|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกวางแผน ควบรวมกิจการกับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งอย่างโนเกียเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของวงการเน็ตเวิร์ก เนื่องจากในอีกไม่ช้าโลกจะเข้าสู่ยุคแห่งการบรรจบกันระหว่างเครือข่ายไร้สายและมีสายแล้วอย่างเต็มตัว
ตามการเปิดเผยของรอยเตอร์และสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งต่างอ้างถึงเอกสารที่ซิสโก้จัดทำขึ้น โดยมีเนื้อหาว่าซิสโก้ประสงค์จะซื้อกิจการของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มนิชทางด้านเทคโนโลยี และโนเกียคือบริษัทที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งได้มีการประมาณมูลค่าของทั้งสองบริษัท โดยซิสโก้มีมูลค่าประมาณ 123,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่โนเกียมีมูลค่า ประมาณ 71,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากซิสโก้ตระหนักดีว่าในวงการเน็ตเวิร์กนั้นกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อเทคโนโลยีระหว่างเครือข่ายไร้สายและมีสายกำลังจะมาบรรจบเข้าด้วยกัน ดังนั้น ซิสโก้จึงต้องการ ซื้อกิจการบริษัทโนเกีย เพื่อให้โนเกียเป็นคนโพรวายด์เทคโนโลยีของซิสโก้ในอนาคต โฆษกของทั้งซิสโก้และโนเกียต่างปฏิเสธ ที่จะให้ความเห็นใด ๆ ต่อข่าวดังกล่าว
ปัจจุบันโนเกียเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งของโลก สาเหตุที่ได้รับความนิยมอย่าง สูงเนื่องจากดีไซน์ที่ทันสมัยของตัวเครื่อง เมนูคำสั่งที่ง่ายต่อการใช้งาน และความทนทาน ความ สำเร็จดังกล่าวทำให้โนเกียครองส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือโลกเอาไว้ได้กว่า 1 ใน 3 เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ โนเกียเดินสะดุดขาตัวเอง ไม่สามารถค้นคิดโทรศัพท์มือถือได้โดดเด่นเหมือนเคย และถูกค่ายผู้ผลิตมือถืออย่างซัมซุงแย่งชิงลูกค้าไปด้วยโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ ตลอดจนค่ายโมโตโรล่าที่ตกไปอยู่อันดับสองก็สามารถตีตื้นขึ้นมาได้ด้วยโทรศัพท์มือถือตระกูล Razr
ขณะที่ซิสโก้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีรายได้จากการ ขายอุปกรณ์เครือข่ายอย่างสวิตช์และเราเตอร์รวมกันสูงถึง 65 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวมทั้งบริษัท ขณะที่ส่วนที่เหลือมาจากการขายชุดอุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านและการให้บริการกับหน่วยงานต่างๆ
|
|
|
|
|