ซัมซุงทุ่ม 4,000 ล้านบาท เข็นแคมเปญดัง "อิมเมจิน" สร้างภาพลักษณ์แบรนด์แห่งเทคโนโลยีสู่ตลาดโลก วางหมากโกยรายได้ทั่วโลกเพิ่ม 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนไทยทุ่ม 120 ล้านบาทสานแคมเปญระดับโลก ประเดิมดันกลุ่มหมวดภาพ และเสียงนำร่อง สิ้นปีตั้งเป้ารายได้ 1 หมื่นล้านบาท โต 10% ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้
นายแท-บง ชอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า แคมเปญอิมเมจินจะใช้สนับ สนุนการออกตัวผลิตภัณฑ์ซัมซุงทุกตัว นานอย่างน้อย 5 ปี โดยใช้เงินลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 พันล้าน บาท เฉพาะในไทยใช้งบ 120 ล้านบาท ในกลุ่มหมวดภาพและเสียงก่อน ส่วนใน อนาคตจะพิจารณาเพิ่มงบตามหมวดสินค้าอื่นๆ โดยตั้งเป้าว่าตลอดระยะเวลา 5 ปี ของแคมเปญอิมเมจิน จะสามารถกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นอีก 1 หมื่นล้านเหรียญ สหรัฐ หรือ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันซัมซุงมียอดขายทั่วโลกอยู่แล้ว 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมี ยอดขายติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
สำหรับการดำเนินกลยุทธ์ในไทย ภายใต้แคมเปญอิมเมจิน บริษัทฯเตรียมออกโรดโชว์ที่กรุงเทพฯ, ขอนแก่น และนครราชสีมา นอกจากนั้น ยังมีการจัด ดิสเพลย์ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) ซัมซุงพลาซ่า ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ พื้นที่ 550 ตร.ม.ซึ่ง เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคมนี้ โดย โชว์สินค้าเฉพาะสินค้าพรีเมียมของซัมซุง นอกจากนั้นในปลายปีเตรียมที่จะเปิดอีกแห่งที่สยามพารากอนเพื่อรองรับแคมเปญ อิมเมจินในไทยโดยเฉพาะ 2) ซัมซุง ดิจิตอล แกลอรี่ เน้นโชว์สินค้าครอบคลุมทุกหมวดของซัมซุง ซึ่งมีอยู่ที่บางนา, รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัลพระราม 2, แฟชั่นไอส์แลนด์ และเซ็นทรัลที่เชียงใหม่ รวมทั้งมีการออกบูท ในงาน IFA 2005 ซึ่งจัดแสดงสินค้าทีวี และเอวี ใหญ่ที่สุดในโลก ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี โดยซัมซุงเป็นคีย์เพลเยอร์ของ งาน
"แนวคิดของแบรนด์แคมเปญอิมเมจินนั้นมุ่งทำการสื่อสารทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการความบันเทิงในบ้านและแบบพกพาสะดวก โดยกิจกรรมการสื่อสารทางการตลาดนั้นได้ทำการสื่อสารทั้งในวงกว้างและเจาะลึกผ่านกิจกรรมตลาด, บิลบอร์ด, พรินต์แอดส์ และเอาต์ดอร์"
นายอาณัติ จ่างตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขาย ปีนี้ในไทยไม่ได้ตามเป้า โดยคาดว่าจะมี ยอดขายรวมของสินค้าทุกหมวด 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 40% เมื่อต้นปี ขณะที่ยอดขายสินค้าในหมวดภาพและเสียง ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 3 พันล้านบาท สาเหตุมาจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง กำลังซื้อ ลดลง และราคาต่อหน่วยสินค้าลดลง ซึ่งในครึ่งปีหลัง บริษัทฯเตรียมออกแคมเปญกระตุ้นตลาดคอนซูเมอร์ โปรโมชัน ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนกันยายน และเดือนพฤศจิกายนปีนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดภาพและเสียง ในไทยปี 2548 คาดว่าจะมียอดขายร่วม 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีที่แล้วที่มียอดขาย 3.8 หมื่นล้านบาท โดยเชื่อมั่น ว่าแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ลูกค้าที่มีกำลังซื้อจะนิยมซื้อสินค้าพรีเมียม โดย พลาสมาทีวีและแอลซีดีทีวีนั้นไม่พอขาย คาดว่ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน ขณะที่ทีวีจอแก้วเพิ่มขึ้นเพียง 5% ขณะที่ตลาดของทีวีจอแก้วยังมีอยู่ถึง 90% ในประเทศ แต่มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ขณะที่การเติบโตของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ แอร์, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า นั้นมีการเติบโตที่ชัดเจน ขณะที่เครื่องเล่มเอ็มพี 3 แม้มีมูลค่าตลาดน้อย แต่มีแนวโน้มเติบโต 75% ในปีนี้
จากการสำรวจของบริษัทอินเตอร์ แบรนด์สหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้ซัมซุงเป็น 1 ในแบรนด์สินค้าระดับโลกที่เติบโตเร็ว ที่สุดในโลก เนื่องด้วยใช้ระยะเวลา 6 ปีในการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ซัมซุงเติบโตจากปี 2543 ที่มีมูลค่า 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาเป็น 15 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2548 ส่งผลให้ ซัมซุงเป็นอินเตอร์แบรนด์อันดับ 20 ของ โลก ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะพัฒนาแบรนด์ ซัมซุงให้เป็นแบรนด์พรีเมียมติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกภายในปี 2550
|