ฟูจิซีร็อกซ์ส่งเครื่อง ดิจิตอลมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่ "ApeosPort C5540 I" ลงตลาด เจาะลูกค้าประเภทองค์กร ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้ 100 เครื่อง และหวังให้เป็นตัวดันรายได้เพิ่ม 25% จากปีที่ผ่าน 2,900 ล้านบาท และยังครองตำแหน่ง ผู้นำตลาดต่อไป

นายอิวาโอะ คาวาอิ ประธานและกรรมการ บริษัท ไทยฟูจิซีร็อกซ์ กล่าวว่า ฟูจิซีร็อกซ์ได้นำนวัตกรรมใหม่ด้านดิจิตอลมัลติฟังก์ชันในตระกูล "Apeos" ออกสู่ตลาด ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของฟูจิ ซีร็อกซ์ที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด "สำนัก งานแบบเปิด" ตามความหมายของการ ผสมตัวอักษรจากคำว่า "Aperire" ซึ่งมีความหมายในภาษาละตินว่า "เปิด" คำว่า "Office" และคำว่า "System" และเพื่อตอบรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต

เครื่องดิจิตอลมัลติฟังก์ชันรุ่น ApeosPort C5540 I สามารถเชื่อม ต่อระบบเครือข่ายและอินเทอร์เน็ตได้ด้วยอุปกรณ์เพิ่มเติมที่เรียกว่า "Web UI" ช่วยในการเปิดรับและเข้า ถึงข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่หลากหลายได้อย่างอิสระ สามารถใช้ร่วมกับคอม-พิวเตอร์ PDA หรือมือถือได้

"กุญแจสำคัญที่นำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จคือ ความสามารถในการเปิดรับและเข้าถึงตลอดจนนำข้อมูลที่อยู่บนเน็ตเวิร์กมาใช้ในการบริหารงานและการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ทันกับตลาด และความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร้ขีดจำกัดในเรื่องสถานที่และเวลา"

สำหรับการทำตลาดในกลุ่มเครื่องดิจิตอลมัลติฟังก์ชันสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ฟูจิซีร็อกซ์ ยังคงเป็นผู้นำตลาด โดยเฉพาะเครื่องสีที่ปัจจุบันแม้มีเพียง 5% ในตลาดรวม และมีส่วนแบ่งเครื่องสีในตลาดเป็นอันดับหนึ่งคือ 65% และตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้อยู่ที่ 2,900 ล้านบาท

ส่วนนโยบายในการทำตลาด ฟูจิซีร็อกซ์ สำหรับเครื่อง ApeosPort 5540 I และ DocuCentre C6550 I จะเน้นไปที่ตลาดขององค์กรที่มีปริมาณการใช้งานเอกสารสีเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีการใช้งานเอกสารขาวดำเป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งมักจะอยู่ในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความต้องการงานเอกสารสีที่มีคุณภาพ สูงในระดับหนึ่ง และมีต้นทุนต่ำ

นอกจากนี้ ยังจะเน้นไปที่กลุ่มองค์กรงานด้านอุตสาหกรรมที่อาจมีงาน Drawing ซึ่งสามารถใช้เครื่องมัลติฟังก์ชันขาวดำที่ทำสีได้พิมพ์ตัวอย่างงานสีเพื่อการตรวจสอบก่อนไปพิมพ์ที่เครื่อง Graphic Art ที่มีต้น ทุนในการพิมพ์สูงกว่าภายหลังเพื่อลดต้นทุนในการสร้างเอกสารสี รวมไป ถึงตลาดที่เป็นหน่วยงานราชการที่เริ่ม ให้ความสำคัญกับงานเอกสารสีมากขึ้น

ด้านการขายจะเป็นการนำเสนอ ลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์พร้อมกับโซลูชันซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มมูลค่าของตัวเครื่อง แต่หลังจากที่มีเครื่อง Tarzan และเทคโนโลยี Apoes แล้ว เพื่อตอบรับกับความสามารถของเทคโนโลยี Apoes ที่มีมาพร้อมเครื่อง ApeosPort C5540 I รวมไป ถึงเครื่องรุ่นต่อๆ ไปของฟูจิซีร็อกซ์ ซึ่งในช่วงปลายปีนี้ก็จะมีอีก 2 รุ่นที่จะออกสู่ตลาด โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือตลาดระดับองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ฟูซีร็อกซ์จึงไม่ได้เพิ่มเพียง มูลค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ แต่จะรวมไป ถึงระบบการทำงานของลูกค้าที่มีประ-สิทธิภาพ และมีประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย การบริการในส่วนของการทำ Custo-mization โดยการเขียนโปรแกรมเพื่อ เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ ระบบงานเดิมที่ลูกค้ามีอยู่แล้วลงไปใน เครื่องมัลติฟังก์ชัน หรือความต้องการ ปรับแต่งความสามารถพิเศษอื่นๆ ที่ลูกค้าต้องการให้มีเพื่อเพิ่มความสะดวก ในการทำงานมากขึ้น ซึ่งฟูจิซีร็อกซ์ได้ เตรียมความพร้อมส่วนนี้ไว้แล้ว

ส่วนเป้าหมายในการจำหน่ายสำหรับเครื่องดิจิตอลมัลติฟังก์ชันทั้งหมดในปีนี้ ฟูจิซีร็อกซ์ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 6,000 เครื่อง มีสัดส่วน 80% ของเป้าหมายรวมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออฟฟิศซิสเต็มส์ทั้งหมด ซึ่งในสัดส่วนของเครื่องสีที่จากเดิมมีสัด ส่วนคิดเป็น 13% ของยอดทั้งหมด ฟูจิ ซีร็อกซ์ต้องการผลักดันให้เป็น 30% ในปีนี้ ส่วนอีก 70% เป็นเครื่องขาวดำ ในส่วนของเครื่อง ApeosPort C5540 I และ DocuCentre C6550 I ทั้ง 2 รุ่น ก็มีเป้าหมายในการขายประมาณกว่า 100 เครื่องในปีนี้ ส่วนเครื่องถ่ายเอก-สารแบบอนาล็อกมีสัดส่วนของยอด ขายเป้าหมายเพียงแค่ 2% ซึ่งลดลงไป ตามแนวโน้มของตลาดที่ประเมินไว้

ด้านช่องทางการขาย ส่วนใหญ่จะเป็น Direct Sales ซึ่งนอกจากพนักงานขายแล้วจำเป็นต้องมีทีมงานสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อไม่เพียงแต่นำเสนอความสามารถของเครื่องมัลติฟังก์ชันแต่ยังต้องให้ความรู้แก่ลูกค้าในเรื่องของการจัดการงานด้านเอกสาร โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ที่มีระบบเน็ตเวิร์กมีรูป แบบการทำงานที่หลากหลายและซับซ้อนมากกว่า การให้ความรู้ คำแนะนำ หรือคำปรึกษา อีกส่วนจะขายผ่าน Dealer ของฟูจิซีร็อกซ์โดยเน้นส่วนผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กที่มีความเร็วในการพิมพ์ต่ำสำหรับกลุ่มตลาดองค์กรขนาดเล็ก หรือกลุ่มเอสเอ็มอี