ม็อบต้านเบียร์ช้างกว่าหมื่นคนกดดันรมว. คลังยับยั้งนำเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น ระบุหากยังดื้อต้องออกกฎหมายห้ามเยาวชนต่ำกว่า 21 ปีดื่มเหล้า-เบียร์ ห้ามโฆษณา สร้างภูมิคุ้มกันให้สังคมก่อน ท้าผู้ประกอบการออกโรงชนให้ ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน "พระพยอม" ขอบิณฑบาต ด้านผู้สนับสนุนสนธิสัญญา ทำหนังสือถึงอัยการยัน "มหาจำลอง" มี ความผิดตามมาตรา 63 และ 87 ด้านบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ห้ามธุรกิจแอลกอฮอล์เข้า ตลท. แต่ต้องรอบอร์ดก.ล.ต. ทบทวนการรับธุรกิจแอลกอฮอล์ใหม่อีกครั้งในเดือนกันยายน แจ้งกลับมายัง ตลท.อีกครั้งก่อน

เวลา 8.00 น. วานนี้ (1 ส.ค.) มีกลุ่มผู้ต่อต้านการนำเบียร์-เหล้า เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ทยอยเดินทางมาที่บริเวณด้านข้างริมคลองประปาของกระทรวงการคลัง เพื่อมาทวงสัญญาที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ ยื่นหนังสือให้กับ นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ผู้แทนรับหนังสือ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มผู้ต่อต้านเดินทางมาสมทบไม่ขาดสายรวมประมาณเกือบ 10,000 คน ส่งผลให้การจราจรในบริเวณใกล้เคียงติดขัดเป็นอย่างมาก

พล.ต.จำลอง กล่าวก่อนขึ้นปราศรัยบนเวที ว่า ต้องการให้นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รับปากว่า ก.ล.ต.จะไม่อนุญาตให้นำธุรกิจประเภท เบียร์และเหล้า เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ โดยให้ยกเลิกมติ ก.ล.ต.ปี 2538 ที่อนุญาตให้มีการนำธุรกิจดังกล่าวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯได้ แต่หากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนก็จะเดินหน้าชุมนุมด้วยความเข้มข้นมากขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ นายสมคิด พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง ติดการเดินทางร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ณ จังหวัดจันทบุรี จึงไม่มีใครออกมาให้คำตอบแก่กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมได้

พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า หาก ก.ล.ต.ไม่ฟังกระแสการต่อต้านจากประชาชน กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมก็จะไม่คัดค้านหัวชนฝา แต่จะยื่นเรื่องให้มีการออกกฎหมาย หรือกฎระเบียบที่ชัดเจนว่า จะต้องมีการห้ามในส่วนใดบ้างเฉกเช่น นานาอารยประเทศที่อนุญาตให้มีการนำเหล้า-เบียร์เข้าตลาดได้ อาทิ ห้าม ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 21 ปีดื่มเหล้า-เบียร์เด็ดขาดห้าม ไม่ให้มีการโฆษณาเหล้า-เบียร์ ผ่านสื่อทุกชนิด ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ รวมถึงสนามแข่งขันฟุตบอลและกีฬา หรือ ตามท้องถนน ต่างๆ เพื่อเป็น การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนในประเทศเสียก่อน

"เราจะรอจนกว่าได้รับคำตอบและจะเพิ่มการคัดค้านให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพราะเราเห็นว่าเราถอยไม่ได้อีกแล้ว เพราะประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะเสียหายมากถ้าปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เราต้องการให้ รมว.คลังรับปากกับพวกเราว่า ก.ล.ต. จะไม่เอาเบียร์ เหล้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ"

การประชุมคัดค้านในครั้งนี้ มีเครือข่ายศาสนิก- ชนทุกศาสนา รวม 67 องค์กร และองค์การงดเหล้า 172 องค์กรซึ่งเมื่อประกอบกับผู้ที่ยังสำรวจไม่ครบถ้วน ก็เชื่อว่ามีผู้ร่วมสนับสนุนหลายหมื่นคนและมีผู้ร่วมลงชื่อคัดค้านการนำเหล้า เบียร์ เข้าตลาดและสนับสนุนให้มีการออกกฎหมายสร้างภูมิคุ้มกัน แล้วประมาณ กว่า 100,000 คน
"อยากให้สื่อมวลชนจัดเวทีเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือ ไม่เห็นด้วย เราเป็นประเทศประชาธิปไตย ฟังเสียงข้างมากเป็นสำคัญ ทีวีช่องไหนก็ได้ และอยากให้ทางฝั่งผู้ประกอบการจัดตัวแทนมาให้ความคิดเห็นของเขาแล้วให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน" พระพยอมขอบิณฑบาต

