|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดรวมเครื่องลูกข่ายมือถือรอบปีนี้ในสายตาผู้บริหารโนเกียเชื่อ ยอดขายทะลุ 8 ล้านเครื่อง ขณะที่จีเอฟเคประเมินไว้ที่ 7 ล้านเครื่อง และไม่หนักใจในความท้าทายการรักษาความเป็นผู้นำ โดยยังยึด 3 กลยุทธ์หลัก ล่าสุดจับมือบางกอกแฟชั่นวีค 2005 จัดโครง-การ We Cross หนุนไทยสู่กลางอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับภูมิภาค
นายบ็อบ แมคดูกอล กรรม-การผู้จัดการ ฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) กล่าวถึงภาพรวมของตลาดเครื่องลูกข่ายมือถือรอบปีนี้ว่า ยอดขายโดยรวมของทุกยี่ห้อคาดว่าจะมีประมาณ 8-8.1 ล้านเครื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายของโนเกียช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาโตขึ้นอย่างมาก เนื่อง จากมีการขยายพื้นที่การให้บริการของผู้ประกอบการ เทคโนโลยีของมัลติมีเดียขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้งานแบบองค์กร เช่น การส่งอีเมลติดต่อกับออฟฟิศ เริ่มมีการใช้งานมากขึ้นด้วย
ขณะที่จีเอฟเคซึ่งเป็นบริษัทที่สำรวจตลาดเครื่องลูกข่ายมือถือมีการประมาณการไว้ว่า ตลาดรวมของ ตลาดปีนี้จะมียอดขายอยู่ที่ 7 ล้านเครื่อง
ส่วนกรณีที่มีเครื่องลูกข่ายยี่ห้อ ใหม่ๆ รวมถึงเฮาส์แบรนด์ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องนั้น จนทำให้เกิด การแข่งขันมากขึ้น ผู้บริหารโนเกียยืน ยันว่าไม่นักใจ แต่เป็นความท้าทายใหม่ๆ ในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดไว้ให้ได้ และพัฒนาสินค้าให้ผู้บริโภคมีความพึงพอใจ
สำหรับกลยุทธ์ที่โนเกียที่ยังยึดเป็นหลักในการรักษาความเป็นผู้นำคือ 1.ทำงานอย่างใกล้กับคู่ค้าประเภทโอเปอเรเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเอไอเอส ดีแทค ออเร้นจ์ เพื่อรวมกันคิดและวางแผนในการทำตลาด 2.ร่วมมือกับพันธมิตรด้านช่องทาง การจัดจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ มาร์ท บลิส-เทล เป็นต้น 3.ตอบสนองความต้องการของผู้บริการให้ได้ ว่ามีความต้องการอะไร เช่น มีการฝึกอบรมพนักงานเพื่อสามารถให้ข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ รวมถึง การเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลอง ในเทคโนโลยีใหม่ๆ
นายบ็อบกล่าวถึงเครื่องลูกข่ายมือถือในแนวแฟชั่นว่า ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากโนเกียแน่นอน ซึ่งโนเกียก็ยังมุ่งมั่นในการความเป็นผู้ในตลาดนี้ต่อไป นอกจากแฟชั่นโฟนแล้ว ตลาดมือถือยังได้มีการพัฒนาเข้ากับอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง ฟังก์ชั่นที่เป็นออฟฟิศ หรือให้มีการใช้งานในรูปแบบของมัลติ-มีเดีย
"เราเป็นผู้บุกเบิกเรื่องของแฟชั่นโฟน และมีมุ่งมั่นตั้งใจที่นำออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสี แต่ต้องสอดคล้องกับแฟชั่นในแต่ละแบบ และหลากหลายในเรื่องรูปทรง ซึ่งแต่ละรุ่นของการทำแฟชั่นโฟนของโนเกียมีที่มาที่ไป"
จากความสำเร็จในตลาดแฟชั่น โฟนของโนเกียในไทย ได้นำไปเป็นตัวชี้วัดในตลาดอื่นๆ ทั่วโลกเกี่ยวกับความสำเร็จของเรื่องของยอดขาย ซึ่งสามารถวัดได้จากส่วนแบ่งตลาดที่ผู้นำติดต่อกันมาหลายปี และจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ที่โนเกียนำออกสู่ตลาดประมาณ 30-40 แบบ ยังเพียงพอกับความต้องการของตลาดที่มีความต้องการที่หลากหลาย และแตกต่างออกๆ จึงทำให้ตลาดนี้โตมาก ตกประมาณปีละ 15-80%
ในสายตาของผู้บริหารโนเกียมองลูกค้าหลักๆ ไว้ 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้มือถือ ซึ่งมีฐานกว้างมาก 2.คอร์ปอเรตมาร์เกตที่ใช้เกี่ยวกับการทำงานขององค์กร
ด้วยแผนและนโยบายเกี่ยวกับแฟชั่นโฟนที่โนเกียวางไว้ ล่าสุดจับมือกับบางกอกแฟชั่นวีค 2005 จัดทำโครงการ "We Cross" ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักออกแบบ และสร้างสรรค์งานศิลปะที่ทำให้ศิลปินในแวดวงศิลปะและแฟชั่นมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานแบบไร้ขอบ เขต พร้อมัดแสดงผลงานสู่สาธารณ-ชน ภายใต้แนวคิดศิลปะไม่มีพรม-แดน การดำเนินโครงการนี้ เป็นส่วน หนึ่งในการสนับสนุนไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม แฟชั่นระดับภูมิภาค
"เราเชื่อว่าแฟชั่น การออกแบบ และความคิดสร้างสรรค์คือหนทางหนึ่งที่จะทำให้ผู้คนสื่อสารกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด และแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง"
|
|
|
|
|