ประสบการณ์ที่หลากหลายของมณฑล ทำให้เขาถูกเลือกสำหรับบริษัทโทรศัพท์มือถือแห่งใหม่
อันเกิดจากการรวมกิจการระหว่างอีริคสัน และโซนี่
ผู้บริหารวัย 45 ปีผู้นี้ คร่ำหวอดอยู่ในแวดวง consumer product เครื่องใช้ไฟฟ้า
ตั้งแต่เรียนจบภาควิชาการตลาด จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
มณฑลเริ่มงานครั้งแรกกับบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ก่อนจะมาทำตลาดฟิล์ม ให้กับบริษัทบอร์เนียว
ประเทศไทย
จากนั้นมาร่วมงานกับบริษัทสามชัย ซึ่งเวลานั้นเป็นตัวแทนจำหน่ายโซนี่ ก่อนจะเป็นโซนี่
ประเทศไทย 3-4 ปี ในบริษัทนี้ทำให้เขาเรียนรู้สไตล์การทำงานร่วมกับบริษัทญี่ปุ่น
ที่มีความแตกต่างในเรื่องของความเป็นองค์กรที่มีแบบแผนแน่ชัด ก่อนจะข้ามฟากไปร่วมงานกับผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง
ซึ่งเวลานั้นยังเป็นแค่สำนักงานตัวแทน ใช้เวลาร่วมงานอยู่ที่นั่น 5 ปี ก่อนไปทำตลาดระบบไฟให้กับโตชิบา
และย้ายไปฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ 4 ปี จึงมาร่วมงานกับอีริคสัน ประเทศไทย
ดูแลการทำตลาดโทรศัพท์มือถือ
การร่วมงานกับอีริคสัน ทำให้เขากลายเป็นผู้ที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดจากการควบรวมกิจการโทรศัพท์มือถือกับโซนี่
"ส่วนใหญ่จะใช้เวลาทำงานแต่ละที่ไม่เกิน 5 ปี ไม่อย่างนั้นจะเบื่อ และรู้สึกว่าไม่ท้าทาย"
มณฑลเล่าถึงประสบการณ์ในองค์กรใหม่ๆ ที่มีต่อเนื่อง "ผมโชคดีที่อยู่ในหลายองค์กร
มันทำให้ตื่นเต้น ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา"
การรวมกิจการของบริษัทข้ามชาติ ระหว่างโซนี่ และอีริคสัน ที่มีความแตกต่างในเรื่องสไตล์
และวัฒนธรรมการทำงาน จึงไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา กับการที่ต้องประยุกต์เอาการผสมผสานการทำงานระหว่างองค์กรทั้งสองเข้าด้วยกัน
"เรื่องของความแข็งแกร่ง การเงิน หรือชื่อเสียง ไม่ใช่สิ่งที่ผมหนักใจ
มีอย่างเดียวคือ อยากขายให้มากขึ้น" มณฑลกล่าว