|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลท.หวังดึงเงินลงทุน ตลท.เล็งดึงเม็ดเงินจีนเข้าตลาดหุ้นไทย เตรียมเฟ้น 10 บจ. ใน SET50 โรดโชว์ สิงหาคมนี้ เผยบจ. ติดโผไปจีน ปตท. ซีพี และกลุ่มแบงก์ เป็นจังหวะที่ดี ที่จะดึง เม็ดเงิน หลังจากค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนจีนมีอำนาจการใช้จ่ายมากขึ้น ปีนี้ครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-จีน ด้านงานไทยแลนด์โฟกัส ที่จัดขึ้น ก.ย.นี้ รอผลตอบรับจากนักลงทุนต่างประเทศ
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองกรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การไปโรด-โชว์ที่ประเทศจีนในเดือนสิงหาคมนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทที่ จะนำไปโรดโชว์ โดยจะคัดเลือกบริษัท ชั้นนำที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ขนาดใหญ่ ที่อยู่ใน SET 50 ซึ่งจะนำไป 10 บริษัท เช่น กลุ่มพลังงาน คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)หรือ PTT กลุ่มธนาคาร ฯลฯ และจะเชิญกลุ่มบริษัท CP เพราะบริษัทดังกล่าวเป็นที่รู้จักของนักลงทุนในประเทศจีน
"การไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนในเดือน ส.ค.นี้ จะคัดเลือกบริษัทชั้นนำจำนวน 10 บริษัท ที่อยู่ใน SET 50 ซึ่งจะเรียงตามมาร์เกตแคป แต่ก็จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง เช่น กลุ่มพลังงาน อย่าง ปตท.ต้องนำไปแน่นอน กลุ่มแบงก์บางส่วน และกลุ่ม CP เพราะ เป็นที่รู้จักของคนในประเทศจีน" นางสาวโสภาวดีกล่าว
ทั้งนี้ การไปโรดโชว์ในครั้งนี้ เพื่อที่จะ แนะนำบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ให้ นักลงทุนในประเทศจีนได้รู้จักและเข้าลงทุนในบริษัทจดทะเบียนของไทย ทำให้สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพราะจากการที่จีนมีการขึ้นค่าเงินหยวนนั้น จะทำให้ประชาชนของจีนมีอำนาจ ในการซื้อมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานั้นบริษัทในประเทศไทยได้มีการเข้าไปลงทุนในประเทศจีนจำนวนมาก แต่จีนนั้นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยยังน้อย แต่จะมีความคุ้นเคยกับนักลงทุนจีน-ไต้หวันมากกว่า โดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯไม่มีตัวเลขของ นักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
สำหรับการไปโรดโชว์ในครั้งนี้นับเป็นโอกาสที่ดี นอกจากจะแนะนำบริษัทไทยให้นักลงทุน จีนได้รู้จักแล้ว ปีนี้ยังเป็นปีครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน แต่ยังไม่มีการกำหนดวันที่จะ เดินทาง เพราะต้องรอหมายกำหนดการจากกระทรวง การคลังก่อน เพราะการไปครั้งนี้กระทรวงการคลังเป็นแกนนำในการเดินทางไปในครั้งนี้
รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการจัดงานไทยแลนด์โฟกัสที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ขณะนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างรอผลการตอบรับจากนักลงทุนต่างประเทศที่ให้ทางสมาคมโบรกเกอร์ต่างประเทศเป็นผู้เชิญผู้บริหารกองทุน (ฟันเมเนเจอร์)จากต่างประเทศ โดยรูปแบบการจัดงานก็จะเป็นการนำเสนอข้อมูลแบบตัวต่อตัว (วัน บาย วัน )และจะมีการสรุปภาพรวมเศรษฐกิจของไทย 1 วัน ซึ่งรูปแบบอาจจะมีการแตกต่างบ้างจากปีที่ผ่านมา
นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรก ของปี(ม.ค.-มิ.ย.48) มูลค่าการซื้อขายหุ้นของจังหวัดสงขลายังคงครองอันดับหนึ่งของประเทศ (ไม่รวมกรุงเทพฯและปริมณฑล) โดยมียอดซื้อขายรวม 142,667.51 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละเกือบ 24,000 ล้านบาท นับว่าผู้ลงทุนยังให้ความสนใจลงทุน ในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 18 แห่ง ที่เปิดสำนักงานสาขาอยู่ในภาคใต้จำนวน 48 แห่ง โดยจังหวัดสงขลามีสำนักงานสาขาของบริษัทหลักทรัพย์มากถึง 21 แห่ง
"การจัดงานตลาดหลักทรัพย์สัญจรที่สงขลาครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดใกล้เคียงแต่การลงทุนในภาคใต้และจังหวัดสงขลาไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เมื่อดูจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของปี 2548 เทียบกับปี 2547 การไปให้ข้อมูลครั้งนี้จึงถือได้ว่าเป็นการไป ให้กำลังใจและไปช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ลงทุนในจังหวัดภาคใต้" นางสาวโสภาวดีกล่าว
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์สัญจร จ.สงขลาจะจัดในวันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2548 ที่ห้องตะกั่วป่า โรงแรมเจบี หาดใหญ่ระหว่าง 09.00-17.00 น. โดยนอกจากจะมีบูทนิทรรศการของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัทย่อย แล้วยังมีตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าฯ และโบรกเกอร์สินค้าเกษตรล่วงหน้าไปร่วมออก บูท และให้ความรู้แก่ผู้สนใจ รวมทั้งสิ้น 28 แห่ง
|
|
|
|
|