Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 สิงหาคม 2548
อาหารแช่แข็งระอุรับภัยเศรษฐกิจ ค่ายยักษ์เคลื่อนทัพ-ลงทุนเพิ่มผลิตชิงกำลังซื้อ             
 


   
www resources

โฮมเพจ เครือเจริญโภคภัณฑ์
โฮมเพจ พีเอฟพี (PFP)
โฮมเพจ บริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด (S&P)
โฮมเพจ บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

เครือเจริญโภคภัณฑ์
เอสแอนด์พี ซินดิเคท, บมจ.
สุรพลฟู้ดส์, บมจ.
Food and Beverage
แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ, บจก.




3 ยักษ์ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานเชื่อตลาดยังโตสวนทางภาวะเศรษฐกิจ พีเอฟพีชี้ยุคน้ำมันแพงพฤติกรรมคนจะ เปลี่ยนหันมาทานอาหารกล่องมากขึ้น เอสแอนด์พี คาดตลาดโตสูงถึง 30% สุรพลฟู้ดส์เผยผู้บริโภค ชะลอการซื้อขายลง เตรียมส่งเมนูใหม่ 15 รายการ สู้ศึกครึ่งปีหลัง เผยกระแสอีซี่ มิลดีเกินคาด สั่งลงทุนเพิ่ม 30 ล้านบาทขยายกำลังผลิต

สภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันที่ราคาน้ำมันแพงส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบหลายอย่างขึ้นราคา รวมถึงทำให้ไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมของ ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ โดยบางรายต้องทำงานหนักขึ้นหรือมีเวลาที่จำกัดมากขึ้น อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ของผู้บริโภคที่มีความจำเป็นในเรื่องเวลาที่เร่งด่วน หันมาบริโภคกันมากขึ้น เพราะมีความสะดวก ราคา ไม่แพง และมีให้เลือกหลายเมนู

ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมรับประทาน เป็นตลาดอาหารที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ เนื่องจากในตลาดมีผู้ประกอบการหัน มา เล่นในตลาดอยู่หลายราย ทั้งรายเดิมอย่าง อีซี่โก ของบริษัทซี.พี., เอสแอนด์พี และอีซี่ มิล ของ สุรพล ฟู้ดส์ที่หันมารุกตลาดในประเทศมากขึ้น ขณะที่รายใหม่มีข้าวกล่องทัพพี ของพีเอฟพี หรือ แม้แต่พรานทะเลที่หันมาทำอาหารทะเลสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานด้วยการส่งเมนูอาหารหลากหลายทั้งมื้อเช้าและมื้อกลางวัน และเตรียมออกเมนูอาหารเย็นในช่วงสิ้นปีนี้ เป็นต้น

ปัจจุบันผู้นำตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานยังคงเป็นอีซี่โก ของซี.พี. ที่ได้เปรียบใน แง่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่วางขายผ่านเครือข่าย ในเซเว่นอีเลฟเว่นกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ส่วนเอสแอนด์พี เป็นผู้นำในช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์มีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกันเกินกว่า 50% ของมูลค่าตลาดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโต 10-15% พีเอฟพีเชื่อตลาดรวมแข่งขันสนุก

นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด (PFP) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปพร้อมปรุง ที่ทำจากเนื้อปลาบดแช่แข็งหรือซูริมิ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวมการแข่งขันของตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งยังคงดุเดือดมากขึ้น เห็นได้จากการที่ค่ายใหญ่อย่างพรานทะเลออกเมนู อาหารกลางวัน ซึ่งเป็นการกระตุ้นตลาดในแง่การบริโภคอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง หรือการที่สุรพล ฟู้ดส์หันมารุกทำตลาดอีซี่ มิลมากขึ้น

ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น มองว่าจะส่งผลให้คนทำงานหนักขึ้น และมีเวลาน้อยลง ดังนั้น อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น และคาดว่าปีนี้ตลาดรวมจะโตมากกว่า 20%Ž เป็นคำกล่าวของนายพริษฐ์

ในส่วนของพีเอฟพีก็สนใจตลาดดังกล่าว ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานภายใต้ แบรนด์ "ข้าวกล่องทัพพี" เบื้องต้นเปิดตัว 4 เมนูในราคา 40 บาท แต่ทั้งปีคาดว่าจะออกเมนูให้ครบ 12 เมนู โดยจุดเด่นของข้าวกล่องทัพพีอยู่ที่แพกเกจจิ้ง, กับข้าวที่ปรุงจากอาหารแปรรูปจากทะเล และข้าวสลิมเมอร์ ซึ่งเป็นข้าวหอมมะลิเกรดเอผสมธัญพืช

ขณะที่ช่องทางการขายซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะทำให้สินค้านั้นประสบความสำเร็จ พีเอฟพีนอกจากจะส่งสินค้าขายในช่องทางโมเดิร์น เทรดแล้ว ยังหาช่องทางการขายใหม่ๆ เช่น โครง การร้านค้าปลีกย่อย ที่เน้นการนำตู้แช่แข็งและ ตู้ไมโครเวฟไปวางตามอพาร์ตเมนต์และสำนักงาน ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อนในปีแรกซึ่งขณะนี้วางไปแล้ว 300 จุด คาดว่า ทั้งปีจะวางได้ 1,000 จุด หลังจากนั้นปีหน้าจะหันไปรุกช่องทางต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่, พัทยา และสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงาน บริษัท เป็นต้น

