สมาคมโบรกเกอร์ เล็งตั้งชมรมแบ็กออฟฟิศสิงหาคมนี้ ประเดิมภารกิจแรก พิจารณาเกณฑ์กำหนดวงเงินลูกค้าโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้น เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน อีกรอบก่อนส่งกลับมาที่สมาคมโบรกฯ ด้าน ผู้อำนวยการสมาคมโบรกฯ "จงรัก" เผย ร่างหลักเกณฑ์กำหนดวงเงินลูกค้า เบื้องต้นเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยตัวเลขได้ อยากให้พิจารณารอบคอบ อีกครั้ง คาดประกาศใช้ภายในปีนี้ ขณะที่ ก.ล.ต.จะเป็นผู้ตรวจสอบและลงโทษผู้ไม่ปฏิบัติตามกติกา

นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (สมาคมโบรกเกอร์ ) เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯได้มีนโยบายใน การจัดตั้งชมรมผู้ปฏิบัติงานด้านแบ็กออฟฟิศ เมื่อประมาณกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อที่จะเป็นแนวทางให้บริษัทสมาชิกนำไปปฏิบัติ โดยมีนางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เป็นแกนนำในการจัดตั้งชมรมแบ็กออฟฟิศ

ทั้งการจัดตั้งชมรมดังกล่าวเพื่อต้องการให้ผู้ที่ทำงานในด้านระบบแบ็กออฟฟิศของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ เข้ามาเป็นสมาชิก ซึ่งจะมาช่วยกันในการพิจารณาเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางใน การปฏิบัติของโบรกเกอร์ เช่น เมื่อ มีสินค้าใหม่ หรือ มีตลาดอนุพันธ์เกิดขึ้น ก็จะต้องมีการพัฒนาระบบงานก็จะมีชมรมดังกล่าวเข้ามา ช่วยดูแล ซึ่งจะส่งผลดีกับบริษัทหลักทรัพย์

"ปัจจุบันนั้นมีชมรมหลายชมรม เช่น ชมรมวาณิชธนกิจ หรือ IB ชมรมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ จึงมองว่าควรที่จะจัดตั้งชมรมแบ็ก ออฟฟิศขึ้นมา เพื่อจะดูแลด้านระบบออฟฟิศ เพื่อช่วยกันกลั่นกรอง กฎเกณฑ์ระเบียบต่างๆ ในเรื่องแนว ทางการปฏิบัติ หรือเช่นในเรื่องระบบ ชำระราคา ส่งมอบหุ้น ฯลฯ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับบริษัทสมาชิก ซึ่งหากมีการออกเกณฑ์ใดๆออกมานั้น เป็นแนวทางการปฏิบัติไม่ใช่เป็นข้อ บังคับ แต่ศักดิ์ศรีเท่ากับข้อบังคับ"

สำหรับแนวทางเบื้องต้นในการ กำหนดวงเงินของลูกค้าทางสมาคมฯ จะมีการกำหนดฐานวงเงินที่ใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นมาตรฐานเดียว กันในการให้วงเงินกับลูกค้าในการซื้อขายหุ้น ถึงแม้ลูกค้าแต่ละรายมีเครดิตไม่เท่ากัน ซึ่งจะต้องมีการหารืออีกครั้ง เพื่อกำหนดกรอบการ ให้วงเงินลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้มีการพิจารณาแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ ต้องการหารืออีกรอบ เพื่อให้มีผลการปฏิบัติที่รอบคอบในเรื่องกฎเกณฑ์ แนวทางการปฏิบัติว่าจะเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กังวลเกี่ยวกับรายได้ค่าคอมมิชชัน ที่เป็น รายได้หลักของบล. โดยแนะนำว่าควรที่จะมีการกระจายรายได้มากขึ้นเพื่อรองรับธุรกรรมทางการเงินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ตลาดอนุพันธ์ หุ้นกู้ฯลฯ โดยไม่ยึดติดกับมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งจะทำให้รายได้บล.มีความสมดุล ซึ่งตลาด ทุนไทย ความสมดุลเกิดขึ้นได้จะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แกนนำในการจัดตั้งชมรม แบ็กออฟฟิศ กล่าวว่า ขณะนี้มีคณะทำงาน 6 ท่าน เข้ามาช่วยดูในเรื่องการร่างข้อกฎเกณฑ์ข้อบังคับของชมรมว่าจะเป็น อย่างไร เพื่อให้ทางสมาคม บล. พิจารณาซึ่งหากทางสมาคม บล. เห็นชอบก็จะมีการเรียกประชุมสมาคม เพื่อจัดตั้งขึ้นเป็นสมาคม ขึ้น และจะมีการเลือกประธานขึ้นมา ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดตั้งชมรมภายในเดือนส.ค.นี้

