หลังประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่อีซี่ส์ได้คนกันเอง "พัชราวดี
หมื่นนิกร" นั่งในตำแหน่งรองประธานบริหาร ผู้บริหารใหม่วางทิศทางธุรกิจเตรียมพร้อมแตกตัวสู่แฟรนไชส์
หลังปรับโครงสร้างองค์กรลงตัว เผยวิชั่นต้องการสร้างอีซี่ส์ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสไตล์ยุโรป
อีซี่ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด เป็นผู้จำหน่ายอาหารประเภทไส้กรอกเยอรมันพรีเมี่ยมในประเทศไทยรายแรกซึ่งเป็นบริษัทใน
เครือ Siam Steak Group ผู้บุกเบิกธุรกิจฟาสต์ฟูดในประเทศไทยมาเกือบ 30 ปี
อีซี่ส์เปิดให้บริการสาขาแรกที่ โรบินสัน สีลมเมื่อปี 2537 จนในปัจจุบันอีซี่ส์
์มีสาขาที่ให้บริการรอบกรุงเทพมหานครรวม 12 สาขา ในรูปแบบของร้าน Fast Food
และ Family Restaurant ที่เหมาะสำหรับคนครอบครัวทันสมัย โดยมีสินค้าที่เป็นจุดเด่นคือไส้กรอกสไตล์ยุโรป
นานาชนิดเป็นร้านแรก
ในช่วงแรกของการเปิดตัว อีซี่ส์สร้างสีสันให้กับวงการได้อย่างมากด้วยรูปแบบของร้านและ
สินค้าที่นำเสนอคือไส้กรอกที่ต้องยอมรับว่าเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุคนั้น
แต่ในช่วงหลังอีซี่ส์ดูเหมือนจะไม่มีการปรับเปลี่ยนการบริหารตลอดจนแนวนโยบายที่ฮือฮามากนัก
ล่าสุด อีซี่ส์ ประกาศปรับโครงสร้างใหม่ครั้งใหญ่ได้ พัชราวดี หมื่นนิกร
เข้ามานั่งในตำแหน่งรองประธานบริหารงาน ดูแลงานส่วนการ ตลาด การปฏิบัติการสาขาและและแฟรนไชส์
พัชราวดี เดิมนั่งอยู่ในตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปอยู่ที่โรงภาพยนตร์
ไอแมกซ์ และหันมาสนใจธุรกิจของอีซี่ส์เพราะความเชื่อมั่นอีซี่ส์มีแบรนด์ดิ้งที่ดี
ด้านการผลิตเป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน HACCP และ GMP ทั้งมีการเติบโตมากว่า
8 ปี ผนวกกับอยู่ในช่วงที่อีซี่ส์ต้องการขยายบทบาททางการตลาดอย่างมากอีกด้วย
โดยหลังจากเข้ามานั่งในตำแหน่งผู้บริหารของอีซี่ส์แล้ว พัชราวดียังจะคงเป็นที่ปรึกษาให้กับไอแมกซ์อยู่
การได้พัชราวดีเข้ามานั่งในตำแหน่งรองประธานบริหารเป็นไปตามนโยบายปรับโครง
สร้างการบริหารงานของอีซี่ส์ทั้งหมด โดยจะมีการ ดึงมืออาชีพในวงการเข้ามาเสริมทีมอีกมาก
"เราสร้างแบรนด์ให้คนอื่นมามากพอสมควรแล้ว เคยทำงานกับองค์กรต่างชาติมาแล้ว
จึงอยากมาพัฒนาแบรนด์ที่เป็นของคนไทยดูบ้าง เพื่อให้เทียบเคียงกับอินเตอร์แบรนด์ให้ได้
โดยจะเอาศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่ในสายงานเดิมมาผนวกกับความรู้ใหม่ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนการบริหาร
ของอีซี่ส์"
พัชราวดี กล่าวว่า ในการบริหารงานใหม่ที่อีซี่ส์กับที่ไอแมกซ์มีจุดเหมือนและจุดที่แตกต่างกันอยู่หลายจุด
ที่เหมือนกันคือเป็นงานบริการเหมือนกันมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็น
ผู้บริโภคเหมือนกัน ความแตกต่างอยู่ที่ตัวโปร-ดักส์ที่แตกต่างกัน ภาพยนตร์จะมีความหลากหลายเมื่อมีหนังใหม่เข้ามาก็เปลี่ยนไป