สำหรับผลประกอบการปีที่แล้วบริษัทฯ มียอดรายได้ 2,400 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30% ส่วนปีนี้คาดว่า ยอดขายจะโต 20% แต่อาจจะสะดุดบ้างจากเรื่องราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุน ประมงที่ใช้จับปลา รวมทั้งส่งผลต่อการบริโภคของ คนอาจจะมีการใช้จ่ายน้อยลง แต่ช่วงไตรมาส 3 และ 4 คาดการณ์ว่าตลาดจะกลับมาดีขึ้น เอส แอนด์ พีเชื่อตลาดรวมโต 30%

นายสุรัติ เซนย์วิบูลย์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและการขาย บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวม ครึ่งปีหลังของอาหารพร้อมทาน หรือข้าวกล่องยังเจริญเติบโตต่อไป เพราะอาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน แม้ว่าปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจจะเป็นแบบนี้ เชื่อว่าคนจะเดินทางออกนอกบ้านน้อยลง และจะหันมาทานอาหารแบบนี้มากขึ้น

"ตลาดอาหารกล่องโตเร็วและคาดว่า จะโตไม่ต่ำกว่า 30% ส่วนหนึ่งที่ตลาดโตอยู่ที่ การกระจายสินค้าตามคอนวีเนียนสโตร์ และการที่ทุกคนช่วยสร้างตลาดทำให้อาหาร กล่องเป็นที่ยอมรับในตลาดมากขึ้น ซึ่งเมื่อ ก่อนคนจะมองว่าอาหารกล่องเป็นอาหารที่ไม่มีคุณภาพ" นายสุรัติกล่าว

ปัจจุบันอาหารแช่แข็งพร้อมทานของ เอส แอนด์ พีเป็นผู้นำในช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยมีเมนูอาหารให้เลือกกว่า 45 เมนู โดยราคาสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 45 บาท ซึ่งถือว่าแพงกว่าคู่แข่ง เนื่องจากเอส แอนด์ พียึดหลักการในเรื่องความอร่อยและคุณภาพของอาหารเป็นหลัก สุรพลฟู้ดส์เผยกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว
นางสาวหญิง ว่องวัฒนโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดภายในประเทศ บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) มีความเห็นสอดคล้องกับพีเอฟพีที่ว่า ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งในประเทศมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และจากการ ที่มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรายใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาด ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะเป็นไปตามกระแสเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นนั้นจะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อาจจะชะลอตัวลงบ้าง

ในส่วนของสุรพลฟู้ดส์ผู้ผลิตอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปรายใหญ่ของไทย เดิมทีจะเน้นแต่ตลาดส่งออกเป็นหลัก คิดเป็น 80% แต่ปีนี้กลับให้ความ สำคัญกับตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งในประเทศมากขึ้น ด้วยการรีลอนช์อาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง "อีซี่ มิล (Easy Meal)" มาทำตลาดอีกครั้ง โดย โฉมใหม่ครั้งนี้ได้มีการปรับราคาเมนูอาหารคาวจาก เดิม 35 บาทเป็นราคา 59 บาท ซึ่งถือว่าแพงกว่าคู่แข่งทั่วไป 10% เนื่องจากสุรพลฟู้ดส์ต้องการวาง ตำแหน่งแบรนด์ให้เป็นระดับพรีเมียม และแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด รวมถึงยังได้ส่งเมนูอาหาร สำเร็จแช่แข็งในกลุ่มขนมหวาน 6 เมนูในราคา 15 บาท เตรียมส่ง 15 เมนูสู้ศึกครึ่งปีหลัง
นางสาวหญิง กล่าวด้วยว่า กระแสตอบรับอีซี่ มิลดีมาก ทำให้บริษัทฯต้องขยายกำลังผลิตจากเดิม 3-5 หมื่นถ้วยต่อวันเป็น 8 หมื่นถ้วยต่อวัน โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการลงทุนเพิ่มไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทในการขยายกำลังผลิตอีซี่ มิลจากเดิมที่ผลิตที่โรงงานเทพารักษ์ ย้ายมาเป็นที่กบินทร์บุรี ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังนี้ สุรพลฟู้ดส์เตรียมออกเมนูใหม่ทั้งติ่มซำ, อาหารแช่แข็ง และอีซี่ มิลรวมกว่า 15 เมนู

"อีซี่ มิลจะเน้นลูกค้าระดับไฮเอนด์หรือกลุ่ม นิชมาร์เกตที่มีรายได้ค่อนข้างสูง ประมาณ 35,000 บาทต่อเดือน โดยกลุ่มลูกค้าของเราจะมีรอยัลตี้สูง เห็นความสำคัญของคุณภาพและคุณค่าของอาหาร มากกว่าราคา ขณะที่รายอื่นจะเน้นทำตลาดระดับ กลางและล่าง"

สำหรับมูลค่าตลาดรวมของอาหารแช่แข็งมีประมาณ 6,000 ล้านบาทและมีอัตราการโต 40% โดยสุรพลฟู้ดสมีแชร์ 17% ปีนี้คาดว่าตลาดรวมอาจจะมีการเติบโตลดน้อยลงอยู่ที่ประมาณ 10-15% ส่วนตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานที่มีมูลค่า 2,000 ล้านบาท สุรพลฟู้ดส์มีส่วนแบ่งทางตลาด 14%

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าช่วงเวลาหลัง 21.00 น. ถึง 02.00 น. เป็นช่วงที่อัตราการซื้ออาหารแช่แข็งพร้อมทานสูงสุด เนื่องจากผู้บริโภคไม่มีทางเลือก ขณะที่เวลากลางวันคนจะมีทางเลือกในการบริโภค อาหารมากจึงไม่นิยมทานอาหารกล่องในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนช่องทางการขายที่ผู้บริโภคนิยมไปซื้อ คือ ร้านเซเวนอีเลฟเว่น รองลงมา คือ โมเดิร์นเทรด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us