ซีเอสแอลประกาศความพร้อมในการลงทุนประเภทที่มีโครงข่ายเอง (ประเภทที่ 3) หากกทช.ปล่อยไลเซนส์ โดยมีแผนจะลงทุนประมาณปลายปีนี้ 200 ล้านบาท พร้อมโชว์ผลประ-กอบการไตรมาส 2 โตอีก 5% ส่วนชินแซทฯมั่นใจหลังยิงไอพีสตาร์สามารถคืนทุนได้ ส่วนผลประ-กอบการไตรมาส 2 มีรายได้จากการขายและบริการ 1,624 ล้านบาท
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เอส. ล็อกซอินโฟ (ซีเอสแอล) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังว่า ขณะนี้ซีเอสแอลได้ขอใบอนุญาต (ไลเซนส์) ประเภทที่ 1 (ไม่มีโครงข่าย) กับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ไปแล้ว และมีแผนจะขอประเภทที่ 2 (มีหรือไม่มีโครงข่าย) และประเภท ที่ 3 (มีโครงข่าย) จากกทช. เพื่อเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เนชันแนล เกตเวย์, ผู้ให้บริการลีสไลน์ และผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีเอดีเอสแอล โดยจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้หาก กทช. เปิดให้ไลเซนส์สำหรับเอกชน
ส่วนผลประกอบการช่วงไตร-มาส 2 รอบปี 2548 ซีเอสแอลมีราย ได้รวม 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27 ล้านบาท หรือ 5% จากไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของรายได้จากทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจคือ สื่อโฆษณาผ่านสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์หรือสมุดหน้าเหลือง และจากธุรกิจอินเทอร์เน็ต
การดำเนินงานในรอบไตร-มาสนี้ซีเอสแอลมีกำไรสุทธิ 49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากไตรมาสแรก โดยกำไรดังกล่าวมาจากสมุดหน้าเหลือง 41 ล้านบาท ธุรกิจอิน- เทอร์เน็ต 8 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการของธุรกิจสื่อโฆษณาดีขึ้น เพราะมีการรวมเล่มรวมเขตของสมุดหน้าเหลืองและแคมเปญโฆษณาในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการ เติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตในกลุ่มลูกค้าองค์กรและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ ปัจจุบันซีเอสแอลมีเงินสดพร้อมลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท ชินแซทฯไอพีสตาร์เสร็จเตรียมส่ง ไทยคม 5 ต่อ
นายธนฑิต เจริญจันทร์ ผู้ช่วย กรรมการผู้จัดการส่วนงานการเงินและบัญชี บริษัท ชินแซทเทลไลท์ ผู้ดำเนินธุรกิจดาวเทียมสื่อสารไทยคม กล่าวถึงผลการดำเนินงาน ในช่วงไตรมาส 2 รอบปี 2548 ว่า ชินแซทฯมีรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด 1,624 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 582 ล้านบาท มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 35 ล้านบาท มีรายได้จากบริการวงจรดาวเทียมและบริการไอพีสตาร์ 1,135 ล้านบาท รายได้จากบริการไอพีสตาร์เพิ่มขึ้น 837.7% จาก 57 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปี 2547 เป็นเงิน 535 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 ปีนี้ ชินแซทฯ ขายอุปกรณ์ปลายทางไอพีสตาร์ได้ 8,136 ตัว ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดตั้งแต่เริ่มให้บริการไอพีสตาร์ ซึ่งตรงนี้เป็นความเชื่อมั่นของลูกค้าและศักยภาพของดาวเทียมไอพีสตาร์ที่จะส่งขึ้นสู่วงโคจรในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ และมีรายได้ในส่วนของบริการอินเทอร์เน็ตเป็นเงิน 15 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์ในประเทศลาว และกัมพูชาช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เพิ่มขึ้น 28.2% คิดเป็นมูลค่า 474 ล้านบาท จาก 370 ล้านบาท ในช่วงระยะเดียว กันของปีที่ผ่านมา ช่วงไตรมาสนี้ชินแซทฯได้มีการเซ็นสัญญากับอัลคาเทล เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินการสร้างดาวเทียมไทยคม 5 เพื่อให้บริการโทรทัศน์ความละเอียดสูง (เอชดีทีวี) โดยชินแซทฯได้บันทึกรายได้ค่าสินไหมทดแทนช่องสัญญาณที่ไม่สามารถให้บริการได้ของไทยคม 3 เป็นเงิน 1,083 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดสร้างดาวเทียม ไทยคม 5 และบันทึกค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์ของดาวเทียมไทยคม 3 เป็นเงิน 300 ล้านบาท
สำหรับไทยคม 5 ชินแซทฯลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีแผนจะส่งขึ้นสู่วงโคจรในเดือนเมษายน 2549 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถหรือคาปาซิตี้ของไทยคม 1, 2 และ 3
ส่วนไอพีสตาร์ขณะนี้มีผู้เช่าช่องสัญญาณแล้วประมาณ 10% ของคาปาซิตี้ทั้งหมดโดยมีผู้เช่าคือ ทีโอที, วีทีไอจากเวียดนาม และกระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนา-คมของพม่า และอยู่ระหว่างการเจรจากับจีนอีก 25% อินเดีย 15% ทั้งนี้ มีการส่งไอพีสตาร์ขึ้นสู่วงโคจรเสร็จจะสามารถเซ็นสัญญาได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ หากมีการเซ็นสัญญาได้ ถึง 50% ของคาปาซิตี้ จะทำให้ไอพี สตาร์มีรายได้มากกว่ารายได้รวมของชินแซทฯ และจะทำให้สามาถคืนทุนได้ เนื่องจากชินแซทฯตั้งเป้าไว้ว่า หากมีผู้ใช้ถึง 25% ของคาปาซิตี้ทั้งหมดจะทำให้คืนทุนจากที่ลงไปกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐได้
ด้านรายได้คาดว่าไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ จะเริ่มมีรายได้เข้ามา และจะเห็นชัดเจนขึ้นในปี 2549
|