|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เปิดพอร์ตผลการดำเนินงาน ครึ่งปีแรกบลจ.บัวหลวง เจ้าของ 2 รางวัล SET Awards 2005 เผยกองทุนหุ้น 8 ใน 9 ภายใต้การบริหารผลตอบแทนหรูกว่าดัชนีตลาด "วรวรรณ" เผยกลยุทธ์การลงทุนครึ่งปีหลังยังยึดแนวอนุรักษนิยม เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทในครึ่งปีแรก (ระหว่าง 30 ธันวาคม 2547-24 มิถุนายน 2548) บลจ.บัวหลวงสามารถบริหารกองทุนหุ้น 8 ใน 9 กองที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ส่วนอีกกองทุนหนึ่งบริหารได้ต่ำกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนเฉพาะหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินและโทรคมนาคมเท่านั้น และในช่วงครึ่งปีแรกนี้ราคาปิดตามราคาตลาดของหุ้นในกลุ่มนี้ ณ วันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันศุกร์สุดท้ายของครึ่งปีแรกมีราคาต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปีก่อน แต่กองทุนอื่นๆ อีก 8 กองทุน มีการลงทุนที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะ 2 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้ จึงไม่ได้รับผลกระทบ
สำหรับบัวหลวงทศพล ในครึ่งปีแรกให้อัตราผลตอบแทน 6.73% บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐาน 6.18% บัวหลวงร่วมทุน 5.33% บัวหลวง ตราสารทุน RMF 4.91% บัวแก้วปันผล 4.46% ทรัพย์บัวหลวง 4.40% บัวแก้ว 4.38% บัวแก้ว 2 ให้ผลตอบแทน 4.32% และบัวหลวงธนคม -4.88% ขณะที่การเติบโตของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเดียวกันอยู่ที่ 3.32%
"กลยุทธ์การบริหารกองทุนในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงยึดแนวนโยบายอนุรักษ์นิยม โดยเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความ มั่นคงแข็งแรง เป็นผู้นำในธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ และระมัดระวังผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ" นางวรวรรณกล่าว
ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ นโยบายการลงทุนของบริษัทจะเน้นที่ความมั่นคงปลอดภัยของตราสารที่ลงทุนมากกว่าผลตอบแทนสูงๆ ที่คาดหวังแต่ต้องรับความเสี่ยงที่มีมากเกินไป
นางวรวรรณกล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2005 ถึง 2 รางวัลสำหรับการบริหารกองทุนหุ้น และกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น ประจำปี 2547 จนได้ผลตอบแทนดีที่สุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงว่า บริษัทเชื่อว่าการที่เรามีวินัยในการลงทุน มีประสบการณ์ และมีความอดทนต่อภาวะตลาดเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
"เราเลือกสิ่งที่ลงทุนแล้วเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อกองทุน และที่สำคัญก็คือ เราโชคดีที่ตลาดก็เป็นใจด้วย กล่าวคือ หุ้นที่เราลงทุนนอกจากจะมีผลการดำเนินงานดีแล้วยังมีผู้ลงทุนอื่นๆนิยมลงทุนด้วยในปีก่อนทำให้ราคาตลาดสูงขึ้น ส่งผลให้ NAV ต่อหน่วยของกองทุนสูงขึ้นตามไปด้วย" นางวรวรรณกล่าว
สำหรับกองทุนผสมนั้นนอกจากจะเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลประกอบการดี และราคาตลาดก็เป็นใจด้วยแล้ว เราเชื่อว่า การจัดสรรน้ำหนักของหุ้น และตราสารหนี้ในพอร์ตกองทุนของเราก็มีความเหมาะสมกับจังหวะ ตลาดและนโยบายของแต่ละกองทุนด้วย
นางวรวรรณกล่าวว่า หลักการบริหารกองทุนของบลจ.บัวหลวง เป้าหมายหลักคือ การสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ดีในระยะยาว แม้ตลาดหุ้นในบางปีดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือบางปีปรับตัวลดลง แต่กองทุนหุ้นควรให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ต่อปีในระยะยาวที่ดีกว่าการฝากเงินและการลงทุนในตราสารหนี้
"เราบริหารกองทุนหุ้นเพื่อเป้าหมายทางการเงินระยะยาวของผู้ลงทุนมากกว่าการแสวงหาประโยชน์ระยะสั้น กองทุนที่เราบริหารจะเน้นไปที่การคัดเลือกหุ้นที่จะลงทุนให้เป็นหุ้นที่ดีมีศักยภาพมากกว่าจะเน้นให้ได้รางวัลเป็นรายปี เพราะนั่นจึงจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายในระยะยาวได้" นางวรวรรณกล่าว
สำหรับหลักเกณฑ์ในการเลือกหลักทรัพย์ที่ลงทุนจะต้องเป็นหลักทรัพย์ที่อยู่ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต เพื่อผลตอบ แทนที่ดีไม่ว่าในรูปของกำไรจากการขายหลักทรัพย์ หรือปันผลที่กองทุนจะได้รับ กล่าวคือมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เป็นผู้ที่จะชนะในธุรกิจนั้นๆ และเป็นหุ้นที่เรารู้จักสามารถวิเคราะห์และ ติดตามผลได้ และเป็น Value Stocks ในจังหวะที่ลงทุน ส่วนตราสารหนี้ที่ลงทุนจะให้ความสำคัญกับความมั่นคงปลอดภัย หรือ Credit Risk มากกว่าผลตอบแทนสูงๆที่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย
กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง กล่าวอีกว่า หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดสรรเงินลงทุนในกองทุนหุ้น บริษัทให้ความสำคัญกับมุมมองเศรษฐกิจ และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และหุ้นที่ลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีสภาพคล่อง และที่สำคัญให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในสัดส่วนสูง
|
|
|
|
|