นับตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศไทย
เปิดเสรีธุรกิจบัตรเครดิต ดูเหมือนว่า
บัตรกรุงไทยจะกระตือรือร้นมากกว่าคู่แข่ง
ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งดำเนินธุรกิจหลักด้านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตอย่างบัตรกรุงไทย
บริษัทในเครือของ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีนโยบายจัดตั้งขึ้น ในช่วงธันวาคม 2539
ขณะที่พายุวิกฤติเศรษฐกิจกำลังเริ่มต้นพัดกระหน่ำประเทศไทย โดยสถานการณ์ดังกล่าว
ไม่ได้สร้างความกระทบกระเทือนต่อการทำงานของบัตรกรุงไทยในฐานะรัฐวิสาหกิจ
แม้จะเริ่มต้นทุนจดทะเบียนเพียง 30 ล้านบาท แต่อีกครึ่งปีให้หลังก็สามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น
50 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินกิจการ ประกอบ
กับนโยบายจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในขณะนั้นต้องการจำกัดปัญหาทางการเงิน
จึงกำหนดเพดานสำหรับผู้ที่ต้องการทำบัตรเครดิตว่าต้องมีรายได้ต่อเดือน 15,000
บาทขึ้นไป
รวมถึงการรุกอย่างหนักในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยอย่างอิออน ธนสิน ทรัพย์,
เซทเทลเลม หรือจีอี แคปปิตอล ที่สำคัญความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงส่งผลให้บัตรกรุงไทยทำงานไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
สังเกตได้จากมีลูกค้าสมาชิกแค่ 1.7 แสนรายนับตั้งแต่เปิดดำเนินกิจการ
เมื่อ ธปท. เปิดเสรีธุรกิจบัตรเครดิต เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้บริษัทบัตรกรุงไทยกลับเข้าสู่เส้นทางการทำธุรกิจอีกครั้ง
และสร้างความคึกคักให้กับวงการได้ไม่น้อยจากการประกาศกลยุทธ์เชิงรุก
"การเปลี่ยนแปลงรวมทั้งการจัดกิจกรรมการตลาดก่อให้เกิดการปฏิวัติการตลาดในวงการบัตรเครดิต
เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานรูปแบบใหม่" นิวัตต์ จิตตา ลาน กรรมการผู้จัดการบัตรกรุงไทยกล่าว
"ยังสร้างฐานการตลาดให้กว้างขวางและแข็งแกร่งขึ้น"
อีกทั้งเขายังให้ความสำคัญกับพันธมิตรในลักษณะการส่งเสริมการขาย ด้วยการจัดกิจกรรมการตลาดให้หลากหลาย
"จากนี้ไปจะไม่เดินไปหาพันธมิตรแล้วบอกว่าถ้าลูกค้ามาซื้อสินค้าในร้านผ่านบัตรเครดิตเรา
คุณจะให้ส่วนลดเท่าไร"
ล่าสุดบริษัทจัดรายการ "มหัศจรรย์ วันหยุด" หรือ KTC Weekend Wonder จนถึงสิ้นเดือนนี้ร่วมกับห้างเซ็นทรัล
เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายครั้งแรกของบัตรกรุงไทยนับตั้งแต่เกิดความผันผวนทางเศรษฐกิจ
"จะช่วยขยายผลทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ" พิทยา วรปัญญา สกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด
สมาชิกบัตรและพัฒนาธุรกิจบัตรกรุงไทยบอก
นอกเหนือไปจากนี้ยังได้เปลี่ยนตราสัญลักษณ์หรือโลโก โดยให้ตัวอักษร KTC
เป็นรูปทรงและสีสันอิสระ สดใสมากขึ้น เพื่อเข้ากับภาพลักษณ์ขององค์กรที่มีความทันสมัย
มีชีวิตชีวา สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วให้ทันต่อกระแสการเปลี่ยน แปลง
โดยเฉพาะในตลาดแข่งขันรุนแรง
โดยตัวอักษรนี้เปรียบเสมือนภาพคน ที่มีความสุขในอิริยาบถแตกต่าง ซึ่งก็คือ
ความสุขของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีและหลากหลาย
ภารกิจอันหนักหน่วงเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงที่จะเป็นเอกชนเต็มตัว จากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า "เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะทำงานได้อย่างอิสระและคล่องตัวโดยไม่ต้องกังวลถึงกฎระเบียบจากทางการ"
นิวัตต์ชี้ "ทำให้ทันสถานการณ์ของตลาดบัตรเครดิตไทยที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว"