Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 สิงหาคม 2548
"ยามาฮ่า" ทุ่มงบ 1,500 ล.รุกแผนตลาด-เพิ่มผลิต             
 


   
www resources

โฮมเพจ-ยามาฮ่า มอเตอร์

   
search resources

ไทยยามาฮ่า มอเตอร์, บจก.
ยามาฮ่า มอเตอร์, บจก.
Motorcycle




ค่าย "ยามาฮ่า" เผยกลยุทธ์ 3 ปี ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท รองรับแผนรุกตลาดต่อเนื่อง และเพิ่มกำลังการผลิตในไทย ดันยอดขาย 600,000 คัน ขยับส่วนแบ่งตลาดขึ้นอีกเท่าตัว จากปัจจุบันมีอยู่ 15% ขยายเป็น 30% มั่นใจรักษาตำแหน่งผู้นำจยย.เกียร์ออโตเมติก แม้คู่แข่งจะผลิตออกมาสู้ก็ตาม

นายทาคาชิ คาจิคาวา ประธานบริษัทและผู้อำนวยการ บริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า บริษัทฯ มีจุดมุ่งหมายพัฒนาและก้าวไปสู่เครือข่ายองค์กรระดับสากล รวมถึงการรักษามาตรฐานในการผลิตและปรับตัวในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพยายามให้อัตราส่วนของผู้ใช้รถจักรยานยนต์เพิ่มเป็น 3.5 คน ต่อ 1 คัน และมีแผนออกรถรุ่นใหม่ๆ ทุกปี

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ยามาฮ่าประเทศไทย มีแผนการลงทุนในไทยเพิ่มอีก 1,500 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 2550 โดยแบ่งการลงทุนเป็นในส่วนของงบการตลาด 500 ล้านบาท และที่เหลือเป็นงบในการเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนโรงงาน ซึ่งยามาฮ่าหวังว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 30% จากปัจจุบัน 15% ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับสองรองจากฮอนด้า

"ในปีนี้รถจักรยานยนต์ที่เราผลิตนั้น แบ่งเป็นขายในประเทศ 30% และส่งออกอีก 70% ไปยังประเทศจีน และฟิลิปปินส์ นอก จากนี้ก็มีส่งออกชิ้นส่วนด้วย สำหรับปีนี้ทางยามาฮ่าตั้งเป้าสิ้นปีไว้ 400,000 คัน เพราะภายในครึ่งปีที่ผ่านมานั้น เราสามารถขายได้กว่า 280,000 คันแล้ว และเชื่อว่าความต้องการของตลาดในส่วนรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกที่ยามาฮ่าเป็นผู้นำ ยังมีมากอยู่ถึงแม้ว่าผลวิจัยจะออกมาว่าตลาดอิ่มตัวแล้วก็ตาม"

ในส่วนเรื่องการขึ้นราคาน้ำมันนั้น นายประพันธ์กล่าวว่า อาจจะมีผลกระทบต่อยอดขายบ้างเล็กน้อยเพราะเมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นผู้บริโภคก็ซื้อของน้อยลงเป็นธรรมดา โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ในส่วนของ ลูกค้ายามาฮ่านั้นกว่า 85% นั้นเป็นลูกค้าต่างจังหวัด และ 70% ซื้อรถจักรยานยนต์ระบบเงินผ่อนอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีข่าวออกมาว่า ภายในสิ้นปีนี้ทางคู่แข่งจะออกเกียร์ออโตเมติกมาครบทุกยี่ห้อ แต่ทางนายประพันธ์กล่าวมั่นใจว่ายามาฮ่าสู้ได้แน่นอน

"ส่วนหนึ่งในแผนการตลาดที่เราจะเพิ่มยอดขายนั้นก็มาจากรถจักรยานยนต์ที่จะออกรุ่นใหม่ๆ มาอีกหลายรุ่นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจุดนี้เรามั่นใจว่าระบบเกียร์ออโตเมติกของยามาฮ่านั้นสามารถสู้กับแบรนด์อื่นๆ ได้แน่นอน เพราะเรามีการพัฒนาและวิจัยในการออกแบบรถทุกรุ่นให้มีความต้องการที่ตรงใจผู้บริโภคให้มากที่สุด"

ปัจจุบันนี้สัดส่วนของตลาดรถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกมีถึง 8% ของตลาดรวม และยามาฮ่ามีส่วนแบ่งตลาดถึง 95% โดย ก่อนหน้านี้ทางยามาฮ่าได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ รุ่นเกียร์ออโตเมติกไปเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ซึ่งได้รับความนิยมและสามารถดึงยอดขายเพิ่มขึ้นมาได้จากคู่แข่ง และมีกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่าง "Switch Campaign"

โดยหลังจากนี้ทางยามาฮ่าจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ในกลุ่มผู้ใช้ ซึ่งจากผลวิจัยนั้นลูกค้าส่วนมากมีอายุเฉลี่ยอยู่ต่ำกว่า 24 ปี ให้มีความเชื่อมั่นในแบรนด์และซื้อรถคันที่สอง นอกจากนี้ ยามาฮ่าก็วางแผนให้ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเปลี่ยนแปลงรูปแบบโชว์รูมให้เป็นแบบเดียวกันหมดภายใต้ชื่อ ยามาฮ่า สแควร์ ซึ่งเป็นชอปสำหรับโชว์และจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ในรูปแบบต่างๆ เน้นขายในเรื่องของรูปลักษณ์ รวมถึงแอ็กเซสซอรี่ต่างๆ ให้ครบ 100 สาขาภายในสิ้นปีนี้

สำหรับยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานั้น มียอดรวม 1,037,635 คัน แบ่งเป็น ฮอนด้า 125,997 คัน เทียบเท่าอัตราส่วนแบ่งการตลาด 69% ยามาฮ่า 27,320 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 15% ซูซูกิ 18,088 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10% ไทเกอร์ 6,608 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 4% คาวาซากิ 2,806 คัน อัตราส่วนแบ่งการตลาด 2% เจอาร์ดี 856 คัน และอื่นๆ 765 คัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us