Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 กรกฎาคม 2548
"นครหลวงไทย" ปรับกลยุทธ์ลงทุนผวาหุ้นผันผวนหันลุยพันธบัตรรัฐ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนนครหลวงไทย

   
search resources

Investment
นครหลวงไทย, บลจ.




บลจ.นครหลวงไทยฟันธงครึ่งปีหลังตลาดหุ้นไทยผันผวน หลังเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวจากมรสุมราคาน้ำมัน ความไม่สงบในภาคใต้ ภัยแล้ง และแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้ต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในครึ่งปีหลังด้วยการระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้น และโหมโรงออกกองทุนพันธบัตรระยะสั้น เพื่อตอบสนองนักลงทุน

นางสาวอัจฉรา สุทธิศิริกุล รักษาการกรรมการ ผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะยังคงผันผวนไม่แตกต่างจากในครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหารายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงจากคลื่นยักษ์สึนามิ ภัยแล้ง และแนวโน้มดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นในครึ่งปีหลังต้องระมัดระวังมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นต่อผลกำไร (P/E) ตลาดหุ้นไทยยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ยังถือเป็นปัจจัยบวกที่จะเข้ามาหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทย และนักลงทุน ส่วนใหญ่ยังรอปัจจัยบวกเข้ามาหนุนในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ของรัฐบาลมูลค่ากว่า 1.7 ล้านล้านบาท ในช่วง 5 ปีข้างหน้า หากสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นลงทุนมากขึ้น

" ปัจจัยเสี่ยงการลงทุนในครึ่งปีหลังมีมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ต่างประเทศที่การก่อการร้ายในรอบใหม่ เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่หลายฝ่ายคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นในช่วงปลายปี แต่ก็เจอปัญหาว่าอาจเกิดสึนามิรอบใหม่ ซึ่งทำให้แนวโน้มรายได้จากการท่องเที่ยวอาจไม่ตรงตามเป้า" นางสาวอัจฉรากล่าว

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของ บริษัทยังคงระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น และหันมาออกกองทุนพันธบัตรระยะสั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และมีความเสี่ยงในระดับต่ำ

สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปีนี้ถือว่าดีเกินคาด เนื่องจากบริษัทเพิ่งมีการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2547 โดยสิ้นปี 2547 มีพอร์ตกองทุนภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 1,000 ล้านบาท และในปัจจุบันพอร์ตกองทุนรวมขยับเพิ่มเป็นประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นกองทุนส่วนบุคคลจำนวน 2,000 ล้านบาท

นางสาวอัจฉรา กล่าวว่า ครึ่งปีหลังของปีนี้คาด ว่าตลาดหุ้นยังมีความผันผวนสูง ส่งผลให้บริษัทต้อง ปรับกลยุทธ์การลงทุนมามุ่งเน้นการออกกองทุนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทได้ออกกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร 1 มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท ระยะเวลาลงทุน 6 เดือน คาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับ 2.5% โดยเปิดเสนอขายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2548

รายงานข่าวเปิดเผยว่า หลังปิดขายหน่วยลงทุน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยมียอดจองซื้อเข้ามากว่า 1,358 ล้านบาท และในเดือนสิงหาคม บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดแมกซ์พันธบัตร 2 มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 6 เดือน คาดการณ์ผลตอบแทน 2.5% ต่อปี ซึ่งในครึ่งปีหลัง บลจ.นครหลวงไทยมีนโยบายออกกองทุนพันธบัตรระยะสั้น เพื่อตอบสนองความต้องการนักลงทุนที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นางสาวอัจฉรา กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนิน งานของกองทุนหุ้นที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัทยังคงให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ และกอง ทุนพันธบัตรที่ออกมาในช่วงก่อนหน้า ผลตอบแทนถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับนักลงทุน

ส่วนแนวโน้มการออกกองทุนรวมลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ขณะนี้บริษัทได้ขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนสูงสุดกับผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งคาดว่ากองทุนที่จะออกจะเน้นการลงทุนในตลาดหุ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us