คาราวานรถโมบายยูนิทสีดำสนิทติดโลโกสีส้ม มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ สู่ภูเก็ต เป็นการเปิดฉากสู่ต่างจังหวัดครั้งแรกของทีเอ ออเร้นจ์

หลังจากเปิดฉากให้บริการในเขตกรุงเทพฯ ที่ทีเอ ออเร้นจ์ ใช้ยุทธวิธีให้ลูกค้า ภายในกลุ่มซีพี และมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2545 จนถึงวันนี้มีลูกค้า 6 แสนราย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ เบื้องต้นของทีเอ ออเร้นจ์

แม้ว่า การเปิดตัวของทีเอ ออเร้นจ์ จะเห็นผลพอสมควร ทั้งในแง่มุมของจำนวนลูกค้า และการสร้าง brand ให้เป็น ที่รู้จักที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง มีระบบบริหารจัดการที่อาศัยประสบการณ์จาก ออเร้นจ์มาประยุกต์เข้ากับความเป็นท้องถิ่น และการใช้นโยบายตลาดเน้นเครื่องราคาถูก ทำให้ทีเอ ออเร้นจ์ กลายเป็นทางเลือก หนึ่งของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ

แต่ทีเอ ออเร้นจ์ ยังขาดความพร้อม ในเรื่องของเครือข่ายการให้บริการที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ทีเอ ออเร้นจ์ ยังไม่สามารถเปิดฉากสู้รบในตลาด ได้อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้เองที่ทีเอ ออเร้นจ์ ต้องเลือกใช้วิธีทยอยเปิดให้บริการเป็นช่วงๆ ค่อยๆ ขยายเข้าไปในพื้นที่ที่มีความพร้อม ขณะเดียวกันก็ใช้โอกาสนี้สร้าง brand ให้ เป็นที่รู้จัก ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์อย่างหนึ่งของออเร้นจ์ ในการเริ่มต้นเป็นผู้ให้บริการรายที่ 3 หรือ 4 ในตลาด

การเปิดตัวออกสู่ต่างจังหวัดก็เช่น กัน แม้ว่าเครือข่ายในเวลานี้จะครอบคลุม 62 จังหวัดแล้วก็ตาม แต่ก็เลือกที่จะประเดิม เฉพาะพื้นที่ก่อน โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 13 กลุ่มพื้นที่ (cluster) ครอบคลุมทั้งประเทศ

ภูเก็ต เป็นจังหวัดแรกที่ถูกเลือกสำหรับการประเดิมออกสู่ต่างจังหวัด แน่นอนว่าย่อมมีความหมายสำหรับออเร้นจ์

"เราต้องไปในพื้นที่ที่เราต้องเก่ง ต้องเฉียบ คุณภาพของเราไม่ด้อยกว่าใคร เราถึงจะไป" อติรุฒน์ โตทวีแสนสุข ผู้อำนวย การสายงานธุรกิจ บริษัททีเอ ออเร้นจ์

ภูเก็ตนั้นจัดเป็นจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากเป็นเมืองตากอากาศมีชื่อ ปกติมีประชากร 2 แสนคน แต่เมื่อถึงช่วงท่องเที่ยว ตัวเลขของคนในภูเก็ตเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนคน นอกจากชาวภูเก็ตที่จัดว่ามีกำลัง ซื้อแล้ว ชาวต่างประเทศจะเป็นลูกค้าสำคัญ อีกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการเสริมบาง ประเภท อย่างโทรศัพท์มือถือข้ามแดน International roaming จะกลายเป็นบริการที่ทำเงิน รวมทั้งบริการรับส่งข้อมูลผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่มีใครรู้ว่าภูเก็ตนั้นมีผู้ใช้บริการรับส่งข้อมูลบนเทคโนโลยี GPRS มากกว่าจังหวัดอื่นๆ

"ส่วนหนึ่งชาวภูเก็ตเอง และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวอยู่ที่นี่เยอะ และคนเหล่า นี้เขาก็เคยใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาแล้ว" ผู้บริหารคนหนึ่งของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ที่มาเปิดตลาดก่อนหน้านี้ บอก

การเลือกเปิดบริการเสริมอย่างระบบ MMS (Multimedia Messaging Services) มาใช้เป็นตัวชูโรง สร้างสีสันของการเปิดบริการครั้งแรกบนเกาะภูเก็ต เลือกเป็นจุดขาย เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดของ จังหวัดภูเก็ต แม้ว่าจะยังไม่สามารถให้บริการในเชิงพาณิชย์ก็ตาม