ทั้งนี้ คาดว่า บล.ไทยและบล. ต่างประเทศจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของชมรมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการบังคับในการเข้าเป็นสมาชิก ให้เป็นการทำตามความสมัครใจ ซึ่งมองว่าชมรมดังกล่าวจะเกิดประโยชน์กับ บล.ในเรื่องการดำเนินงานด้านระบบแบ็กออฟฟิศ โดยหากทางชมรมฯมีการพิจารณาอะไรขึ้นมาก็ตามนั้น จะเป็นแนวทาง ปฏิบัติไม่ใช่เป็นข้อบังคับ แต่ เป็นแนวทางการปฏิบัติซึ่งหากบล.ไหนไม่ดำเนินตามก็ไม่ถือว่ามีความผิด

"การตั้งชมรมนี้เพื่อเป็นตัวกลางในการประสานงานในส่วนแบ็กออฟฟิศของโบรกเกอร์ต่างๆ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานแบ็กออฟฟิศ เช่น การออกสินค้าใหม่ ทำให้ต้องมีการพัฒนาระบบ มีการพิจารณาข้อเสีย"

สำหรับภารกิจแรกของชมรมฯ คือ การพิจารณาเรื่อง การ ให้วงเงินกับลูกค้า ซึ่งเดิมนั้นทางสมาคมได้มีการพิจารณาแล้ว 1 ครั้ง แต่ต้องการให้ชมรมฯเป็นผู้ช่วยศึกษาอีกครั้งในเรื่องผลกระทบ เกณฑ์การให้วงเงินเพื่อเป็นมาตร- ฐานเดียวกัน และส่งต่อให้ทางสมาคมโบรกเกอร์พิจารณาอีกครั้ง

นายจงรัก ระรวยทรง กรรม- การผู้อำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า การกำหนดเรื่องวงเงินให้กับลูกค้านั้น ทาง สมาคมฯสามารถหารือภายใน ไม่จำเป็นที่จะต้องหารือกับทางก.ล.ต. ซึ่งหากสรุปอย่างไรก็จะประกาศใช้ได้ทันที ซึ่งรายละเอียดนั้น มีดังนี้ คือ

1.ในด้านการเปิดบัญชีของ ลูกค้า จะต้องมีการพิสูจน์ความมีตัวตนของลูกค้า ใช้พิจารณา ลูกค้า จะต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง

2. การกำหนดวงเงินจากเครดิตของลูกค้า เช่น ลูกค้ามีเงินเดือนเท่านี้ จะให้วงเงินกี่เท่า หรือมีสินทรัพย์ เช่น พันธบัตร ที่ดิน เท่านี้จะให้วงเงินเท่าไร 3. เกณฑ์ที่แต่ละ บล.กำหนดเอง การใช้วงเงินแก่ลูกค้าเทียบกับเงินทุนของบริษัท ซึ่งจะต้องไม่ให้วงเงินที่มากเกินไป ทำให้บริษัทมีความเสี่ยง และจะต้องไม่กระจุกในรายใดรายหนึ่งควรที่จะมีการกระจาย เพื่อให้ทำธุรกิจสอดคล้องกับฐานะทางการเงิน

ทั้งนี้ ร่างเกณฑ์การกำหนดวงเงินลูกค้ามีแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการบริหารสมาคมก็มีความเห็นชอบแล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศใช้เพราะต้องการพิจารณาให้รอบคอบมากกว่านี้ โดยให้ทางชมรมแบ็กออฟฟิศเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศเรื่องการให้วงเงินลูกค้าภายในปีนี้

อย่างไรก็ตาม หากมีการประกาศใช้แล้ว และหาก บล.ไม่มีการปฏิบัติตามนั้น ทางก.ล.ต.ก็จะเป็นผู้ตรวจสอบและลงโทษแทนทางสมาคมโบรกเกอร์