แต่อีซี่ส์ตัวโปรดักส์จะเป็นตัวเดิมคือไส้กรอก การทำ การตลาดก็จำเป็นต้องพลิกแพลงนำเมนูใหม่ๆ
เข้ามาปรับปรุงให้เข้ากับไส้กรอกซึ่งเป็นฟื้นฐานเดิมของสินค้าที่มีอยู่ เช่นนำมาทำแกง
หรือจัดเซ็ทอาหารใหม่
"ในแง่การบริหารงานแล้วหากจะมองในแง่ กลยุทธ์ทางการตลาดแล้วทั้ง 2
แห่งมีความคล้าย คลึงกันในการเรียกลูกค้าเข้ามา ตลอดจนรักษาลูกค้าเก่า ไอแมกซ์เนื่องจากมีสาขาเดียวจึงจำเป็น
ต้องหาลูกค้าเข้ามาอยู่ตลอดเวลา"
พัชราวดี กล่าวว่า หลังเข้านั่งในตำแหน่งผู้บริหารอีซี่ส์แล้ว จะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์จากการอยู่ที่ไอแมกซ์เดิมมาใช้โดยเฉพาะด้านคอนเนก
ชั่นมาใช้กับอีซี่ส์ได้
ในส่วนแผนการปรับองค์กรของอีซี่ส์ที่วางไว้คือ จะมีขยายสาขาเพิ่มโดยเปิดอีก
1 สาขาที่เซ็นทรัลพระราม 2 ในเดือนธันวาคม นับเป็นร้าน ต้บแบบที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเปิดมาโดยทำเป็นร้านต้นแบบเพื่อการขยายตัวในรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป
"ที่ผ่านมามีคนสนใจโครงการแฟรนไชส์ของ เรามาก ในความเป็นจริงแล้วถ้าจะทำแฟรนไชส์ก็ทำได้นานแล้ว
แต่เราไม่ทำเพราะเราต้องการให้มีความพร้อมเสียก่อนโดยมองจากผู้อื่นที่อยู่ธุรกิจ
แฟรนไชส์นี้มาก่อนซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและไปไม่รอด โดยต้องการให้คนที่มาลงทุนกับอีซี่ส์แฮปปี้มากที่สุด
"
พัชราวดี กล่าวว่าทุกวันนี้เราต้องการปรับ องค์กรเราให้มีความพร้อมรองรับการขยายตัวเสียก่อน
ก่อนที่เข้าสู่รูปแบบแฟรนไชส์อีซี่ส์ขยาย ตัวในรูปแบบสาขารวม 12 แห่งคือที่เป็นร้านอาหาร
4 สาขา และฟาสต์ฟูด 8 สาขา ส่วนแฟรนไชส์จะใช้ร้านต้นแบบที่พระราม 2 เป็นตัวรองตลาดโดยคาดว่าจะเริ่มเข้าสู่รูปแบบแฟรนไชส์ได้อย่าง
จริงจังประมาณต้นปีหน้า
กับตำแหน่างใหม่ในอีซี่ส์พัชราวดีวางแนว ทางธุรกิจไว้ว่า อีซี่ส์จะไม่เป็นผู้ทำตลาดไส้กรอก
อย่างเดียวแต่จะมีสินค้าอย่างอื่นรวมอยู่ด้วย โดยตั้งเป้าต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสไตล์ยุโรปที่เหมาะกับคนไทย
โดยการขยายตัวในรูปแบบแฟรนไชส์จะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ทำให้อีซี่ส์ ขยายตัวได้อีกมากในธุรกิจไส้กรอก
จากเดิมที่คนส่วนมากจะรู้จักอีซี่ส์ว่าเป็นผู้ขายไส้กรอกแต่ทุกวันอีซี่ส์พยายามเข้าสู่อาหารใน
หมวดอื่นไม่ว่าจะเป็นข้าว ไก่ทอด เพื่อให้เกิดความ หลากหลายโดยอาศัยความได้เปรียบของการมีโรงงานของบริษัทในเครือที่มีสินค้าอีกหลายอย่าง
พร้อมให้นำมาเป็นหนึ่งในโปรดักส์ในร้านได้
ณ วันนี้อีซี่ส์มองว่าตัวเองยังไม่มีคู่แข่งโดย ตรงที่เป็นไส้กรอกอย่างชัดเจน
แต่จะมีระดับที่สูง ขึ้นไปเป็นร้านพวกเยอรมัน ฝรั่งเศส
"หากจะมองในแง่การบริหารธุรกิจนี้เพื่อให้ ประสบความสำเร็จในความเห็นของผู้บริหารคนใหม่แล้วคิดว่าอยู่ที่การครองใจลูกค้า
ทั้งลูกค้าเก่า ที่มีอยู่และการแสวงหาลูกค้าใหม่เข้ามาโดยต้องพยายามปรับปรุงสินค้าให้มีความเคลื่อนไหว
อยู่เสมอเป็นนโยบายในการทำธุรกิจที่วางไว้" ผู้บริหารอีซี่ส์กล่าวในตอนท้าย