ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ เตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาสัปดาห์หน้า หวังควบรวมธุรกิจไม่แยกเป็นสื่อเหมือนเดิม หวังลดต้นทุนและคุมจำนวนบุคลากร พร้อมทั้งขยายธุรกิจต่อเนื่อง ปลายปีคลอดนิตยสารหัวนอกใหม่ 2 เล่ม แนวผู้ชายและผู้หญิง ล่าสุดจับมือบางกอกเอ็กซ์เพรส ทำตลาดหนังสือพิมพ์รายวันแจกฟรี ทูเดย์ เอ็กซ์เพรส
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีนี้บริษัทฯเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจและองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการคาดว่าจะสามารถนำเสนอรายละเอียดให้บอร์ดของบริษัทฯพิจารณาได้ใน สัปดาห์หน้า โดยแนวทางเบื้องต้นอาจจะไม่ได้มีการแยกธุรกิจออกเป็นประเภทสื่อทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้
เนื่องจากปัจจุบันนี้ สื่อ ทุกอย่างแทบจะเป็นเหมือนสื่อเดียว กันหมดแล้ว มีการเชื่อมโยงกันได้หมด ประกอบกับธุรกิจโมบายคอนเทนต์ก็มีการเติบโตที่ดี จะมีการจัดวางโครงสร้างระบบการทำงาน ใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่น รายการทีวี วิพากษ์หุ้น กับหนังสือพิมพ์ทัน หุ้น จะมีการจัดรวมกันอย่างไรได้เพราะมีคอนเทนต์เดียวกันแม้จะคนละสื่อก็ตาม เป็นต้น
นอกจากนั้นยังเป็นการควบคุม ต้นทุนการดำเนินงานได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะจำนวนพนักงานไม่ให้มีมากจนเกินไป เพราะจะมีการขยายตัวทางด้านธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ทางกลุ่มทราฟฟิกฯมีบุคลากร ประมาณ 100 กว่าคน แต่ขณะนี้มีมากกว่า 500 คนแล้ว
"การทำงานของเรา ในเมื่อมีสื่อหลายสื่อ ทำไมเราต้องใช้คนมาก ใช้ทีมงานซ้ำซ้อนกัน ต่อไปอาจจะรวมเป็นกองเดียวกันก็ได้ แล้วป้อน หลายสื่อ ที่สำคัญเราพยายามสร้างบุคลากรระดับกลางขึ้นมา โดยเน้นไปที่คนรุ่นใหม่"
เขากล่าวด้วยว่า ในปีนี้ถือเป็นปีที่มีการเปลี่ยน แปลงทางด้านระบบการทำงานและการปรับปรุงสื่อที่มีอยู่อย่างมาก ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางด้านเนื้อหาการทำงานของหลายสื่อ หลังจากที่ปีที่แล้วมีการลงทุนอย่างมาก เช่น สื่อสิ่งพิมพ์เมื่อต้นปีที่แล้วมีเพียง 2 เล่มแต่พอปลายปีมีเพิ่มขึ้นมาถึง 9 เล่มแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่เด่นที่เกิดขึ้น เช่น การย้ายช่องถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากช่อง 9 มาเป็นช่อง 3 และช่อง 7, เดิมถ่ายทอดสดฟุตบอลเยอรมนีจากอาทิตย์เว้นอาทิตย์มาเป็นทุกอาทิตย์, มีรายการไฮไลต์และพรีวิวเกี่ยวกับฟุตบอลเพิ่มขึ้นมา ขณะที่สื่อสิ่งพิมพ์นั้นเดิมมีกำไรประมาณ 2-3 หัว ปัจจุบันมีกำไรทุกหัวแล้ว ยกเว้นเพียง บางกอกทูเดย์ เท่านั้นที่ยังขาดทุนอยู่ และปิดนิตยสารไป 1 เล่มคือ อะเดย์วีกลี่, ส่วนธุรกิจวิทยุ เสียช่วงเวลาทำข่าวต้นชั่วโมงของกองทัพบก แต่ก็ได้เวลาทำข่าวต้นชั่วโมง ของกรมประชาสัมพันธ์แทน, เสียคลื่นวิทยุ 90 แต่ได้คลื่นวิทยุ 103 เข้ามาแทน
ทั้งนี้ หลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ แล้ว แนวทางการทำงานของกลุ่มทราฟฟิก คอร์เนอร์ฯ จะเน้นไปที่คอนเทนต์ที่ถนัดแต่ละด้าน เช่น ถ้าเป็นรายการทีวีจะเน้นเฉพาะรายการกีฬากับรายการข่าว ส่วนธุรกิจวิทยุก็จะเน้นเฉพาะรายการข่าวเป็นหลัก