บริการ MMS เป็นบริการรับส่งข้อความที่ทำได้ทั้งในรูปของเสียง เนื้อหา ภาพเคลื่อนไหว และวิดีโอ ที่ใช้กับเครือข่าย เทคโนโลยี GPRS เป็นบริการเสริมที่ใช้ส่งข้อความในอีกรูปแบบใหม่ ที่ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือส่งไปให้ผู้รับที่อยู่ในรูปของไฟล์ภาพ รับข่าวสารในรูปของวิดีโอคลิป เล่นเกม แต่บริการนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาเตรียมการ ยังไม่มีผู้ให้บริการรายใดเปิดให้บริการ ทีเอ ออเร้นจ์ ก็ เช่นกัน การเปิดตัวที่ภูเก็ตยังเป็นแค่การนำมาทดสอบยังไม่ได้ให้บริการอย่างเป็นทางการ

"สวัสดีภูเก็ต" กลายเป็นคำที่ใช้ทักทายชาวภูเก็ต ที่สื่อความหมายของทีเอ ออเร้นจ์ ในการเปิดตลาดที่ภูเก็ตท่ามกลาง กิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมี concept ไม่แตกต่างไปจากการเปิดตัวในกรุงเทพฯ มากนัก เพียงแต่แฝงกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นผสมผสานอยู่ด้วย

รถโมบายยูนิท ฉาบด้วยสีดำ ติดสัญลักษณ์ออเร้นจ์ สีส้ม 6-7 คัน ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ช่วงเย็นของวันที่ 11 สิงหาคม เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิดตัวริมชายหาดทั้ง 19 หาดของเกาะภูเก็ตใน อีก 1 สัปดาห์ถัดมา อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ ที่เริ่มตั้งแต่สื่อบิลบอร์ดที่ติดตามถนนหนทาง โฆษณาผ่านรายการ วิทยุ ก่อนจะเริ่มกิจกรรมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม บริเวณสะพานหิน สถานที่ที่ชาวภูเก็ตนิยม ไปพักผ่อน ด้วย water screen หรือการใช้ฝอยน้ำเป็นฉากหลังที่เรียกความสนใจจากชาวภูเก็ตได้ไม่น้อย

ส่วนไฮไลต์ของการเปิดให้บริการใน ครั้งนี้ คือ Turn on ซึ่งจัดขึ้นที่สนามกีฬาสุรกุล ที่เป็นการแข่งขันระหว่างทีมนักร้องของค่ายอาร์เอส และทีมประจำจังหวัดของ ภูเก็ต เป็นการเรียกกระแสความสนใจจาก ชาวภูเก็ต

แต่ที่จะลืมไม่ได้ ก็คือ ระบบจัดจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ ที่ยังมีองค์ประกอบสำคัญอย่างมากในการทำตลาดในต่างจังหวัด ไม่เพียงเรื่องของการสร้างแบรนด์เท่านั้น แต่เงื่อนไขของการคืนเงินส่วนต่างให้กับดีลเลอร์ หรือ rebate ที่ปกติแล้ว โอเปอเรเตอร์ทั้ง 2 ราย จะกำหนดคืนเดือน ละครั้งเดียว แต่ด้วยการมาทีหลังและมีเครือข่ายน้อยกว่า ทีเอ ออเร้นจ์ จึงต้องยื่น ข้อเสนอที่ดีกว่า คือ rebate กันเดือนละ 2 ครั้ง ก็เป็นอีกแรงจูงใจหนึ่งที่ทำให้ทีเอ ออเร้นจ์ เป็นทางเลือกของดีลเลอร์ ส่วนใครจะเชียร์โอเปอเรเตอร์รายไหน ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย

ภูเก็ตมีตลาดรวมของโทรศัพท์มือถือ ตกเดือนละ 10,000 ราย เป็นส่วนแบ่งตลาด ของเอไอเอส 60% และดีแทค 40% ออเร้นจ์ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดในราว 20-30% ที่เป็นลูกค้าใหม่ ส่วนจะได้ตามที่ตั้งเป้าไว้แค่ ไหน แต่ที่แน่ๆ ตลาดต่างจังหวัดเวลานี้คึกคักขึ้นมาทันตา เพราะไม่ใช่แค่ออเร้นจ์เท่านั้น แต่ทั้งเอไอเอสและแทคต่างก็มีเป้าหมายที่การขยายฐานลูกค้าต่างจังหวัด โดยเฉพาะเอไอเอสประกาศชัดเจน

และนี่ก็คือก้าวแรกของการขยายเข้าสู่ภูมิภาคของทีเอ ออเร้นจ์ เป้าหมายต่อไปคือ การติดตั้งเครือข่ายให้บริการทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปี ตามที่ทีเอ ออเร้นจ์ประกาศไว้ และเมื่อถึงเวลานั้นการ แข่งขันที่แท้จริงจะเริ่มต้นอีกครั้ง