเอพีนั้น ได้เตรียมเม็ดเงินประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการในช่วงกลางปีหน้า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาประมาณ 3-4 แปลง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยบริษัทมีเม็ดเงินจากกระแสเงินสด และมี Back Lock อีกจำนวน 4,100 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้จำนวน 1,700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือไปรับรู้ในปี 2550 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังเอพียังคงแผนดำเนินงานเช่นเดิม คือ เปิดโครงการใหม่ 8 โครงการมูลค่า 6,500 ล้านบาท

"ภาวะตลาดในปัจจุบันการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบบ้าง ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจนานขึ้น เลือกมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ซื้อ คนที่ต้องการซื้อบ้านก็จะซื้ออยู่เช่นเดิม สินค้าอะไรที่ตรงกับความต้องการของเค้าๆก็จะซื้อ ที่ผ่านมาทาวน์เฮาส์ของเอพีขายดีมาก ตอนนี้ขายหมดแล้วเหลือเพียงบ้านตัวอย่าง ทำให้เราต้องพัฒนาสินค้าในส่วนนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง หาซื้อที่ดินเพิ่ม ตอนนี้บ้านราคาต่ำกว่า 6 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่มาก ส่วนบ้านระดับบนอาจจะชะลอไปบ้าง" นายภูมิพัฒน์กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 และสะสมงวด 6 เดือนปี 48 มีผลกำไรสุทธิ 166.935 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 47 มีกำไรสุทธิ 210.727 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 315.420 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 354.527 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us