ปัญหาทางการเงินของบางจากปิโตรเลียม บริษัทเจ้าของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นที่รัก
และหวงแหนยิ่งของคนไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นเสมือนมะเร็งร้ายที่เกาะกินเรื้อรัง
ไม่สามารถหาหนทาง รักษาได้หายขาด
หนี้สินก้อนใหญ่มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นภายหลังการลอยตัวค่าเงินบาท
ได้มีความพยายามหาวิธีการปลดเปลื้องออกไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ
ณรงค์ บุญยสงวน กรรมการผู้จัด การบางจาก เคยกล่าวไว้เมื่อครั้งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ
เมื่อปีที่แล้วว่าบางจากเป็นเสมือนลูก รัฐบาลเป็นเสมือนแม่ ถ้าลูก มีปัญหา
ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากแม่ แต่สิ่งที่แม่คนนี้ปฏิบัติต่อลูกที่ชื่อบางจาก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหมือนกับเป็นลูกนอก สมรส
เพราะหนี้สินก้อนดังกล่าวนี้ บางจากพยายามหาหนทางทุกวิถีทาง ทั้งการช่วยตัวเองด้วยความพยายามในการออกหุ้นกู้หลายครั้ง
จนหนท้ายสุด ต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ที่ณรงค์ยกเปรียบเทียบว่าเหมือนเป็นแม่ของบางจาก
ให้เข้ามาช่วยค้ำประกันหุ้นกู้ แต่มือที่ยื่นเข้ามาช่วยจากรัฐนั้น ก็ดูเหมือนจะยื่นมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจมากนัก
จนในที่สุด บางจากจำเป็นต้องใช้วิธีการออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อขายให้กับสถาบันการเงินแทนการออกหุ้นกู้
เพราะไม่ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาล โดยคาดว่าจะออกก้อนแรกภายในปีนี้ มูลค่า
3,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปจ่ายหนี้ระยะสั้นที่ครบอายุสัญญา และยังมีแผนที่จะต้องออกอีก
6,000 ล้านบาทในปีหน้า
วิธีการแก้ปัญหา ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับการกู้เงินมาเพื่อนำไปใช้หนี้ต่อ
เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ความหวังที่ริบหรี่ของบางจาก เริ่มสว่าง
ไสวมากขึ้น เมื่อกองทุน ADM (Asia Debt Management) Capital จากฮ่องกง แสดงเจตจำนงที่จะเข้ามาช่วยเหลือทางการเงินแก่บางจาก
ด้วยการเข้ามาซื้อหุ้นบุริมสิทธิ ในวงเงินประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเงินทุนที่มีระยะเวลายาวกว่าการกู้
ข้อเสนอนี้ได้รับการตอบรับด้วยดีทั้งจากสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ
และณรงค์ บุญยสงวน กรรมการผู้จัดการ
รวมทั้งนักลงทุนที่ถือหุ้นบางจากอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะทันทีที่ข่าวนี้ปรากฏออกมา
ราคาหุ้นบางจากก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีถึง 5.5%
หากเปรียบไปแล้วข้อเสนอของ AMD Capital เป็นเสมือน แสงสว่างที่เริ่มปรากฏขึ้นในปลายอุโมงค์อันมืดมิดที่บางจาก
หลงวนเวียนอยู่เป็นระยะเวลานาน และเริ่มสร้างความหวัง ความ มั่นใจให้กับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบางจาก
ทั้งคนทำงาน เจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น
ที่น่าแปลกใจคือ เมื่อ AMD Capital ซึ่งเป็นสถาบันการเงินจากต่างประเทศเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือบางจากในคราวนี้
ทุกฝ่ายๆ ต่างแฮปปี้ แต่กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าคนรักบางจาก ที่เมื่อ 2-3
ปีก่อนเคยแสดงบทบาทคัดค้านอย่างหนัก เมื่อครั้งรัฐบาลเคยมีความคิดจะขายบางจากให้กับนักลงทุนต่างประเทศ
กลับเงียบเฉย ไม่แสดงท่าทีอย่างใดออกมาทั้งสิ้น