เวลาประมาณ 17.00 น. พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ขึ้นกล่าวเทศน์บนเวที ว่า การ เดินทางมาในครั้งนี้เพื่อมาให้กำลังใจแก่ผู้ร่วมชุมนุม โดยต้องการฝากถึงรัฐบาล ให้ดูแลเรื่องการจำหน่ายเหล้าเบียร์ให้เยาวชน เพราะจะเป็นการทำลายอนาคตของประเทศชาติ รวมถึงเรื่องการอนุญาตให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเช้า เพราะจะส่งผลให้มีคนที่ต้องเสียงานส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหายมากกว่ารายได้ที่ประเทศชาติจะได้กลับมาในรูปของภาษี

"จะขอบิณฑบาตผู้ที่จะนำธุรกิจน้ำเมาเข้าตลาด เพราะเมื่อธุรกิจเข้าตลาดหุ้นแล้วจะสามารถขยายตัวได้มากขึ้น โฆษณาก็จะมีมากขึ้นขณะที่ราคาจะถูกลง เป็น การส่งเสริมให้คนหันมาดื่มเหล้าดื่มเบียร์กันมากขึ้น" ผู้สนับสนุนยื่นเรื่องต่อศาล

นายสนธิญา สวัสดี กรรมการบริหารพรรคประชากรไทย ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์ ได้ทำหนังสือถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขอให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ปฏิบัติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 87 ในการรับหุ้นบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ หรือ เบียร์ช้าง เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดยระบุว่า การที่ พล.ต.จำลอง และคณะ ดำเนินการคัดค้านเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 และ 87

ทั้งนี้นายสนธิญา ระบุอีกว่า ได้ทำหนังสือถึงนายคัมภีร์ แก้วเจริญ อัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบ การดำเนินการของ พล.ต.จำลอง เนื่องจากเห็นว่าเป็น การละเมิดสิทธิของผู้อื่น พร้อมทั้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว ตลท.ส่งช้างกลับ ก.ล.ต.

การประชุมคณะกรรมการหรือบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) วานนี้เริ่มขึ้นในเวลา 17.30 น. จนถึงเวลา 21.00 น.เศษ จึงได้ข้อสรุป

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการ และ ผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า บอร์ด ตลท. พิจารณาวาระเดียว เรื่องหลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ โดยมีความเห็นว่าการนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนใน ตลท.มิได้พิจารณารับธุรกิจทุกประเภท โดยจะปฏิเสธธุรกิจที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และสังคมที่ต่ำ เช่น ยาสูบ การพนัน และอาวุธสงครามไม่ให้เข้า ตลท.

สำหรับธุรกิจแอลกอฮอล์บอร์ดได้ศึกษาและเห็นว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของ คณะกรรมการ ก.ล.ต. ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์จะได้ ประสานงานกับ ก.ล.ต.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ข้อยุติต่อไป

ทั้งนี้การประสานงานดังกล่าวจะเป็นไปอย่างสอดคล้องกัน โดย ตลท.จะนำข้อคิดเห็นทั้งที่คัดค้านและสนับสนุนธุรกิจแอลกอฮอล์เข้าตลท.

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ตลท.จะเริ่มประสานงานกับ ก.ล.ต. ในเดือนสิงหาคมนี้ทันที โดยจะรวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ ให้ ก.ล.ต. และคาดว่า ก.ล.ต.จะนำเรื่องเข้าสู่ ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต.ได้ภายในเดือนกันยายน ซึ่งถ้าบอร์ด ก.ล.ต.มีความเห็นอย่างไร ก.ล.ต.จะแจ้งมายัง ตลท.

"ในอดีต ก.ล.ต.เคยมีมติรับธุรกิจแอลกอฮอล์ ไปแล้ว แต่เมื่อมีการคัดค้านเกิดขึ้นจึงนำมาทบทวนใหม่ และจะนำเข้าบอร์ด ก.ล.ต.กันยายนนี้"