ถ้าเป็นการทำสิ่งพิมพ์ จะเน้นเฉพาะที่เป็นแนวเอนเตอร์เทน ซึ่งปัจจุบันนี้ทางกลุ่มทราฟฟิกฯถือว่าสามารถทำได้แข็งแกร่งแล้วจากทั้งหมด 9 หัวสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่ จึงได้เตรียมขยายสู่สิ่งพิมพ์แนวใหม่ คือ นิตยสารผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งขณะนี้ได้ซื้อลิขสิทธิ์นิตยสารหัวนอกจากยุโรปเข้ามา อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาและเปิดตัวเป็นทางการในเร็วๆนี้ ลงทุนประมาณ 20 ล้านบาทต่อฉบับในช่วงแรก
การที่ขยายสู่นิตยสารหัวนอกนั้น ก็เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่ธุรกิจด้วย เพราะทุกวันนี้บริษัทฯ มีสิ่งพิมพ์หัวไทยจำนวนมากแล้วและจะเป็นครั้งที่สองที่บริษัทฯทำนิตยสารหัวนอก จากเดิมที่มีเพียงหัวเดียวคือ เอ็มทีวี แม้ว่าต้นทุนดำเนินงานของนิตยสารนอกจะสูงกว่า ทั้งค่าลิขสิทธิ์และค่าใช้จ่ายก็ตาม แต่ผลตอบแทนก็สูงตามไปด้วย เพราะบางครั้งสินค้าก็จะลงโฆษณาตามมาจากต่างประเทศ การใช้คอนเทนต์เดิมจากต่างประเทศ ใช้คนทำงานน้อยลงด้วย ทำให้ลดต้นทุนได้ เพราะการพัฒนาหัวนิตยสารเองในวันนี้มันลำบากมาก
ทั้งนี้ นิตยสารผู้ชายนั้น มองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันนี้สินค้าที่เป็นเมโทรเซ็กชวลมีบทบาทและมีการเติบโตอย่างมาก ส่วนนิตยสารแนวผู้หญิงนั้นแม้จะแข่งขันรุนแรงและการสร้างความต่างนั้นลำบากแต่ก็ขึ้นอยู่กับการตลาดและกิจกรรมที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้
เขามองด้วยว่า เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ธุรกิจจะใช้สื่อโฆษณาทีวีลดน้อยลง ส่วนสื่อเสริมคือ วิทยุ สิ่งพิมพ์จะมีโอกาสมากขึ้น ปกติทราฟฟิกฯจะให้เวลาแต่ละฉบับ 1 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นประกอบด้วย
"ตอนนี้เราได้ฐานลูกค้าทั้งผ่านหนังสือนิตยสาร ผู้ชมรายการทีวี ผู้ฟังข่าววิทยุของเราทั้งหมดในกลุ่มคนชนชั้นกลางเมืองหลวงเป็นหลัก และสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการอยากรู้ก็มีอยู่ 3 เรื่องหลักเท่านั้นคือ กีฬา บันเทิง และเรื่องอื้อฉาวต่างๆ ซึ่งสื่อของเรา ที่มีอยู่ก็จะพยายามตอบสนองความต้องการเหล่านี้ให้ได้ตรงจุด"
ล่าสุดบริษัทในเครือคือ ดรีมมีเดีย จำกัด ได้ขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ใหม่ด้วยการร่วมมือและทำตลาดให้แก่ บริษัท บางกอก เอ็กซ์เพรส พับลิชชิ่ง จำกัด โดยนายธชธร ทิมทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ้าของหนังสือพิมพ์รายวันแจกฟรีชื่อว่า ทูเดย์ เอ็กซ์เพรส ขนาดแท็บลอยด์ แจกทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. จำนวนรวม 200,000 ฉบับต่อวัน สำหรับผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส จำนวน 120,000 ฉบับต่อวัน และรถไฟฟ้าใต้ดิน 80,000 ฉบับต่อวัน เนื้อหาเป็นข่าวสั้นทั่วไปที่กระชับ เจาะกลุ่มอายุ 20-35 ปี โดยมีรายได้หลักจากการขายโฆษณา คิด อัตรา ปกหลังสี่สีเต็มหน้า 250,000 บาท ปกในราคา 125,000 บาท
ส่วนกรณีคลื่นวิทยุ 102.25 ที่มีปัญหานั้น นาย สุรพงษ์กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ในอดีตเคยเข้าไปบริหารการตลาดให้แก่คลื่นดังกล่าว แต่ขณะนี้ได้เลิกไปแล้ว และไม่ได้เกี่ยวข้องไม่ได้ถือหุ้นแต่อย่างใด ส่วนที่คนมักเข้าใจผิดเพราะว่าคลื่นดังกล่าวมีบริษัทตั้งอยู่ในตึกเดียวกับของทราฟฟิกฯแต่คนละชั้นเท่านั้น
|